เอเอฟพี - ชายคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างชุมนุมต้านมาตรการรัดเข็มขัดในกรีซ เสียชีวิตแล้วเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหวเมื่อวันพฤหัสบดี(20) หลังสหภาพคอมมิวนิสต์เกิดปะทะกับพวกอนาธิปไตยเพื่อควบคุมจตุรัสหลักในกรุงเอเธนส์
กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 16 คนในความรุนแรงที่เกิดขึ้น ณ จตุรัสซินตักมา บริเวณด้านนอกของอาคารรัฐสภา โดยส่วนใหญ่มีบาดแผลตรงศีษะเนื่องจากถูกขว้างปาด้วยหิน ระเบิดเพลิงและอาวุธอื่นๆ
ขณะที่ประชาชนหลายพันคนนัดหยุดงานและเข้าร่วมชุมนุมต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลเป็นวันที่ 2 ขณะที่ภาพข่าวสถานีโทรทัศน์ Skai เผยให้เห็นว่าสมาชิกของสหภาพคอมมิวนิสต์รายหนึ่งถูกพวกก่อความวุ่นวายจับตัวและรุมทำร้ายแถวๆจตุรัส
แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุขบอกกับเอเอฟพีว่า "หน่วยฉุกเฉินได้รับแจ้งให้ไปนำผู้ได้รับบาดเจ็บรายหนึ่งส่งโรงพยาบาล" อย่างไรก็ตามต่อมาสื่อมวลชนกรีซรายงานว่าชายวัยกลางคนรายนี้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล เนื่องจากทนพิษบาดแผลสาหัสบริเวณศีรษะไม่ไหว
พวกวัยรุ่นสวมหน้ากากใช้ระเบิดเพลิงโจมตีสมาชิกสหภาพคอมมิวนิสต์หลายร้อยคนที่มีหน้าที่ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยระหว่างการประท้วงในเอเธนส์ การนัดหยุดงานชุมนุมใหญ่ 48 ชั่วโมงตามคำเรียกร้องของสหภาพต่างๆเพื่อต่อต้านนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล
ต่อมาฝ่ายคอมมิวนิสต์พยายามผลักดันจนพวกอนาธิปไตยต้องล่าถอย ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายเริ่มขว้างปาก้อนหินเข้าใส่กันขณะที่ทีแรกตำรวจเฝ้ามองสถานการณ์อยู่ห่างๆเท่านั้น อย่างไรก็ตามไม่นานหน่วยปราบจลาจลของตำรวจก็เข้ามาแทรกแซงและดำเนินการคืนความสงบสู่จตุรัสด้วยการยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายเหตุชุลมุนวุ่นวายนี้
ทั้งนี้แม้มีเหตุปะทะกัน ผู้ประท้วงหลายพันคนยังคงปักหลักชุมนุมกันบริเวณด้านหน้ารัฐสภาต่อไป ขณะที่ทางสหภาพการค้าคอมมิวนิสต์ พีเอเอ็มอี(Pame) ระบุในถ้อยแถลงว่ากองกำลังต่อต้านความเคลื่อนไหวของแรงงานและประชาชนพยายามยั่วยุการชุมนุมใหญ่นอกรัฐสภา ซึ่งทางตำรวจคาดหมายว่ามีผู้เข้าร่วมมากถึง 50,000 คน