ASTVผู้จัดการรายวัน – สูญญากาศ "อสมท" พนักงานตั้งข้อสงสัยปลด “ธนวัฒน์”มีสิ่งใดแอบแฝง บอร์ด อสมท เตรียมนัดประชุมพนักงานแจงทุกข้อสงสัย 19 ส.ค.นี้ พร้อมประชุมบอร์ด 20ต.ค. เรื่องการปรับโครงสร้างองค์กร มั่นใจใน1อาทิตย์นี้ เห็นทิศทางอสมทชัดเจน ลือ บอร์ด อสมท รับ 20% จัดผังรายการ ด้านประธานบอร์ดโต้ไม่มีเอี่ยวผลประโยชน์จากผังรายการ
ภายหลังจากคณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีมติในที่ประชุมเห็นชอบในการบอกเลิกสัญญาจ้างนายธนวัฒน์ วันสม (อดีต) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนครบกำหนด เนื่องจากพิจารณาแล้วพบว่า กก.ผอ.ญ. มีการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามสัญญา ถึง 5 ประเด็นหลัก คือ 1. ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า 2.ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3. บกพร่องในการบริหารบุคลากร 4.บริหารงานขัดกับมติของบอร์ด และ 5.ทำงานไม่สอดคล้องกับธรรมาภิบาล จากข้อเท็จจริงอื่นๆรวมทั้งหมด 19 ข้อนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เป็นที่จับตามองทั้งจากภายนอกและภายในองค์กรอสมทเป็นอย่างมาก
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ภายในองค์กร อสมท ขณะนี้ ถือว่ายังคลุมเครืออยู่ เพราะว่ามีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับมติของบอร์ด อสมท ออกมาก็ตาม เนื่องจากบางกลุ่มยังสงสัยถึงมติที่ออกมานี้อยู่ว่ามีสิ่งใดแอบแฝงหรือไม่ ส่วนบางกลุ่มกลับมองถึงผลของมตินี้มากกว่า ว่า อสมท จากนี้ไปนั้นจะมีทิศทางไปในทางใดกันแน่
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า ภายหลังวันที่ 20 ต.ค.นี้ หลังจากที่บอร์ด อสมท จะมีการประชุมเรื่องการปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงได้มีการจัดประชุมพูดคุยกับพนักงานอสมทในวันที่ 19ต.ค.แล้ว จะเห็นความชัดเจนของ อสมทว่า จะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว จะต้องมีการเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อยเสียก่อน หลังจากนั้นจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการสรรหาผู้ที่เหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ต่อไป จากปัจจุบันทางบอร์ดอสมท ได้มอบหมายให้ นายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทำหน้าที่รักษาการแทนในตำแหน่ง กก.ผอ.ญ ไปจนกว่าจะมีการพิจารณาคัดสรรผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป
ทั้งนี้มองว่าถึงแม้อสมทจะเข้าสู่ช่วงสูญญากาศอีกครั้ง แต่ในแง่ความเชื่อมั่นของเอเจนซี่โฆษณาและผู้ผลิตรายการ ยังคงให้ความมั่นใจกับอสมทอยู่ เพราะมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจมากนัก แต่มองเป็นเรื่องของภายในองค์กรเป็นหลัก แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงรอยต่อของการปรับผังรายการของปี2555 ก็ตาม
***บอร์ด อสมท ยันโปร่งใสจากผังรายการ**
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล อสมท ได้ตอบข้อซักถามของสื่อบางฉบับว่า การเลิกสัญญาจ้าง นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท เมื่อ 13 ตุลาคม 2554 อาจมีสาเหตุมาจากเรื่องผังรายการโทรทัศน์ของช่อง 9 ซึ่งมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องนั้น
ล่าสุด ศาสตราจารย์สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีการชี้แจงวานนี้ (17 ต.ค.)ว่า ทางอสมท ได้ยื่นจดหมายรายงานเรื่อง การดำเนินการเลิกสัญญาจ้าง นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปยังรัฐมนตรีกฤษณารับทราบแล้ว ตั้งแต่วันที่ 13ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว และเรื่องนี้ต้องขอตำหนิฝ่ายเลขานุการของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่เสนอจดหมายด่วนรายงานเรื่องการดำเนินการเลิกสัญญาจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เพราะอสมทได้ส่งรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ระบุความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่รวม 19 กรณีของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ไปให้ทราบโดยละเอียดแล้ว
เชื่อว่าหากรัฐมนตรีได้มีโอกาสอ่านรายงานดังกล่าว ก็จะเข้าใจอย่างชัดเจนถึงความบกพร่องและการขาดประสิทธิภาพในการบริหารงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท อันเป็นเหตุให้บอร์ด อสมท มีมติให้เลิกสัญญาจ้าง ซึ่งตนขอยืนยันว่าความบกพร่องทั้ง 19 กรณีดังกล่าว ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการจัดผังรายการหรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ
ส่วนกรณีที่ระบุว่าอาจมีผลประโยชน์มากถึง 20% ของการจัดผังรายการโทรทัศน์ที่มีการจ่ายให้ผู้ที่มีอำนาจดำเนินการนั้น ประธานบอร์ด อสมท ชี้แจงว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีเศษของการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ของนายธนวัฒน์ วันสมนั้น ทางบอร์ด อสมท ถือว่า เรื่องการจัดผังรายการเป็นความรับผิดชอบของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และได้มอบให้ดำเนินการโดยเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว โดยทางบอร์ดอสมท ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง
และที่ผ่านมาอสมท ได้ปรับผังรายการทั้งปรับเล็กและปรับใหญ่ไปแล้ว 8 ครั้ง เฉลี่ยปรับทุกๆ 3 เดือน ดังนั้น เมื่อมีฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องออกมายืนยันว่ามีการเรียกรับประโยชน์ตอบแทนนอกระบบ ทางบอร์ดอสมท พร้อมไปดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อให้ได้ความกระจ่างในเรื่องนี้ต่อไป และยืนยันว่าในการปรับผังรายการครั้งต่อไปนั้น ได้มอบหมายให้นายสุระ เกนทะนะศิล รักษาการแทน กก.ผอ.ญ. และทีมผู้บริหารที่รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการ โดยไม่มีบอร์ด อสมท คนใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมอย่างใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการดำเนินธุรกิจปกติของกก.ผอ.ญ.
“การเลิกสัญญาจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เป็นเรื่องการบริหารงานแท้ๆ ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง แต่เมื่อเลิกจ้างแล้วก็มีคนไปวิ่งเต้นให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแทรกแซง ซึ่งก็ช้าเกินไปเสียแล้ว เพราะการเลิกจ้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้วเมื่อบอร์ด อสมท มีมติ” ประธานบอร์ด อสมท กล่าวในที่สุด
ภายหลังจากคณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีมติในที่ประชุมเห็นชอบในการบอกเลิกสัญญาจ้างนายธนวัฒน์ วันสม (อดีต) กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนครบกำหนด เนื่องจากพิจารณาแล้วพบว่า กก.ผอ.ญ. มีการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามสัญญา ถึง 5 ประเด็นหลัก คือ 1. ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า 2.ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3. บกพร่องในการบริหารบุคลากร 4.บริหารงานขัดกับมติของบอร์ด และ 5.ทำงานไม่สอดคล้องกับธรรมาภิบาล จากข้อเท็จจริงอื่นๆรวมทั้งหมด 19 ข้อนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เป็นที่จับตามองทั้งจากภายนอกและภายในองค์กรอสมทเป็นอย่างมาก
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ภายในองค์กร อสมท ขณะนี้ ถือว่ายังคลุมเครืออยู่ เพราะว่ามีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับมติของบอร์ด อสมท ออกมาก็ตาม เนื่องจากบางกลุ่มยังสงสัยถึงมติที่ออกมานี้อยู่ว่ามีสิ่งใดแอบแฝงหรือไม่ ส่วนบางกลุ่มกลับมองถึงผลของมตินี้มากกว่า ว่า อสมท จากนี้ไปนั้นจะมีทิศทางไปในทางใดกันแน่
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า ภายหลังวันที่ 20 ต.ค.นี้ หลังจากที่บอร์ด อสมท จะมีการประชุมเรื่องการปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงได้มีการจัดประชุมพูดคุยกับพนักงานอสมทในวันที่ 19ต.ค.แล้ว จะเห็นความชัดเจนของ อสมทว่า จะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว จะต้องมีการเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อยเสียก่อน หลังจากนั้นจึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการสรรหาผู้ที่เหมาะสมเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ต่อไป จากปัจจุบันทางบอร์ดอสมท ได้มอบหมายให้ นายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทำหน้าที่รักษาการแทนในตำแหน่ง กก.ผอ.ญ ไปจนกว่าจะมีการพิจารณาคัดสรรผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป
ทั้งนี้มองว่าถึงแม้อสมทจะเข้าสู่ช่วงสูญญากาศอีกครั้ง แต่ในแง่ความเชื่อมั่นของเอเจนซี่โฆษณาและผู้ผลิตรายการ ยังคงให้ความมั่นใจกับอสมทอยู่ เพราะมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจมากนัก แต่มองเป็นเรื่องของภายในองค์กรเป็นหลัก แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงรอยต่อของการปรับผังรายการของปี2555 ก็ตาม
***บอร์ด อสมท ยันโปร่งใสจากผังรายการ**
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล อสมท ได้ตอบข้อซักถามของสื่อบางฉบับว่า การเลิกสัญญาจ้าง นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท เมื่อ 13 ตุลาคม 2554 อาจมีสาเหตุมาจากเรื่องผังรายการโทรทัศน์ของช่อง 9 ซึ่งมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องนั้น
ล่าสุด ศาสตราจารย์สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีการชี้แจงวานนี้ (17 ต.ค.)ว่า ทางอสมท ได้ยื่นจดหมายรายงานเรื่อง การดำเนินการเลิกสัญญาจ้าง นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปยังรัฐมนตรีกฤษณารับทราบแล้ว ตั้งแต่วันที่ 13ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว และเรื่องนี้ต้องขอตำหนิฝ่ายเลขานุการของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่เสนอจดหมายด่วนรายงานเรื่องการดำเนินการเลิกสัญญาจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เพราะอสมทได้ส่งรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ระบุความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่รวม 19 กรณีของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ไปให้ทราบโดยละเอียดแล้ว
เชื่อว่าหากรัฐมนตรีได้มีโอกาสอ่านรายงานดังกล่าว ก็จะเข้าใจอย่างชัดเจนถึงความบกพร่องและการขาดประสิทธิภาพในการบริหารงานของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท อันเป็นเหตุให้บอร์ด อสมท มีมติให้เลิกสัญญาจ้าง ซึ่งตนขอยืนยันว่าความบกพร่องทั้ง 19 กรณีดังกล่าว ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการจัดผังรายการหรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ
ส่วนกรณีที่ระบุว่าอาจมีผลประโยชน์มากถึง 20% ของการจัดผังรายการโทรทัศน์ที่มีการจ่ายให้ผู้ที่มีอำนาจดำเนินการนั้น ประธานบอร์ด อสมท ชี้แจงว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีเศษของการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ของนายธนวัฒน์ วันสมนั้น ทางบอร์ด อสมท ถือว่า เรื่องการจัดผังรายการเป็นความรับผิดชอบของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และได้มอบให้ดำเนินการโดยเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว โดยทางบอร์ดอสมท ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง
และที่ผ่านมาอสมท ได้ปรับผังรายการทั้งปรับเล็กและปรับใหญ่ไปแล้ว 8 ครั้ง เฉลี่ยปรับทุกๆ 3 เดือน ดังนั้น เมื่อมีฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องออกมายืนยันว่ามีการเรียกรับประโยชน์ตอบแทนนอกระบบ ทางบอร์ดอสมท พร้อมไปดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อให้ได้ความกระจ่างในเรื่องนี้ต่อไป และยืนยันว่าในการปรับผังรายการครั้งต่อไปนั้น ได้มอบหมายให้นายสุระ เกนทะนะศิล รักษาการแทน กก.ผอ.ญ. และทีมผู้บริหารที่รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการ โดยไม่มีบอร์ด อสมท คนใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมอย่างใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการดำเนินธุรกิจปกติของกก.ผอ.ญ.
“การเลิกสัญญาจ้างกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เป็นเรื่องการบริหารงานแท้ๆ ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง แต่เมื่อเลิกจ้างแล้วก็มีคนไปวิ่งเต้นให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแทรกแซง ซึ่งก็ช้าเกินไปเสียแล้ว เพราะการเลิกจ้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้วเมื่อบอร์ด อสมท มีมติ” ประธานบอร์ด อสมท กล่าวในที่สุด
