ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2554 ของบริษัทจดทะเบียน 57 บริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ mai มียอดขายรวม 15,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 35% โดย 48 บริษัทมีผลกำไร และ 3 บริษัทจ่ายปันผลระหว่างกาล ได้แก่ MACO, NBC และ UIC
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 57 บริษัท จาก 70 บริษัท นำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 3/2554 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 โดยมียอดขายรวม 15,249 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 876 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 35.35% และ 8.39% ตามลำดับ ทั้งนี้ สำหรับงวดสะสม 9 เดือนแรกปี 2554 มียอดขายรวม 42,615 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 2,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33.13% และ 38.88% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.42 % ลดลงจาก 22.16%
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดเผยว่าบริษัทจดทะเบียนใน mai ที่นำส่งผลการดำเนินงานรอบนี้มีผลกำไร 48 บริษัท ในจำนวนนี้มี 14 บริษัทที่มียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2554 และช่วงเดียวกันของปี 2553 ได้แก่ บมจ. ไอร่า แฟคตอริ่ง (AF) บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) บมจ. เออาร์ไอพี (ARIP) บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) บมจ. มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล (MOONG) บมจ. ออฟฟิศเมท (OFM) บมจ. ไพลอน (PYLON) บมจ. ควอลลีเทค (QLT) บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) และ บมจ. โรงพยาบาลไทยนครินทร์ (TNH)
“สำหรับผลกระทบจากอุทกภัยต่อบริษัทจดทะเบียนใน mai นั้น ข้อมูลที่เปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงิน พบว่ามี 3 บริษัทแจ้งว่าไม่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญ ขณะที่ 6 บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบ และ 7 บริษัทได้รับผลกระทบทั้งทางตรงหรือผ่าน supply chain โดยบริษัทส่วนใหญ่ได้ทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงของทรัพย์สินแล้ว” นายชนิตรกล่าวสรุป
ข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ยังไม่นับรวมบริษัทจดทะเบียนใน mai 12 บริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ผ่อนผันเกณฑ์โดยขยายเวลาการส่งงบการเงินไตรมาสสิ้นสุด 30 กันยายน 2554 เนื่องจากมีเหตุจำเป็นที่เกี่ยวเนื่องจากน้ำท่วม
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 57 บริษัท จาก 70 บริษัท นำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 3/2554 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 โดยมียอดขายรวม 15,249 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 876 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 35.35% และ 8.39% ตามลำดับ ทั้งนี้ สำหรับงวดสะสม 9 เดือนแรกปี 2554 มียอดขายรวม 42,615 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 2,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33.13% และ 38.88% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 21.42 % ลดลงจาก 22.16%
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดเผยว่าบริษัทจดทะเบียนใน mai ที่นำส่งผลการดำเนินงานรอบนี้มีผลกำไร 48 บริษัท ในจำนวนนี้มี 14 บริษัทที่มียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2554 และช่วงเดียวกันของปี 2553 ได้แก่ บมจ. ไอร่า แฟคตอริ่ง (AF) บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) บมจ. เออาร์ไอพี (ARIP) บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) บมจ. มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล (MOONG) บมจ. ออฟฟิศเมท (OFM) บมจ. ไพลอน (PYLON) บมจ. ควอลลีเทค (QLT) บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) และ บมจ. โรงพยาบาลไทยนครินทร์ (TNH)
“สำหรับผลกระทบจากอุทกภัยต่อบริษัทจดทะเบียนใน mai นั้น ข้อมูลที่เปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงิน พบว่ามี 3 บริษัทแจ้งว่าไม่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญ ขณะที่ 6 บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบ และ 7 บริษัทได้รับผลกระทบทั้งทางตรงหรือผ่าน supply chain โดยบริษัทส่วนใหญ่ได้ทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงของทรัพย์สินแล้ว” นายชนิตรกล่าวสรุป
ข้อมูลผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ยังไม่นับรวมบริษัทจดทะเบียนใน mai 12 บริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ผ่อนผันเกณฑ์โดยขยายเวลาการส่งงบการเงินไตรมาสสิ้นสุด 30 กันยายน 2554 เนื่องจากมีเหตุจำเป็นที่เกี่ยวเนื่องจากน้ำท่วม