โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
อ่า! นายกฯ ปู โคลนนิ่ง น้องสุดเลิฟของผีบุญเหลี่ยมร้ายเริ่มมีประสบการณ์ในด้านต่อสู้กับความชราภาพ ความเหี่ยวย่น ซึ่งคุกคามใบหน้าที่ยังเหลือร่องรอยของความไร้เดียงสาอยู่เกือบเต็มบ้อง หลังจากพร่องเพราะภารกิจผู้นำประเทศ
วิกฤตจากอุทกภัยหนักหนาสาหัสในรอบ 100 ปีของประเทศไทยไม่ทำให้เธอลดดีกรีความยิ้มแย้มลงได้ อาจเป็นเพราะความใจเย็น ไม่รู้สึกรู้สา
ไม่เคยรู้ว่าการไปนอนดมกลิ่นน้ำเน่าในพื้นที่น้ำท่วมตามชุมชนหมู่บ้านนั้นแตกต่างจากการนอนอาบน้ำแร่แช่น้ำนมในอ่างสปาหรูหราตามประสาเศรษฐีสาว มีชีวิตสไตล์ลั้ลลาด้วยเงินตรามหาศาลพี่เหลี่ยมร้ายแบ่งปันให้
การได้เป็นผู้นำรัฐบาลได้กว่า 2 เดือน เธอจะถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยว่าเป็นยุคแห่งความหายนะวินาศสันตะโรในรอบ100 ปี
นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของวิกฤตยืดเยื้อ หลังจากน้ำแห้ง จะมีปัญหาสารพัด เช่นความแร้นแค้นอดอยากจากสภาวะข้าวยากหมากแพง โรคภัยไข้เจ็บ การว่างงาน อาชญากรรมสารพัด กลไกกฎหมายหมดสภาพ
เธอจะยืนระยะถึงวันนั้นหรือไม่ ท่ามกลางแรงกดดัน? แน่นอน! การไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้เธอทนทาน! ไม่ใช่ความเลือดเย็น แต่เป็นเพราะ “หนูไม่รู้” หรือหนูรู้ หนูก็หาแพะได้
นั่นยังเป็นปริศนา! คำเฉลยหรือเงื่อนงำอาจซ่อนเร้นในบันทึกส่วนตัว มีคนเก็บได้ระหว่างเส้นทางจากทำเนียบรัฐบาลก่อนขึ้นทางด่วนยมราชไปอาคารเอ็นเนอร์ยี ใกล้สี่แยกลาดพร้าว เป้าหมายของการคุกคามของน้ำหลากทุ่ง
“จะมีใครรู้มั้ยหนอ ว่าการเป็นนายกฯ มันต่างจากการถูกอุปโลกน์ให้นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท จัดการธุรกิจวงเงินเป็นหมื่นๆ ล้านบาท ทุกวันนี้ต้องทำหน้าชื่นอกตรม นอนร้องไห้กับหมอนคนเดียวทุกคืน
ถ้าวิกฤตน้ำท่วมผ่านไป ปัญหาสารพัดจะตามมา หนูจะสู้ไหวหรือ สับสนไปหมด แทบไม่อยากแต่งหน้าแต่งตัว ละทิ้งความเป็นเจ้าแม่แบรนด์เนม อยากเป็นอีเม้ย ยายเพิ้ง เพราะโดยสภาพแล้ว ส่องกระจก ก็ดูไม่ต่างกันนัก
ถ้าเข้าชะตาร้าย อนาคตหนูจะลงเอยอย่างไร รอดจากการประณามของชาวบ้าน 15 ล้านคน ซึ่งเราไปใช้นโยบายประชานิยมหลอกซึ่งหน้าหรือไม่
ได้แต่หวังว่าพี่เหลี่ยมร้ายคงไม่ยอมให้หนูตายเดี่ยว! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พี่เหลี่ยมคงต้องพึ่งพาหนูเพราะโดยสภาพแล้วหนูคงไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว
ยังดี หนูไม่มีห่วงเรื่องวิกฤตศรัทธาผู้นำ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เคยศรัทธา! ตัวหนูเองนั้นไม่เคยมีสภาวะผู้นำ ที่ผ่านเป็นเหมือนการจัดฉากอีเว้นท์ตามถนัด เหมือนโมเดลนางแบบเดินนวยนาด ลีลาโบกมือบนเวทีโชว์เท่านั้น
หนูงงเหมือนกัน การประชุม ครม. ครั้งก่อน พวกผู้ชายหัวหงอก หัวดำ หัวล้าน และหัวงู หัวง่าม ทั้งหลายพยายามแหลให้หนูเหลิง หลงระเริงว่าหนูเป็นผู้นำที่เก่งฉกาจ กล้าหาญ อึด มีน้ำอดน้ำทน บอก “นายกฯ สู้ๆ”
สู้เพื่อใคร หนูรู้เพียงแต่ว่าหนูไม่ได้สู้เพื่อตัวหนู ไม่มีสิทธิคิดเองด้วยซ้ำ!
หนูประกาศให้โลกรู้ท่ามกลางวิกฤตเสมอว่า “หนูเอาอยู่” แต่ทุกครั้งก็เอาไม่อยู่ และไม่รู้ว่าทำไมถึงเอาไม่อยู่! นี่เป็นปัญหาคาใจชาวบ้านมาก
ยิ่งกว่านั้น พวก ครม.นั่งล้อมรอบมันพากันปรบมือยกยอหนูว่าเก่ง! นั่นเป็นการเชลียร์ระยะเผาขนจนรู้สึกได้ว่าลิ้นพวกหัวหงอก หัวหงอน หัวงูนั้นมีพิษร้ายกาจ หนูแทบไม่ต้องใช้บริการสปาแว๊กซ์ขนหน้าแข้งอีกต่อไป
เป็นนายกฯ หญิง มีพวกไอ้เฒ่าและไอ้หนุ่มมันผลัดกันแว็กซ์ขนให้หนูด้วยลีลาไม่ซ้ำกันจริงๆ เป็นการแย่งกันเชลียร์หนูแบบซึ่งหน้าจนหนูสยองขน!
หนูก็รู้ว่าไอ้พวกนั่งรอบโต๊ะ ครม. นั้นเป็นพวกลวงโลก มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เขี้ยวลากดิน เกล็ดแตกลายงาทั้งนั้น! มันคงนึกว่าหนูเป็นตัวหน้าโง่ หลอกใช้ด้วยการยกยอปอปั้น จนบางครั้งหนูก็สงสัยว่าหนูโง่จริงหรือไม่
ยังมีคำครหาว่า “หนูสวยแต่โง่” เป็นเสียงร่ำลือ ค่อนแคะ ได้ยินมานาน แม้แต่คนสนิทใกล้ชิดก็แอบนินทาลับหลัง! ที่น่าเจ็บใจ น้อยใจ และอยากวีนมากๆ คือไม่มีใครแก้ต่างแทนหนูสักคน มีแต่รวมหัวกันหัวร่อคิกคัก
“หนูสวยแต่โง่” จริงหรือ? ประเด็นให้ชวนคิดคือ “ถ้าหนูมีความฉลาดอยู่บ้าง หนูน่าจะรู้ข้อจำกัดของตัวเอง และไม่ยอมทำตามคำหว่านล้อมของพี่เหลี่ยมร้ายจนต้องกลายมาเป็นนายกฯ ด้วยประสบการณ์การเมือง 48 วัน”
มาถึงจุดนี้พี่เหลี่ยมร้ายอาจแอบอิจฉาหนูในใจลึกๆ! ในยุคพี่เหลี่ยมนั้น มีหายนะจากสึนามิ คนตายในเมืองไทยหลายพัน หลายจังหวัดภาคไต้พินาศ
ต้องใช้เวลาเยียวยาตั้งนาน ที่สำคัญ พี่เหลี่ยมต้องกลั้นใจควักกระเป๋าบริจาคให้ตั้ง 1 ล้านบาท เป็นการผิดวิสัยอย่างมาก หนูเองก็ยังประหลาดใจ
หรือเป็นเพราะยุคของหนูเป็นนายกฯ หนูยังทำอะไรตามใบสั่งไม่ได้เต็มที่ บ้านเมืองต้องมีอันเป็นไปด้วยอุทกภัยพิบัติ ทำให้หนูต้องมองภาพรวม คิดค้นแผนบูรณาการ ระดมสรรพกำลัง เป็นการใช้สมองครั้งใหญ่ในชีวิต
เมื่อหนูแซงหน้าพี่เหลี่ยมร้ายในการสร้างความวิบัตื คงจะเป็นหลายล้านล้านบาท นิคมอุตสาหกรรมพินาศ 7 แห่ง คนยากจนทั้งแผ่นดิน
หนูเป็นละอ่อนการเมืองก็จริง แต่ศักยภาพด้านการทำลายนั้นไม่เป็นรองใคร แม้แต่พี่เหลี่ยมร้ายเองก็คงเข็มขัดสั้น คาดไม่ถึงเช่นกัน!
พลังแห่งความร้ายกาจของหนูคงทำให้พี่โกรธ จึงไม่ยอมควักกระเป๋าบริจาคช่วยเหลือคนเสื้อแดง เหยื่อการต้มตุ๋นของเราแม้แต่บาทเดียว! เก็บตัวเงียบ คงกลัวชาวบ้านขอเงิน แต่พี่เหลี่ยมยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม!
พี่เหลี่ยมไม่บริจาคเงิน สิ่งของ แต่มาตั้ง “ครัวดูไบ” โดยหนูไม่รู้ว่าเอาอาหารไทยมาจากไหน สิ่งของใส่รถขนไปบริจาคให้ชาวบ้านหนูไม่รู้ว่าพี่เหลี่ยมส่งมาให้ตั้งแต่เมื่อไหร่
หรือพี่ไปกระซิบให้พวกผีโม่แป้งตัวไหนสวมรอย เอาชื่อพี่ใส่?
“บอกตรงๆ หนูงงไปหมดแล้ว ทำอะไรไม่ถูก ไปไม่เป็น เขายิ่งแซวหนูว่าสวยแต่โง่ ฟังนานๆ ทำให้หนูละเมอเพ้อว่าหนูคงโง่จริง”
แต่นั่นแหละ! หนูไม่ฉลาดพอที่จะรู้ว่าหนูโง่หรือฉลาด หรือผสมกัน!
ใครในโลกนี้จะสร้างความกระจ่าง เป็นแสงสว่างส่องทางชีวิตให้หนูพ้นจากการเป็นทาสภายไต้คำบงการของพี่เหลี่ยมร้ายได้! หนูไม่เข็ด แต่หนูอยากเปลี่ยนอีเว้นท์บ้าง! ทุกวันนี้หนูยังถูกนินทาว่า “อีไม่เว้น”
เห็นใจหนูบ้าง หนูกลัวความสวยกำลังจะจากหนูไป แต่ความโง่จะอยู่กับหนูตลอดกาล หนูไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรจริงๆ นิ! ฮือๆ! ไม่มีใครอิอิกับหนู!!