นายสัญชัย เจนจรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไดนาสตี้ เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2554 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 54 ว่าบอร์ดมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานไตร
มาสที่ 3 ของปี 54 ตามงบการเงินรวมก่อนการสอบทานจากผู้สอบบัญชีฯในอัตราหุ้นละ 0.71 บาทจากจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 408.0 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินรวมในการจ่ายเงินปันผล ระหว่างกาลครั้งนี้ทั้งสิ้น 289.68 ล้านบาท โดยกำหนดผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ในการรับเงินปันผลในวันที่ 10 พฤศจิกายน 54 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พรบ.หลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน 54และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤศจิกายน 54
โดย DCC ได้แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปี 54 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 283.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 250.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.85 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 13.11% โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากยอดขายสินค้าในงวดนี้ 1,698 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 329 ล้านบาทหรือร้อยละ 24 มีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 43.5 ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 45.3 ผลจากราคาต้นทุนพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน อีกทั้งบริษัทฯมีการทบทวนอายุการใช้งานและมูลค่าคงเหลือใหม่ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนค่าขนส่งสินค้าที่ราคานํ้ามันดีเซลปรับ
เพิ่มจากงวดเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3 ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มจากปีก่อนร้อยละ 11 ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีเงินกู้ยืมระยะสั้นประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิต
มาสที่ 3 ของปี 54 ตามงบการเงินรวมก่อนการสอบทานจากผู้สอบบัญชีฯในอัตราหุ้นละ 0.71 บาทจากจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 408.0 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินรวมในการจ่ายเงินปันผล ระหว่างกาลครั้งนี้ทั้งสิ้น 289.68 ล้านบาท โดยกำหนดผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ในการรับเงินปันผลในวันที่ 10 พฤศจิกายน 54 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พรบ.หลักทรัพย์ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน 54และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤศจิกายน 54
โดย DCC ได้แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปี 54 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 283.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 250.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.85 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 13.11% โดยงวดนี้บริษัทมีรายได้จากยอดขายสินค้าในงวดนี้ 1,698 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 329 ล้านบาทหรือร้อยละ 24 มีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 43.5 ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 45.3 ผลจากราคาต้นทุนพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน อีกทั้งบริษัทฯมีการทบทวนอายุการใช้งานและมูลค่าคงเหลือใหม่ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนค่าขนส่งสินค้าที่ราคานํ้ามันดีเซลปรับ
เพิ่มจากงวดเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3 ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มจากปีก่อนร้อยละ 11 ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีเงินกู้ยืมระยะสั้นประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิต