00 ยังเรียกว่าคงเส้นคงวาเหมือนเดิมสำหรับ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ที่ยังบิดเบือน ปลุกระดมสร้างสถานการณ์เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ โดยหวังว่าจะใช้สถานการณ์จากภายนอกเข้ามาบีบ เพื่อให้ตัวเองรอด ที่ต้องพูดแบบนี้ก็เพราะว่าหลังจากที่ กกต.มีมติ 4 ต่อ1 ให้เขาพ้นสมาชิกภาพ ส.ส. เนื่องจากไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จากกรณีถูกศาลสั่งจำคุก แม้ว่าตามขั้นตอนยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะมีข้อสรุป เพราะต้องผ่านมือประธานรัฐสภา สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่เป็นพวกเดียวกัน ก่อนที่จะไปถึงการชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
00 การออกมาโวยวายของ จตุพร ทำนองว่า เขาถูกกลั่นแกล้ง อ้างว่าไม่ได้เป็นคนที่ขาดคุณสมบัติ เพราะที่ผ่านมาพยายามยื่นขอต่อศาลเพื่อไปใช้สิทธิ์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต สรุปรวมๆ ก็คือถูกกลั่นแกล้งว่างั้นเถอะ ข้ออ้างที่บอกว่าเขาอยากไปใช้สิทธิ์ใจจะขาด แต่ออกไปไม่ได้ ดังนั้นเขาก็ไม่น่าจะขาดคุณสมบัติ แต่ความหมายแท้จริงก็คือ หากคนอย่างจตุพร คิดอย่างนี้ แล้วเชื่อว่านักโทษในคุกทุกคนคงคิดแบบเดียวกัน นั่นคือต้องการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่ออกไปไม่ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่ง “กำนันเป๊าะ” ที่กำลังหนีคดีอยู่ในเวลานี้ ก็ต้องการไปใช้สิทธิ์ แต่มาไม่ได้
00 แม้อ้างว่าไม่เหมือนกัน เพราะเขายังไม่มีคำพิพากษา มันก็น่าจะใช่ แต่คำถามก็คือต้องย้อนกลับไปพิจารณาว่า เป็นเพราะสาเหตุใดล่ะที่ต้องถูกคุมขังอยู่ เป็นเพราะทำความผิด ต้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จนต้องถูก “ถอนประกัน” ไม่ใช่หรือ นั่นก็ย่อมประจักษ์แจ้งแล้วว่ามีที่มาที่ไป ถูกศาลสั่งขังตามกฎหมาย ดังนั้นจะมาพูดตัดตอนเอาแต่ได้ เพื่อปลุกระดมให้ตัวเองได้ประโยชน์คงไม่ได้ ขณะเดียวกันหากคิดว่าจะนำมวลชนมากดดันตามที่ตัวเองต้องการ หรือคิดจะไปเผาที่ไหนก็เชิญ
00 พิจารณาดูตามสัญญาณที่เห็นออกมาจากบางคนที่น่าจะรับฟังได้ก็คือ คำพูดของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และมท.1 ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุเมื่อถูกถามเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีว่าต้องรอหลังปีใหม่แล้วค่อยมาว่ากัน นั่นก็ย่อมหมายความว่า “น่าจะมีปรับเปลี่ยน” โดยปรับครม. บางตำแหน่ง เป้าหมายเพื่อเบี่ยงเบนลดกระแสโจมตีที่จะพุ่งมาถึงตัว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยตรง เพราะรู้ว่าหลังจากน้ำลด ปัญหาต่างๆจะรุมเร้าหนักหนาสาหัสกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยก็ซื้อเวลาไปได้อีกพักหนึ่ง
00 อีกทั้งถ้ามีการปรับครม.จริง เชื่อว่าคราวนี้ “เสี่ยเหลี่ยม” ทักษิณ ชินวัตร น่าจะต่อรองดึงเอาโควตากระทรวงเกษตรฯ ของ “เสี่ยเติ้ง” มาอยู่ในสังกัดของพรรคเพื่อไทย เป้าหมายอยู่ที่กรมชลประทาน นอกเหนือจากการบริหารจัดการน้ำแล้ว ยังมีความหมายในเรื่องงบประมาณจำนวนมหาศาลตามมาด้วย อย่างหลังนี่แหละที่สำคัญกว่า !!
00 การออกมาโวยวายของ จตุพร ทำนองว่า เขาถูกกลั่นแกล้ง อ้างว่าไม่ได้เป็นคนที่ขาดคุณสมบัติ เพราะที่ผ่านมาพยายามยื่นขอต่อศาลเพื่อไปใช้สิทธิ์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต สรุปรวมๆ ก็คือถูกกลั่นแกล้งว่างั้นเถอะ ข้ออ้างที่บอกว่าเขาอยากไปใช้สิทธิ์ใจจะขาด แต่ออกไปไม่ได้ ดังนั้นเขาก็ไม่น่าจะขาดคุณสมบัติ แต่ความหมายแท้จริงก็คือ หากคนอย่างจตุพร คิดอย่างนี้ แล้วเชื่อว่านักโทษในคุกทุกคนคงคิดแบบเดียวกัน นั่นคือต้องการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่ออกไปไม่ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่ง “กำนันเป๊าะ” ที่กำลังหนีคดีอยู่ในเวลานี้ ก็ต้องการไปใช้สิทธิ์ แต่มาไม่ได้
00 แม้อ้างว่าไม่เหมือนกัน เพราะเขายังไม่มีคำพิพากษา มันก็น่าจะใช่ แต่คำถามก็คือต้องย้อนกลับไปพิจารณาว่า เป็นเพราะสาเหตุใดล่ะที่ต้องถูกคุมขังอยู่ เป็นเพราะทำความผิด ต้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จนต้องถูก “ถอนประกัน” ไม่ใช่หรือ นั่นก็ย่อมประจักษ์แจ้งแล้วว่ามีที่มาที่ไป ถูกศาลสั่งขังตามกฎหมาย ดังนั้นจะมาพูดตัดตอนเอาแต่ได้ เพื่อปลุกระดมให้ตัวเองได้ประโยชน์คงไม่ได้ ขณะเดียวกันหากคิดว่าจะนำมวลชนมากดดันตามที่ตัวเองต้องการ หรือคิดจะไปเผาที่ไหนก็เชิญ
00 พิจารณาดูตามสัญญาณที่เห็นออกมาจากบางคนที่น่าจะรับฟังได้ก็คือ คำพูดของ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และมท.1 ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุเมื่อถูกถามเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีว่าต้องรอหลังปีใหม่แล้วค่อยมาว่ากัน นั่นก็ย่อมหมายความว่า “น่าจะมีปรับเปลี่ยน” โดยปรับครม. บางตำแหน่ง เป้าหมายเพื่อเบี่ยงเบนลดกระแสโจมตีที่จะพุ่งมาถึงตัว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยตรง เพราะรู้ว่าหลังจากน้ำลด ปัญหาต่างๆจะรุมเร้าหนักหนาสาหัสกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยก็ซื้อเวลาไปได้อีกพักหนึ่ง
00 อีกทั้งถ้ามีการปรับครม.จริง เชื่อว่าคราวนี้ “เสี่ยเหลี่ยม” ทักษิณ ชินวัตร น่าจะต่อรองดึงเอาโควตากระทรวงเกษตรฯ ของ “เสี่ยเติ้ง” มาอยู่ในสังกัดของพรรคเพื่อไทย เป้าหมายอยู่ที่กรมชลประทาน นอกเหนือจากการบริหารจัดการน้ำแล้ว ยังมีความหมายในเรื่องงบประมาณจำนวนมหาศาลตามมาด้วย อย่างหลังนี่แหละที่สำคัญกว่า !!