ASTVผู้จัดการรายวัน - อาจารย์ ม.รังสิตสุดทนหอบคลิปโชว์สื่อ แฉ ศปภ.กั๊กข้อมูลน้ำ นำเสนอไม่ตรงความจริง เชื่อ "ดอนเมือง" ใกล้เป็นเกาะทั้งเขต วอนฟังความเห็นคนอื่นบ้าง แนะใช้ ถ.วิภาวดีฯเป็นคลองผันน้ำไปอุโมงค์ยักษ์ดินแดงก่อนลงทะเล มั่วเฟซบุ๊กโพสต์ด่าสื่อ เอาใจเจ้านาย “thaiflood” แฉซ้ำมีแก๊งแดงฉวยโอกาส
เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (23 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายอัฏฐพร ชัยรัตน์ลี้ตระกูล อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนต่อกรณีที่ ศปภ.และรัฐบาลไม่นำเสนอข้อเท็จจริงในการป้องกันปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่เขตดอนเมือง ซึ่งนายอัฏฐพรได้นำคลิปวีดิโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดบริเวณช่องระบายน้ำประตูดำ เขตดอนเมือง อยู่ตรงข้ามกับวัดรังสิต เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันนี้ ที่มีสภาพน้ำไหลบ่าอย่างรุนแรง โดยที่ประตูน้ำอยู่ในสภาพชำรุด เพราะไม่สามารถรับปริมาณน้ำได้
นายอัฏฐพร อธิบายว่า น้ำที่ไหลมาบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำที่เอ่อล้นมาจากคลองรังสิต บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ที่ไม่สามารถรับน้ำได้แล้ว ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองหก จ.ปทุมธานี ได้พยายามส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซมช่องประตูดำตั้งแต่เมื่อช่วง 17.00 น.ของวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้ เนื่องจากปริมาณน้ำค่อนข้างมากและไหลบ่ามาอย่างรุนแรง แต่กลับมีทีวีช่องหนึ่งรายงานข่าวตั้งแต่เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันที่ 23 ต.ค.ว่า บริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ทั้งที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านบริเวณนั้นเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และน้ำได้ท่วมบริเวณถนนโลคอลโรด และถนนสงฆ์ประภา จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ มีเพียงรถบรรทุกกับรถเมล์ผ่านได้เท่านั้น หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะกระทบไปถึงปริมาณน้ำในคลองเปรมประชากร และทำให้เขตดอนเมืองกลายเป็นเกาะกลางน้ำในที่สุด เพราะล่าสุดตลาดตลาดวัฒนานนท์ หรือตลาดฝั่งโขง ซึ่งเป็นตัวช่วยของเขตดอนเมืองก็ใกล้จะได้รับผลกระทบแล้ว
“อยากร้องเรียนให้รัฐบาลรับฟังความเห็นของฝ่ายอื่นบ้าง โดยเฉพาะคนในพื้นที่เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหา ไม่ใช่ฟังแต่ข้อมูลของคนรอบข้างที่ไม่เป็นความจริง แล้วมานำเสนอแบบผิดๆ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และผมพยายามนำเสนอข้อมูลผ่านเฟซบุ๊คก็มีคนมาขู่ว่าผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่ไปดูหมิ่นหยามเกียรติคนอื่นมีโทษจำคุก 20 ปีอีกด้วย” นายอัฏฐพร กล่าว
นายอัฏฐพร ยังได้กล่าวอีกว่า ในการแก้ไขปัญหาภาพรวมอยากเสนอให้รัฐบาลรับฟัง หรือเปิดเวทีดีเบตกับ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา ของมหาวิทยาลัยรังสิต โดยเฉพาะการปรับถนนให้เป็นคลอง เนื่องจากขณะนี้ ถ.วิภาวดี-รังสิต ก็ถูกน้ำท่วมอยู่แล้ว หากทำให้เป็นคลองเพื่อระบายน้ำให้ไปถึงบริเวณดินแดง และลงสู่อุโมงค์ยักษ์เพื่อผันน้ำลงทะเลโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และน้ำท่วมพื้นที่ส่วนใหญ่ของ กทม.ด้วย
**เฟซบุ๊ก ศปภ.โพสต์ด่าสื่อเนชั่น
วันเดียวกัน เวลา 10.30 น. เฟซบุ๊กของ “ศปภ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า NationGroup เป็นอีก 1 กลุ่มสื่อ ที่เอาความเดือดร้อนประชาชน ช่วยนักการเมือง หวังฉวยโอกาสทางธุรกิจ
โดยภายหลังข้อความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นไม่พอใจวุฒิภาวะของผู้ดูแลหน้าเฟซบุกของ ศปภ.จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา ผู้ดูแลเฟซบุ๊ก ศปภ.ได้ลบข้อความไปแล้วอย่างรวดเร็ว
**“ทั่นเจ๋ง” สุดกร่างคับ ศปภ.-กั๊กของ
ที่ศปภ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่บริษัทแมกซ์ลายเนอร์ นำเรือพายสีดำบรรจุผู้โดยสารได้ 9 ที่นั่ง ราคา 8,000 บาทจำนวน 2 ลำมาพักไว้ภายในศปภ.เพื่อเตรียมบริจาคส่งต่อให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม
โดยระหว่างที่สื่อมวลชนหลายสำนักกำลังตรวจสอบความแข็งแรงของเรืออยู่ นั้น ปรากฏว่า นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เลขานุการนายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย ได้เดินมายังกลุ่มสื่อมวลชน พร้อมถามว่า “เรือนี้ใครดูแลอยู่ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ผมอยากได้” ผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า เป็นเรื่อที่บริษัท แมกซ์ลายเนอร์ นำมาบริจาคให้กับผู้ประสบภัย
แต่นายยศวิศ ถามว่า ส่งมอบแล้วหรือยังแล้วใครรับผิดชอบ ผู้สื่อข่าวจึงชี้แจงกลับไปว่า ให้ไปถามหน่วยงานที่รับผิดชอบ ศปภ.หรือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย(ปภ.) เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง พร้อมทั้งถามนายยศวริศว่า”แล้วคุณมาจากหน่วยงานไหน” นายยศวริศกล่าวว่า “ผมมาจากมหาดไทย”
ผู้สื่อข่าวกล่าว่า มหาดไทยก็น่าจะประสานปภ.ได้เลย นายยศวริศกล่าว่า “ผมคุมปภ.และใหญ่กว่าอธิบดีปภ.”
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงถามกลับไปว่า จะเอาเรือไปช่วยประชาชนที่จังหวัดไหน นายยศวริศ กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “เรื่องของผม ผมจะเอาไปไหนก็สิทธิ์ของผม” จากนั้นก็สั่งให้ผู้สื่อข่าวยกเรือ แต่ไม่มีผู้สื่อข่าวคนใดปฏิบัติตาม
ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ภายในพื้นที่คลังเก็บสินค้า 1 ท่าอากาศยานดอนเมือง ได้มีการจัดเก็บสิ่งของที่ได้รับบริจาคสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก ทั้งถุงยังชีพ แพไม้ไผ่ที่ประกอบเสร็จแล้ว สุขาลอยน้ำ และเรือเหล็กอีกจำนวนหนึ่ง รวมไปถึงเรือที่ได้รับบริจาคจากต่างประเทศ ซึ่งได้ส่งมอบมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเมื่อสอบถามสาเหตุที่ไม่นำไปใช้ในพื้นที่ประสบภัย เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า เรือและสิ่งของทั้งหมดนั้น กระทรวงมหาดไทยได้จองไว้หมดแล้ว
**"ปรเมศวร์"เปิดศูนย์ภาคปชช.เอง
วานนี้(23 ต.คต.) นายปรเมศวร์ มินศิริ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ www.thaiflood.com ศูนย์ข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แถลงว่า Thaiflood กำลังเร่งตั้งศูนย์ประสานงานแห่งใหม่ที่ตึกไซเบอร์เวิลด์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้เสร็จสมบูรณ์ภายใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากสถานที่ใหม่ที่ระบบโครงสร้างพื้นฐานดีอยู่แล้วโดยจะยังเดินหน้าทำหน้าที่เป็นศูนย์แจ้งข่าวสารน้ำท่วมภาคประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะมาจากพื้นที่ที่ประสบภัย และศูนย์พักพิง รวมทั้งจุดรับ-ส่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ โดยให้อาสาสมัครทำหน้าที่เป็นผู้กรองข้อมูลก่อนแจ้งข่าวสารออกไป
"ศูนย์ Thaiflood ได้พยายามที่จะประสานงานกับศูนย์พักพิงราว 1,700 แห่ง รวมทั้งแจ้งข้อมูลสถานที่จอดรถ, จุดรับ-ส่งอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งใครอยู่ในพื้นที่ก็ช่วยกันรายงานเข้ามาได้ แต่ขอให้เป็นข้อมูลที่เป็นจริงเท่านั้น"
ทั้งนี้สำหรับข้อมูลหลักๆจะรายงานผ่านหน้าเว็บไซต์ Thaiflood.com และทางทวิตเตอร์ค้นหา #Thaiflood รวมทั้งการรับแจ้งข้อมูลซึ่งจะมีแบบฟอร์มให้กรอกผ่านเว็บไซต์ Thaiflood.com และ อีเมล webmaster@thaiflood.com
นอกจากนี้ศูนย์ Thaiflood จะพยายามจัดตั้งศูนย์บัญชาการทั้งในต่างจังหวัด และพื้นที่รอบๆกรุงเทพ รวมทั้งประสานงานกับอาสาสมัคร และผู้ที่มีจิตช่วยเหลือ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และครบถ้วนเพื่อประโยชน์สำหรับผู้ประสบภัย
**“ แฉ ศปภ.มีแก๊งแดงฉวยโอกาส
ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. กลางดึกวันที่ 22 ต.ค.นายปรเมศวร์ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว @ iwhale หลังจากที่ ศปภ.ไม่ยอมจบ อ้างเหตุที่ไทยฟลัดถอนตัวเนื่องจากต้องการเข้าร่วมประชุมด้วย แต่ ศปภ.ไม่ยอม โดยนายปรเมศวร์ได้โต้กลับดังนี้ “ไทยฟลัด” แจ้งขอเป็นกรรมการตัวแทนประชาชน ก่อนที่จะเข้าไปอยู่ที่ศูนย์ดอนเมือง ไม่ใช่เพิ่งขอเข้าประชุมทีหลัง เหตุผลที่ต้องการเข้าร่วมประชุมไม่ใช่แค่ขอรับฟังข้อมูลมาบอกกับประชาชน แต่เพื่อนำเสียงจากประชาชนเข้าไปแนะนำรัฐบาลที่ตนเน้นไป
รัฐบาลชุดก่อนมีกรรมการจากตัวแทนประชาชนหลายคน ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว รัฐบาลนี้ปกปิดอะไร จึงไม่แต่งตั้งตัวแทนประชาชนเข้าร่วมทำงาน เครือข่ายภาคประชาชน ที่เคยร่วมรับมืออุทกภัยเมื่อปีก่อน ขาดโอกาสในการเข้าร่วม เพราะคนละสี?
“การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จะต้องก้าวข้ามความเห็นต่าง หลายหมู่บ้านบ่นกันเยอะว่ารถส่งของบริจาคไม่ยอมจอด ถ้าไม่ยอมติดธงแดง” จากข้อความนี้ได้มีโปรดิวเซอร์ช่องระวังภัย ใช้ชื่อทวิตเตอร์ @Jib_Rw มาช่วยยืนยันด้วยว่า “เจอมาจริง”
นายปรเมศวร์เผยอีกว่า รัฐบาลชุดที่แล้วไม่ใช่จะดีอะไรนักหนา แต่ตนไม่เคยเห็นการเอาขบวนเสื้อเหลืองมารับของบริจาคภาครัฐไปแจกอะไรแบบนี้เลย ตนตั้งใจจะช่วยแก้ไขปัญหาแบบก้าวข้ามสี แต่รัฐบาลคิดแบบนี้เหรือเปล่า ไม่ทราบ ตนรู้สึกยินดีกับพี่น้องเสื้อแดงที่อาสามาช่วยงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ที่กล่าวมาไม่ได้จะเหมารวมว่าทุกคน
“มีคนคิดฉวยโอกาส สร้างความเข้มแข็งให้กับ “ตำบลเสื้อแดง” ในช่วงที่มีผู้ประสบภัยมากขนาดนี้ ผ่านกลไกของรัฐ โปรดจับตาให้ดี”
นายปรเมศวร์เผยต่อว่า ผู้ใหญ่จาก ศปภ.โทร.มาว่า “ทำไมไม่ยอมพบกันครึ่งทางเลย” ตนตอบไปว่า ถ้าบ้านคุณน้ำท่วม มีเรือไปรับคุณแล้วส่งแค่ครึ่งทาง คุณเอาไหม การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผมไม่ประนีประนอม “No compromise” รัฐบาลต้องทำให้เต็มที่ ผมไม่ต่อรองอะไรกับคุณทั้งนั้น!!!.