น้ำท่วมฉุดกลุ่มยานยนต์-สินค้าอิเล็คทรอนิคส์เดี้ยง เบรคใช้สื่อโฆษณา ส่ง 3 สื่อหลักทั้ง วิทยุ-หนังสือพิมพ์-นิตยสาร กอดคอกันร่วงในเดือนก.ย. ส่วนสื่อทีวียังเติบโตได้ดีที่ 5.10% ส่งภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา 9 เดือน โตได้ 10.50% มูลค่ารวมกว่า 80,867 ล้านบาท
รายงานจาก บริษัท นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาเดือนก.ย.2554 เดือนเดียว เติบโต 5.77% คิดเป็นมูลค่า 9,058 ล้านบาท ถึงแม้ว่าสื่อโทรทัศน์ จะยังคงเป็นสื่อหลักที่มีการใช้เม็ดเงินเติบโต 5.10% เทียบกับเดือนก.ย.ปีก่อน หรือใช้มากถึง 5,342 ล้านบาทก็ตามน แต่อีก3 สื่อหลัก คือ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร เติบโตลดลง สื่อวิทยุ เติบโตลดลง 3.41% หรือใช้ไปเพียง 539 ล้านบาท 2.สื่อหนังสือพิมพ์ เติบโตลดลง 0.53% หรือใช้ไป 1,302 ล้านบาท และ 3. สื่อนิตยสาร เติบโตลดลง1.96% หรือใช้เพียง 501 ล้านบาท
ขณะที่สื่อทางเลือกยังคงเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สื่ออินเทอร์เน็ต เติบโตสูงสุด 57.14% มูลค่า 44 ล้านบาท สื่ออินสโตร์ เติบโต 34.65% มูลค่า 136 ล้านบาท และสื่อเคลื่อนที่เติบโต 31.61% ใช้ไป 229 ล้านบาท
นายคมสันต์ เชษฐ์โชติศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด ดูแลธุรกิจวิทยุ ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากตัวเลขโฆษณาในสื่อวิทยุของเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ที่เติบโตลดลงมาจากปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าที่มีการเลือกใช้สื่อวิทยุในระยะสั้นๆได้ยกเลิกหรือชะลอแผนการใช้สื่อวิทยุออกไปก่อน รวมไปถึงกลุ่มสินค้าประเภทยานยนต์ และอิเล็คทรอนิคส์ ก็เป็นอีกกลุ่มที่ได้ชะลอแผนใช้สื่อวิทยุลดลงไปด้วย
สำหรับคลื่นคูล 93 นั้น พบว่ารายได้โฆษณาในเดือนก.ย.ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากส่วนใหญ่ลูกค้าที่ซื้อสื่อ จะมีการวางแผนการใช้สื่อแบบระยะยาวมากกว่าระยะสั้น จึงไม่มีปัญหาเลื่อนการใช้สื่อวิทยุออกไป
อย่างไรก็ตามหากนับการใช้เม็ดเงินโฆษณามาตลอด 9 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย.2554 พบว่า ภาพรวมยังเติบโต10.50 % มูลค่า 80,867 ล้านบาท โดย 3 สื่อที่เติบโตมากสุด คือ 1.สื่ออินเทอร์เน็ต เติบโต 72.33% มูลค่า 355 ล้านบาท 2.สื่ออินสโตร์ เติบโต 51.11% มูลค่า1,221 ล้านบาท และ3.สื่อในโรงภาพยนตร์ เติบโต 31.27% มูลค่า 5,470 ล้านบาท ส่วนสื่อวิทยุนั้นยังเติบโตที่ 1.84% หรือ มูลค่า 4,474 ล้านบาท ส่วนสื่อหนังสือพิมพ์เติบโต 2.56 มูลค่า 10,935 ล้านบาท และสื่อนิตยสารเติบโต 6.52 % มูลค่า 4,344 ล้านบาท โดยที่สื่อโทรทัศน์ ยังเป็นสื่อที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด ใช้ไปถึง 48,960 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10.14 %
รายงานจาก บริษัท นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาเดือนก.ย.2554 เดือนเดียว เติบโต 5.77% คิดเป็นมูลค่า 9,058 ล้านบาท ถึงแม้ว่าสื่อโทรทัศน์ จะยังคงเป็นสื่อหลักที่มีการใช้เม็ดเงินเติบโต 5.10% เทียบกับเดือนก.ย.ปีก่อน หรือใช้มากถึง 5,342 ล้านบาทก็ตามน แต่อีก3 สื่อหลัก คือ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร เติบโตลดลง สื่อวิทยุ เติบโตลดลง 3.41% หรือใช้ไปเพียง 539 ล้านบาท 2.สื่อหนังสือพิมพ์ เติบโตลดลง 0.53% หรือใช้ไป 1,302 ล้านบาท และ 3. สื่อนิตยสาร เติบโตลดลง1.96% หรือใช้เพียง 501 ล้านบาท
ขณะที่สื่อทางเลือกยังคงเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุด 3 อันดับแรก คือ สื่ออินเทอร์เน็ต เติบโตสูงสุด 57.14% มูลค่า 44 ล้านบาท สื่ออินสโตร์ เติบโต 34.65% มูลค่า 136 ล้านบาท และสื่อเคลื่อนที่เติบโต 31.61% ใช้ไป 229 ล้านบาท
นายคมสันต์ เชษฐ์โชติศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัด ดูแลธุรกิจวิทยุ ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากตัวเลขโฆษณาในสื่อวิทยุของเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ที่เติบโตลดลงมาจากปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าที่มีการเลือกใช้สื่อวิทยุในระยะสั้นๆได้ยกเลิกหรือชะลอแผนการใช้สื่อวิทยุออกไปก่อน รวมไปถึงกลุ่มสินค้าประเภทยานยนต์ และอิเล็คทรอนิคส์ ก็เป็นอีกกลุ่มที่ได้ชะลอแผนใช้สื่อวิทยุลดลงไปด้วย
สำหรับคลื่นคูล 93 นั้น พบว่ารายได้โฆษณาในเดือนก.ย.ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากส่วนใหญ่ลูกค้าที่ซื้อสื่อ จะมีการวางแผนการใช้สื่อแบบระยะยาวมากกว่าระยะสั้น จึงไม่มีปัญหาเลื่อนการใช้สื่อวิทยุออกไป
อย่างไรก็ตามหากนับการใช้เม็ดเงินโฆษณามาตลอด 9 เดือน ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย.2554 พบว่า ภาพรวมยังเติบโต10.50 % มูลค่า 80,867 ล้านบาท โดย 3 สื่อที่เติบโตมากสุด คือ 1.สื่ออินเทอร์เน็ต เติบโต 72.33% มูลค่า 355 ล้านบาท 2.สื่ออินสโตร์ เติบโต 51.11% มูลค่า1,221 ล้านบาท และ3.สื่อในโรงภาพยนตร์ เติบโต 31.27% มูลค่า 5,470 ล้านบาท ส่วนสื่อวิทยุนั้นยังเติบโตที่ 1.84% หรือ มูลค่า 4,474 ล้านบาท ส่วนสื่อหนังสือพิมพ์เติบโต 2.56 มูลค่า 10,935 ล้านบาท และสื่อนิตยสารเติบโต 6.52 % มูลค่า 4,344 ล้านบาท โดยที่สื่อโทรทัศน์ ยังเป็นสื่อที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด ใช้ไปถึง 48,960 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10.14 %
