ASTVผู้จัดการรายวัน - บริษัททัวร์ทำใจ ลูกค้าขอยกเลิกการเดินทางแล้วกว่า 70% ยอมรับช่วงนี้งดกิจกรรมทางการตลาด รอหลังน้ำลด อัดแคมเปญ ชูทริปเที่ยวบำเพ็ญประโยชน์ อ้อนรัฐสั่งการหน่วยงานราชการจัดประชุม ในพื้นที่น้ำท่วม กระตุ้นรายได้เข้าท้องถิ่น ขณะนี้กลุ่มผู้ให้บริการทางการแพทย์เตรียมตั้งสมาพันธ์ บูรณาการทำงานร่วมกันดันไทยฮับอาเซียน
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ สทน. กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมส่งผลให้ลูกค้าทัวร์ที่จองเดินทางไว้ ทยอยขอยกเลิกและเลื่อนการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ถึงขณะนี้มีจำนวนประมาณ 70% ของยอดจองเดินทาง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่จองเดินทางไว้มาจากบริษัทที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งขณะนี้ประสบภาวะน้ำท่วม 6 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี
“ปกติบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมใหญ่เหล่านี้จะเป็นลูกค้าสำคัญที่จองซื้อทัวร์เพื่อจัดกิจกรรมประชุมสัมมนาพนักงานกันตลอดปี เมื่อถูกน้ำท่วมกิจกรรมทุกอย่างก็ต้องถูกยกเลิกทั้งหมด “
ทั้งนี้มองว่าแผนงานกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ต่างๆ ที่เตรียมไว้จะทยอยออกมาในช่วงนี้ เพราะเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวและยังเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน ก็จะต้องชะลอแผนการการเปิดตัวแคมเปญออกไปอย่างไม่มีกำหนด รอจนกว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย
นางสาวมัยรัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันการเดินทางโดยรถโค้ชของบริษัทนำเที่ยว ซึ่งถือเป็นลูกค้ากลุ่มหลักก็ประสบปัญหาเดินทางลำบาก เพราะถนนหลายสายถูกน้ำท่วม มีการปิดการจราจร ส่งผลให้การเดินทางไปสายเหนือและสายอีสาน ต้องหยุดการเดินทาง ประกอบกับ ประชาชนก็ไม่มีจิตใจที่จะคิดเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เพราะบ้างบ้านก็ถูกน้ำท่วม บ้างคนก็กังวลว่าน้ำจะท่วมบ้าน ปัจจัยทั้งหมดดังกล่าว จึงเป็นเหตุและผลให้เกิดการยกเลิกการเดินทางสูงมาก
****หลังน้ำลดจัดทัวร์บำเพ็ญประโยชน์
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ สมาคมฯจะแนะนำให้บริษัททัวร์เร่งจัดกิจกรรม กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง เช่นการนำเสนอท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมในพื้นที่น้ำท่วม เช่น กิจกรรมทาสี บูรณะซ่อมแซม หรืออื่นๆ เท่าที่จะสามารถช่วยทำได้ และลูกค้ามีความต้องการ
โดยจะบรรจุไว้เป็นหนึ่งในหลายๆกิจกรรมของการเดินทาง
สำหรับแรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยว ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงผู้ประกอบการบางราย ที่ใช้วิธีบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน ด้วยการลดรายได้พนักงานเหลือ 60-70% จากรายได้ที่ได้อยู่ปรกติ แต่คงเป็นการปรับลดระยะสั้น 2-3 เดือน ส่วนนักศึกษาจบใหม่บริษัทขนาดเล็กคงยังไม่พิจารณารับแน่นอน ต้องรอให้สถานการณ์ธุรกิจกลับสู่ภาวะปรกติก่อน และอยากเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือโดยออกมาตรการกระตุ้น การท่องเที่ยว ให้หน่วยงานภาครัฐจัดประชุมสัมมนาโดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วม เพื่อกระตุ้นให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ท้องถิ่นโดยเร็ว
****ตั้งสมาพันธ์ทำตลาดเมดิคัลแบบบูรณาการ
นางสาวประภา วงศ์แพทย์ ประธานกลุ่มธุรกิจ หรือคลัสเตอร์ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมสมาพันธ์การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เพื่อรวบรวมผู้ประกอบการและสมาคมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมอยู่กับสมาพันธ์เดียวกัน ง่ายต่อการบริหารจัดการและการเรียกร้องความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และบริการในอาเซียน ปรับมาตรฐานการบริการให้มีประสิทธิภาพมาตรฐานเป็นหนึ่งเดียว
สำหรับสมาคมผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่คาดว่าจะเข้าร่วมในสมาคมสมาพันธ์ ได้แก่ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน, สมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เสริมสวยแห่งประเทศไทย, สมาคมแพทย์แผนไทย, สมาคมสปาไทย, สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว หรือแอตต้า เป็นต้น เมื่อรวมตัวกันได้สำเร็จ ก็จะดึงสมาชิกจากทุกสมาคม ทำงานด้านการตลาดเชิงรุกร่วมกัน มองหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ การจัดทำฐานข้อมูลด้านการใช้จ่ายและความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ จับมือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ททท. สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือสสว. เดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศ การจัดทำแผนการตลาด ส่งเสริมตลาดภายในประเทศ ลบภาพการบริการที่เหลื่อมล้ำ ว่าเอกชนเลือกปฎิบัติ
นอกจากนั้นยังมีแนวคิดจับมือกับเครือข่ายธุรกิจ(บิสซิเนส แมทชิ่ง) เช่น จับคู่โรงพยาบาล กับโรงแรม และตัวแทนจำหน่ายทัวร์ จัดทำแพกเกจทัร์ไปเสนอขายในต่างประเทศ จัดทำเว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์หลายภาษา เข้าถึงนักท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง รัสเซีย ซึ่งนิยมเดินทางมาเพื่อรับบริการลดน้ำหนัก ทำฟัน เนื่องจากประเทศไทยมีค่าบริการที่ไม่แพง สะอาด บริการดี
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ สทน. กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมส่งผลให้ลูกค้าทัวร์ที่จองเดินทางไว้ ทยอยขอยกเลิกและเลื่อนการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ถึงขณะนี้มีจำนวนประมาณ 70% ของยอดจองเดินทาง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่จองเดินทางไว้มาจากบริษัทที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งขณะนี้ประสบภาวะน้ำท่วม 6 แห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี
“ปกติบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมใหญ่เหล่านี้จะเป็นลูกค้าสำคัญที่จองซื้อทัวร์เพื่อจัดกิจกรรมประชุมสัมมนาพนักงานกันตลอดปี เมื่อถูกน้ำท่วมกิจกรรมทุกอย่างก็ต้องถูกยกเลิกทั้งหมด “
ทั้งนี้มองว่าแผนงานกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของบริษัททัวร์ต่างๆ ที่เตรียมไว้จะทยอยออกมาในช่วงนี้ เพราะเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวและยังเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน ก็จะต้องชะลอแผนการการเปิดตัวแคมเปญออกไปอย่างไม่มีกำหนด รอจนกว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย
นางสาวมัยรัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันการเดินทางโดยรถโค้ชของบริษัทนำเที่ยว ซึ่งถือเป็นลูกค้ากลุ่มหลักก็ประสบปัญหาเดินทางลำบาก เพราะถนนหลายสายถูกน้ำท่วม มีการปิดการจราจร ส่งผลให้การเดินทางไปสายเหนือและสายอีสาน ต้องหยุดการเดินทาง ประกอบกับ ประชาชนก็ไม่มีจิตใจที่จะคิดเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เพราะบ้างบ้านก็ถูกน้ำท่วม บ้างคนก็กังวลว่าน้ำจะท่วมบ้าน ปัจจัยทั้งหมดดังกล่าว จึงเป็นเหตุและผลให้เกิดการยกเลิกการเดินทางสูงมาก
****หลังน้ำลดจัดทัวร์บำเพ็ญประโยชน์
อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ สมาคมฯจะแนะนำให้บริษัททัวร์เร่งจัดกิจกรรม กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง เช่นการนำเสนอท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมในพื้นที่น้ำท่วม เช่น กิจกรรมทาสี บูรณะซ่อมแซม หรืออื่นๆ เท่าที่จะสามารถช่วยทำได้ และลูกค้ามีความต้องการ
โดยจะบรรจุไว้เป็นหนึ่งในหลายๆกิจกรรมของการเดินทาง
สำหรับแรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยว ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงผู้ประกอบการบางราย ที่ใช้วิธีบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน ด้วยการลดรายได้พนักงานเหลือ 60-70% จากรายได้ที่ได้อยู่ปรกติ แต่คงเป็นการปรับลดระยะสั้น 2-3 เดือน ส่วนนักศึกษาจบใหม่บริษัทขนาดเล็กคงยังไม่พิจารณารับแน่นอน ต้องรอให้สถานการณ์ธุรกิจกลับสู่ภาวะปรกติก่อน และอยากเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือโดยออกมาตรการกระตุ้น การท่องเที่ยว ให้หน่วยงานภาครัฐจัดประชุมสัมมนาโดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วม เพื่อกระตุ้นให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ท้องถิ่นโดยเร็ว
****ตั้งสมาพันธ์ทำตลาดเมดิคัลแบบบูรณาการ
นางสาวประภา วงศ์แพทย์ ประธานกลุ่มธุรกิจ หรือคลัสเตอร์ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมสมาพันธ์การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เพื่อรวบรวมผู้ประกอบการและสมาคมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมอยู่กับสมาพันธ์เดียวกัน ง่ายต่อการบริหารจัดการและการเรียกร้องความช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และบริการในอาเซียน ปรับมาตรฐานการบริการให้มีประสิทธิภาพมาตรฐานเป็นหนึ่งเดียว
สำหรับสมาคมผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่คาดว่าจะเข้าร่วมในสมาคมสมาพันธ์ ได้แก่ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน, สมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์เสริมสวยแห่งประเทศไทย, สมาคมแพทย์แผนไทย, สมาคมสปาไทย, สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว หรือแอตต้า เป็นต้น เมื่อรวมตัวกันได้สำเร็จ ก็จะดึงสมาชิกจากทุกสมาคม ทำงานด้านการตลาดเชิงรุกร่วมกัน มองหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ การจัดทำฐานข้อมูลด้านการใช้จ่ายและความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ จับมือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ททท. สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือสสว. เดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศ การจัดทำแผนการตลาด ส่งเสริมตลาดภายในประเทศ ลบภาพการบริการที่เหลื่อมล้ำ ว่าเอกชนเลือกปฎิบัติ
นอกจากนั้นยังมีแนวคิดจับมือกับเครือข่ายธุรกิจ(บิสซิเนส แมทชิ่ง) เช่น จับคู่โรงพยาบาล กับโรงแรม และตัวแทนจำหน่ายทัวร์ จัดทำแพกเกจทัร์ไปเสนอขายในต่างประเทศ จัดทำเว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์หลายภาษา เข้าถึงนักท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง รัสเซีย ซึ่งนิยมเดินทางมาเพื่อรับบริการลดน้ำหนัก ทำฟัน เนื่องจากประเทศไทยมีค่าบริการที่ไม่แพง สะอาด บริการดี
