เบียร์ชิงเต่า ผนึกทุนไทย ทุ่มงบ 5,000 ล้านบาท ผุดฐานผลิตใหญ่ในไทย หวังส่งออกทั้งยุโรปและอาเซียน
นายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท นำยง และรองประธานสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทชิงเต่า บริวเวอรี่(TSINGTAO BREWERY) ประเทศจีน เจ้าของเบียร์ชิงเต่า ได้ขยายฐานการผลิตเข้ามาในไทย เพื่อที่จะใช้เป็นฐานการผลิตสำคัญเพื่อการส่งออกไปยังภูมิภาคยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)
ล่าสุดได้เซ็นสัญญากับทาง นำยงกรุ๊ป ประเทศไทย ที่เข้าร่วมทุนด้วยในสัดส่วน 55% ส่วนฝ่ายจีนลงทุน 45% จากงบลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยจะตั้งโรงงานการผลิตบนพื้นที่ 60 ไร่ อำเภอบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรสาคร และเป็นการขยายการลงทุนนอกประเทศจีนของบริษัทชิงเต่าฯ เป็นครั้งแรก
สาเหตุที่เบียร์ชิงเต่าลงทุนในไทยนั้น เพราะพิจารณาจากปัจจัยบวกหลายประการ และเพื่อเตรียมรับมือกับ การรวมตัวกันของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ทำให้มีประชากรที่เป็นตลาดใหญ่รวมมากกว่า 500 ล้านคน
รวมทั้งการที่ประเทศไทยได้ทำข้อตกลงการเปิดเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอกับหลายประเทศเช่น กับออสเตรเลีย กับจีน เป็นต้น โดยภาษีนำเข้าสินค้าได้ลดลงเหลือ 0% อีกทั้งยังมีปัจจัยของต้นทุนการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังตลาดในประเทศอื่นๆประมาณแค่ 500-800 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อตู้คอนเทนเนอร์เท่านั้นเอง ซึ่งมีราคาต่ำกว่าการขนส่งโดยตรงจากจีนไปยังตลาดเป้าหมายอีกด้วย
สำหรับโรงงานผลิตเบียร์ชิงเต่าในไทย มี 3 เฟส มีกำลังผลิตเบียร์ชิงเต่าประมาณ 2 แสนตันต่อปี คาดเริ่มเดินเครื่องปี2556 ซึ่งเฟสแรกลงทุน 1,500 ล้านบาท มีกำลังการผลิต 50,000 ตันต่อปี และอีก 2 ปีจากนี้จะเริ่มเฟสต่อไป
นายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท นำยง และรองประธานสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทชิงเต่า บริวเวอรี่(TSINGTAO BREWERY) ประเทศจีน เจ้าของเบียร์ชิงเต่า ได้ขยายฐานการผลิตเข้ามาในไทย เพื่อที่จะใช้เป็นฐานการผลิตสำคัญเพื่อการส่งออกไปยังภูมิภาคยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)
ล่าสุดได้เซ็นสัญญากับทาง นำยงกรุ๊ป ประเทศไทย ที่เข้าร่วมทุนด้วยในสัดส่วน 55% ส่วนฝ่ายจีนลงทุน 45% จากงบลงทุนรวม 5,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยจะตั้งโรงงานการผลิตบนพื้นที่ 60 ไร่ อำเภอบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรสาคร และเป็นการขยายการลงทุนนอกประเทศจีนของบริษัทชิงเต่าฯ เป็นครั้งแรก
สาเหตุที่เบียร์ชิงเต่าลงทุนในไทยนั้น เพราะพิจารณาจากปัจจัยบวกหลายประการ และเพื่อเตรียมรับมือกับ การรวมตัวกันของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ทำให้มีประชากรที่เป็นตลาดใหญ่รวมมากกว่า 500 ล้านคน
รวมทั้งการที่ประเทศไทยได้ทำข้อตกลงการเปิดเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอกับหลายประเทศเช่น กับออสเตรเลีย กับจีน เป็นต้น โดยภาษีนำเข้าสินค้าได้ลดลงเหลือ 0% อีกทั้งยังมีปัจจัยของต้นทุนการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังตลาดในประเทศอื่นๆประมาณแค่ 500-800 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อตู้คอนเทนเนอร์เท่านั้นเอง ซึ่งมีราคาต่ำกว่าการขนส่งโดยตรงจากจีนไปยังตลาดเป้าหมายอีกด้วย
สำหรับโรงงานผลิตเบียร์ชิงเต่าในไทย มี 3 เฟส มีกำลังผลิตเบียร์ชิงเต่าประมาณ 2 แสนตันต่อปี คาดเริ่มเดินเครื่องปี2556 ซึ่งเฟสแรกลงทุน 1,500 ล้านบาท มีกำลังการผลิต 50,000 ตันต่อปี และอีก 2 ปีจากนี้จะเริ่มเฟสต่อไป
