ยะลา - ผบก.ยะลา เผยเหตุระเบิดป่วนเมืองยะลา กลุ่มคนร้ายต้องการดับไฟเผาเมือง แต่ไม่สำเร็จ เพราะ 2 คนร้ายถูกระเบิดร่างขาดกระจุยดับคาที่เสียเอง พร้อมสั่งจัดชุดติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ด้านเหยื่อระเบิดป่วนเมืองยะลายังสาหัส 4 ขณะที่อีก 15 แพทย์รอดูอาการอีกระยะ
จากกรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องและรถจักรยานยนต์บอมบ์ลอบวางไว้หลายจุดในย่านการค้าและย่านสถานบันเทิง ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา และ พื้นที่รอบนอกเขตเทศบาลนครยะลากว่า 30 จุดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาก่อนจุดชนวนระเบิดขึ้นติดต่อกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บกว่า 50 คน
ความคืบหน้าล่าสุดวานนี้ (27 ต.ค.)เวลา 12.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้มีการตรวจพิสูจน์ทราบสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียด พบว่ามีเหตุระเบิดรวมทั้งหมด 34 จุด คนร้ายได้นำระเบิดใส่ไว้ในกระป๋องสี ขวดสเปรย์ ขวดนม 25 จุด ใส่ไว้ในกล้องเหล็ก 4 จุด และรถจักรยานยนต์บอมบ์ 5 จุด
โดยจุดที่สำคัญคือที่ในที่เกิดเหตุในซอยศรีปุตรา ย่านชุมชนตลาดเก่า มีผู้เสียชีวิต 2 รายนั้น แพทย์ได้ทำการชันสูตร และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา รวมทั้งชุด EOD ให้ข้อมูลที่มีความสอดคลองกันว่า ระเบิดอยู่ในรถจักรยานยนต์ หรืออยู่บนตักของ 1 ใน 2 ของผู้เสียชีวิต แล้วได้ระเบิดขึ้น ทำให้ร่างกายแหลก อวัยวะขาดกระจาย ตรวจสอบพบว่า คือนายซาการียา สะนอยานยา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 3 ต.สะนอ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และ นายฮัมดี มอสู อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 1 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งในที่เกิดเหตุพบโทรศัพท์มือถือของคนร้ายตกอยู่ ขณะนี้ได้นำไปตรวจสอบแล้ว พบว่ามีการติดต่อกับหลายคนในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบว่าติดต่อเชื่อมโยงกับใคร หรือกลุ่มไหนบ้าง โดยผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตทั้ง 2 คน ต้องการนำระเบิดไปวางไว้ที่เสาไฟฟ้า ในด้านเขตรอยต่อ อ.ยะรัง กับเทศบาลนครยะลา เพื่อให้กระแสไฟฟ้าดับ แต่ระเบิดดังกล่าวได้เกิดระเบิดขึ้นเสียก่อน
สำหรับพยานผู้เห็นเหตุการณ์ที่บริเวณคุรุมาร์ท และอีกหลายจุด ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับรูปพรรณของคนร้ายที่ได้นำระเบิดไปวางว่า มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับ นายฮัมดี มอสู อายุ 22 ปี ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่สามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลาได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ในระหว่างทำการการตรวจสอบภาพทั้งหมด
“ส่วนการปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายนั้น เชื่อว่ามีแผนที่จะต้องการระเบิดเสาไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้ามายังเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อให้กระแสไฟฟ้าในเขตเทศบาลนครยะลาดับลง ซึ่งทำให้ง่ายต่อการก่อเหตุร้ายต่างๆ จากนั้นกลุ่มคนร้ายที่เหลือก็จะออกมาทำลายทรัพย์สิน หรือลอบวางเพลิง ใช้ระเบิดเพลิงก่อเหตุเผาเมือง เหมือนที่เคยเกิดขึ้น ในปี 2548 ที่ผ่านมา”
สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนนั้น ผบก.ภ.จว.ยะลา เผยว่า ตนเองได้สั่งการให้ตั้งชุดปฏิบัติการไล่ล่าพิทักษ์เมือง ซึ่งมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 หมวด ใช้รถจักรยานยนต์ 10 คัน ออกลาดตระเวนดูแลเต็มพื้นที่ โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่ ชุดปฏิบัติการชุดดังกล่าวจะเป็นชุดที่ทำการยับยั้งการก่อเหตุร้ายของกลุ่มคนร้ายได้ทันถ่วงที
ด้านนายแพทย์ประชา ชยาภัม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เปิดเผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 61 รายในจำนวนนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 รายและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 2 ราย ที่รับไว้เป็นคนไข้ 15 ราย มี 1 รายประสงค์ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนคนไข้ที่รับไว้ส่วนใหญ่หลังจากให้การรักษาผ่าตัดไปแล้วมีอาการดีขึ้น ทั้งนี้มี 4 ราย ที่แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ในหอผู้ป่วยหนัก (ไอซียู)
จากกรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องและรถจักรยานยนต์บอมบ์ลอบวางไว้หลายจุดในย่านการค้าและย่านสถานบันเทิง ภายในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา และ พื้นที่รอบนอกเขตเทศบาลนครยะลากว่า 30 จุดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาก่อนจุดชนวนระเบิดขึ้นติดต่อกัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บกว่า 50 คน
ความคืบหน้าล่าสุดวานนี้ (27 ต.ค.)เวลา 12.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้มีการตรวจพิสูจน์ทราบสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียด พบว่ามีเหตุระเบิดรวมทั้งหมด 34 จุด คนร้ายได้นำระเบิดใส่ไว้ในกระป๋องสี ขวดสเปรย์ ขวดนม 25 จุด ใส่ไว้ในกล้องเหล็ก 4 จุด และรถจักรยานยนต์บอมบ์ 5 จุด
โดยจุดที่สำคัญคือที่ในที่เกิดเหตุในซอยศรีปุตรา ย่านชุมชนตลาดเก่า มีผู้เสียชีวิต 2 รายนั้น แพทย์ได้ทำการชันสูตร และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา รวมทั้งชุด EOD ให้ข้อมูลที่มีความสอดคลองกันว่า ระเบิดอยู่ในรถจักรยานยนต์ หรืออยู่บนตักของ 1 ใน 2 ของผู้เสียชีวิต แล้วได้ระเบิดขึ้น ทำให้ร่างกายแหลก อวัยวะขาดกระจาย ตรวจสอบพบว่า คือนายซาการียา สะนอยานยา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 3 ต.สะนอ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และ นายฮัมดี มอสู อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 1 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งในที่เกิดเหตุพบโทรศัพท์มือถือของคนร้ายตกอยู่ ขณะนี้ได้นำไปตรวจสอบแล้ว พบว่ามีการติดต่อกับหลายคนในพื้นที่ จ.ยะลา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบว่าติดต่อเชื่อมโยงกับใคร หรือกลุ่มไหนบ้าง โดยผู้ก่อเหตุที่เสียชีวิตทั้ง 2 คน ต้องการนำระเบิดไปวางไว้ที่เสาไฟฟ้า ในด้านเขตรอยต่อ อ.ยะรัง กับเทศบาลนครยะลา เพื่อให้กระแสไฟฟ้าดับ แต่ระเบิดดังกล่าวได้เกิดระเบิดขึ้นเสียก่อน
สำหรับพยานผู้เห็นเหตุการณ์ที่บริเวณคุรุมาร์ท และอีกหลายจุด ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับรูปพรรณของคนร้ายที่ได้นำระเบิดไปวางว่า มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับ นายฮัมดี มอสู อายุ 22 ปี ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่สามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลาได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ในระหว่างทำการการตรวจสอบภาพทั้งหมด
“ส่วนการปฏิบัติการของกลุ่มคนร้ายนั้น เชื่อว่ามีแผนที่จะต้องการระเบิดเสาไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้ามายังเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อให้กระแสไฟฟ้าในเขตเทศบาลนครยะลาดับลง ซึ่งทำให้ง่ายต่อการก่อเหตุร้ายต่างๆ จากนั้นกลุ่มคนร้ายที่เหลือก็จะออกมาทำลายทรัพย์สิน หรือลอบวางเพลิง ใช้ระเบิดเพลิงก่อเหตุเผาเมือง เหมือนที่เคยเกิดขึ้น ในปี 2548 ที่ผ่านมา”
สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนนั้น ผบก.ภ.จว.ยะลา เผยว่า ตนเองได้สั่งการให้ตั้งชุดปฏิบัติการไล่ล่าพิทักษ์เมือง ซึ่งมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 หมวด ใช้รถจักรยานยนต์ 10 คัน ออกลาดตระเวนดูแลเต็มพื้นที่ โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่ ชุดปฏิบัติการชุดดังกล่าวจะเป็นชุดที่ทำการยับยั้งการก่อเหตุร้ายของกลุ่มคนร้ายได้ทันถ่วงที
ด้านนายแพทย์ประชา ชยาภัม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เปิดเผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 61 รายในจำนวนนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 รายและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 2 ราย ที่รับไว้เป็นคนไข้ 15 ราย มี 1 รายประสงค์ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนคนไข้ที่รับไว้ส่วนใหญ่หลังจากให้การรักษาผ่าตัดไปแล้วมีอาการดีขึ้น ทั้งนี้มี 4 ราย ที่แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ในหอผู้ป่วยหนัก (ไอซียู)