ASTVผู้จัดการรายวัน-“ส.อ.ท.” ขอความร่วมมือสมาชิกตรึงราคาสินค้าหน้าโรงงานช่วงน้ำท่วมลดความเดือดร้อนประชาชน แต่ยอมรับที่แพงเหตุผู้ค้ารายย่อยไปปรับขึ้นเอง ขณะที่สินค้าขาดแคลนชี้ให้เห็นถึงวิกฤตยี่ปั๊ว ซาปั๊วไทยถูกทำลายเหลือแต่โมเดิร์นเทรดรายใหญ่ผูกขาดไม่กี่รายจี้รัฐบาลต้องเร่งฟื้นด่วน
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทที่เป็นสมาชิกส.อ.ท.ในการช่วยตรึงราคาสินค้าหน้าโรงงานในช่วงที่เกิดปัญหาน้ำท่วม เพื่อลดภาระความเดือดร้อนของประชาชน
เบื้องต้นได้รับการร่วมมือจากสมาชิกเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามสินค้าหลายรายการที่มีราคาแพงนั้นคาดว่าเกิดจากการที่ผู้ค้ารายย่อยบวกราคาจากค่าขนส่งและฉวยโอกาสโก่งราคาของผู้ค้ารายย่อยบางราย
“ยอมรับว่าขณะนี้ผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มได้รับความเดือดร้อนจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น จากภาวะน้ำท่วมที่กระทบทั้งวัตถุดิบและการขนส่งที่ลำบากและต้องไกลขึ้น แต่ผู้ผลิตต้นทางส่วนใหญ่ก็ไม่มีการปรับราคาขายหน้าโรงงานแต่อย่างใด”นายพยุงศักดิ์กล่าว
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้บริโภคขาดแคลนสินค้าในช่วงที่มีการกักตุนไว้ในยามน้ำท่วม ส่วนหนึ่งมาจากการทำลายระบบยี่ปั๊ว ซาปั๊วของคนไทย เพราะปัจจุบันร้านค้าสมัยใหม่มีเพียง 5-6 รายที่ผูกขาดตลาดส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติ ทั้งที่ระบบยี่ปั๊วซาปั๊วแบบดั้งเดิมเปรียบเหมือนกับกองทัพมดที่สามารถกระจายสินค้าไปยังร้านโชห่วยและพ่อค้ารายย่อยทั่วประเทศได้ในเกือบทุกสถานการณ์ เพราะมีความอดทนและชำนาญในพื้นที่ต่างๆได้ดีกว่าระบบการกระจายสินค้าสมัยใหม่
**โรจนะเร่มฟื้นฟูนิคมฯ7พ.ย.
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบการเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ ว่า เบื้องต้นมี 3 นิคมอุตสาหกรรมคือ เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินและนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค)ที่คาดว่า น่าจะเริ่มทยอยเข้าพื้นที่เพื่อฟื้นฟูได้ภายในสัปดาห์หน้าโดยกระทรวงจะเป็นตัวกลางในการประสานงานให้ว่าผู้ประกอบการในแต่ละนิคมต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง
ทั้งนี้วันที่ 7 พ.ย.นี้ ทางเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ จะเริ่มเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ถูกน้ำท่วมขัง โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมโรจนะทั้งหมดประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ว่าจ้างให้บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และบริษัท คริสเตียนิและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน)ให้เป็นผู้สูบน้ำออก
***แมคโดนัลด์ปิดหนีน้ำ14แห่ง
นายเฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อร้านแมคโดนัลด์ต้องปิดบริการไปแล้วกว่า 14 สาขา และดีลิเวอรี่อีก 24 สาขา เนื่องจากสาขาและศูนย์การค้าที่แมคโดนัลด์เปิดบริการอยู่ถูกน้ำท่วม เช่น ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เซ็นทรัลปิ่นเกล้า อยุธยา เป็นต้น ส่าสุดปิดบริการสาขาที่ตลิ่งชัน แต่ไม่ได้ปิดเพราะขาดแคลนวัตถุดิบ จากจำนวนสาขาทั้งหมด155 สาขา
***ฮอนด้าหยุดผลิตไม่มีกำหนด
ขณะที่ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เปิดเผยวานนี้ (31 ต.ค.) สถานการณ์ล่าสุด โรงงานผลิตรถยนต์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา หยุดผลิตตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.54 เนื่องจากขาดแคลนชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต ต่อมาในวันที่ 8 ตุลาคม 2554 โรงงานได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ และยังไม่สามารถกำหนดว่า จะเริ่มผลิตได้อีกครั้งเมื่อใด
**ชาร์เตอร์ไฟล์ทจีนยกเลิกเข้าภูเก็ต
นายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทย ภาคใต้ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจาก จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลของแต่ละประเทศออกคำเตือน เป็นผลให้เที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท) ที่จะมาลง จ.ภูเก็ต ในเดือนพ.ย.นี้ ทยอยยกเลิก คงเหลือนักท่องเที่ยวจากประเทศ ยุโรปและออสเตรเลีย ที่ยังพอมีเดินทางเข้ามาบ้าง แต่ที่จองเดินทางช่วงเดือนธันวาคม ยังคงรอดูสถานการณ์
***อัด รมว. ท่องเที่ยวหายจ้อย***
อย่างไรก็ตาม เหตุที่เป็นเช่นนี้ทั้งที่ภูเก็ต ไม่ใช่พื้นที่น้ำท่วม เป็นเพราะการสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวของรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวของ ยังทำได้ไม่ดีพอ แทนที่จะสื่อสารไปยังบริษัทนำเที่ยว และ นักท่องเที่ยวว่า ภูเก็ต สมุย กระบี่ พังงา เชียงใหม่ และอีกหลายพื้นที่ในภาคใต้ของไทย ไม่ใช้พื้นที่น้ำท่วม รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ท่านหายไปไหน ไม่ออกมาสั่งหรือกำกับการทำงานด้านนโยบายด้านการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวให้ชัดเจน ทางที่ดีควรรีบสื่อสารให้ชัดเจนไปยังบุคคลาเหล่านั้น ให้ทราบว่า ประเทศไทย ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เดินทางท่องเที่ยวได้
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทที่เป็นสมาชิกส.อ.ท.ในการช่วยตรึงราคาสินค้าหน้าโรงงานในช่วงที่เกิดปัญหาน้ำท่วม เพื่อลดภาระความเดือดร้อนของประชาชน
เบื้องต้นได้รับการร่วมมือจากสมาชิกเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามสินค้าหลายรายการที่มีราคาแพงนั้นคาดว่าเกิดจากการที่ผู้ค้ารายย่อยบวกราคาจากค่าขนส่งและฉวยโอกาสโก่งราคาของผู้ค้ารายย่อยบางราย
“ยอมรับว่าขณะนี้ผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มได้รับความเดือดร้อนจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น จากภาวะน้ำท่วมที่กระทบทั้งวัตถุดิบและการขนส่งที่ลำบากและต้องไกลขึ้น แต่ผู้ผลิตต้นทางส่วนใหญ่ก็ไม่มีการปรับราคาขายหน้าโรงงานแต่อย่างใด”นายพยุงศักดิ์กล่าว
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้บริโภคขาดแคลนสินค้าในช่วงที่มีการกักตุนไว้ในยามน้ำท่วม ส่วนหนึ่งมาจากการทำลายระบบยี่ปั๊ว ซาปั๊วของคนไทย เพราะปัจจุบันร้านค้าสมัยใหม่มีเพียง 5-6 รายที่ผูกขาดตลาดส่วนใหญ่เป็นของต่างชาติ ทั้งที่ระบบยี่ปั๊วซาปั๊วแบบดั้งเดิมเปรียบเหมือนกับกองทัพมดที่สามารถกระจายสินค้าไปยังร้านโชห่วยและพ่อค้ารายย่อยทั่วประเทศได้ในเกือบทุกสถานการณ์ เพราะมีความอดทนและชำนาญในพื้นที่ต่างๆได้ดีกว่าระบบการกระจายสินค้าสมัยใหม่
**โรจนะเร่มฟื้นฟูนิคมฯ7พ.ย.
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบการเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ ว่า เบื้องต้นมี 3 นิคมอุตสาหกรรมคือ เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินและนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค)ที่คาดว่า น่าจะเริ่มทยอยเข้าพื้นที่เพื่อฟื้นฟูได้ภายในสัปดาห์หน้าโดยกระทรวงจะเป็นตัวกลางในการประสานงานให้ว่าผู้ประกอบการในแต่ละนิคมต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง
ทั้งนี้วันที่ 7 พ.ย.นี้ ทางเขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ จะเริ่มเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่ถูกน้ำท่วมขัง โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมโรจนะทั้งหมดประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ว่าจ้างให้บริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และบริษัท คริสเตียนิและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน)ให้เป็นผู้สูบน้ำออก
***แมคโดนัลด์ปิดหนีน้ำ14แห่ง
นายเฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อร้านแมคโดนัลด์ต้องปิดบริการไปแล้วกว่า 14 สาขา และดีลิเวอรี่อีก 24 สาขา เนื่องจากสาขาและศูนย์การค้าที่แมคโดนัลด์เปิดบริการอยู่ถูกน้ำท่วม เช่น ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เซ็นทรัลปิ่นเกล้า อยุธยา เป็นต้น ส่าสุดปิดบริการสาขาที่ตลิ่งชัน แต่ไม่ได้ปิดเพราะขาดแคลนวัตถุดิบ จากจำนวนสาขาทั้งหมด155 สาขา
***ฮอนด้าหยุดผลิตไม่มีกำหนด
ขณะที่ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ของฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เปิดเผยวานนี้ (31 ต.ค.) สถานการณ์ล่าสุด โรงงานผลิตรถยนต์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา หยุดผลิตตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.54 เนื่องจากขาดแคลนชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต ต่อมาในวันที่ 8 ตุลาคม 2554 โรงงานได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ และยังไม่สามารถกำหนดว่า จะเริ่มผลิตได้อีกครั้งเมื่อใด
**ชาร์เตอร์ไฟล์ทจีนยกเลิกเข้าภูเก็ต
นายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทย ภาคใต้ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจาก จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลของแต่ละประเทศออกคำเตือน เป็นผลให้เที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท) ที่จะมาลง จ.ภูเก็ต ในเดือนพ.ย.นี้ ทยอยยกเลิก คงเหลือนักท่องเที่ยวจากประเทศ ยุโรปและออสเตรเลีย ที่ยังพอมีเดินทางเข้ามาบ้าง แต่ที่จองเดินทางช่วงเดือนธันวาคม ยังคงรอดูสถานการณ์
***อัด รมว. ท่องเที่ยวหายจ้อย***
อย่างไรก็ตาม เหตุที่เป็นเช่นนี้ทั้งที่ภูเก็ต ไม่ใช่พื้นที่น้ำท่วม เป็นเพราะการสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยวของรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวของ ยังทำได้ไม่ดีพอ แทนที่จะสื่อสารไปยังบริษัทนำเที่ยว และ นักท่องเที่ยวว่า ภูเก็ต สมุย กระบี่ พังงา เชียงใหม่ และอีกหลายพื้นที่ในภาคใต้ของไทย ไม่ใช้พื้นที่น้ำท่วม รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ท่านหายไปไหน ไม่ออกมาสั่งหรือกำกับการทำงานด้านนโยบายด้านการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวให้ชัดเจน ทางที่ดีควรรีบสื่อสารให้ชัดเจนไปยังบุคคลาเหล่านั้น ให้ทราบว่า ประเทศไทย ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เดินทางท่องเที่ยวได้