สุรินทร์- โรคคอตีบระบาดในหมู่บ้าน อ.ศีขรภูมิ เมืองช้าง ทำควายสัตว์เลี้ยงชาวบ้านตายอย่างรวดเร็วและป่วยอีกจำนวนมาก เผยเหตุพากันซื้อเนื้อควายตายโดยไม่ทราบสาเหตุจากหมู่บ้านใกล้เคียงมารับประทาน ทำให้วัวควายเกิดป่วยล้มตาย ผญบ.แจ้งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ พร้อมประสานปศุสัตว์อำเภอเข้าตรวจสอบรักษาฉีดวัคซีนและพ่นยาฆ่าเชื้อ ขณะจนท.ยังพยายามปกปิดปัดไม่เกิดโรคระบาด
วานนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านสัจจัง ม. 6 ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่าในหมู่บ้านได้เกิดโรคระบาดในกระบือ หรือควาย ทำให้ขณะนี้มีควายในหมู่บ้านตายไปแล้ว 3 ตัว และยังมีควายที่เจ็บป่วยอีกหลายตัวกำลังรอการรักษาจากสัตวแพทย์ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบยังหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน และมีสัตว์เลี้ยงวัวควายกว่า 100 ตัว โดยชาวบ้านเลี้ยงกันตามธรรมชาติ
นางแปน ขุมทอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 6 บ้านสัจจัง ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งควายที่เลี้ยงไว้จำนวน 2 ตัว มีอาการป่วยอยู่ระหว่างการรักษา กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวบ้านได้นำเนื้อควายที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุจากหมู่บ้านโคกกลาง อ.สนม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ใกล้กัน มาแบ่งกันประกอบอาหารรับประทานภายในหมู่บ้าน
จากนั้น 2 วันต่อมาก็พบว่าวัวและควายที่เลี้ยงอยู่เกิดอาการผิดปกติ ไม่กินอาหารและตัวแข็ง จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอเข้าตรวจสอบและทำการรักษา โดยสัตวแพทย์ได้ฉีดยาวัคซีนให้แก่ควายของตนทั้ง 2 ตัว ที่ป่วย พร้อมทั้งพ่นยาฆ่าเชื้อในคอกเลี้ยง
จากการตรวจสอบของสัตวแพทย์พบว่า ควายที่ตนเลี้ยงไว้ติดเชื้อโรคคอตีบ ซึ่งเป็นโรคติดต่อในสัตว์เลี้ยง และยังมีควายชาวบ้านอีกหลายตัวเกิดอาการป่วยเช่นกัน และตายไปแล้ว 3 ตัว ในเวลาไม่กี่วัน เชื่อว่าสาเหตุคงเกิดจากการติดโรคจากเนื้อควายที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ แล้วพากันซื้อมาประกอบอาหารรับประทานดังกล่าว ซึ่ง ทราบว่า ที่ หมู่บ้านโคกกลาง อ.สนม จ.สุรินทร์ ที่ควายตายโดยไม่ทราบสาเหตุดังกล่าว มีควายตายไปแล้วกว่า 7-8 ตัว
ด้าน นายเอี้ยง ใจงาม อายุ 34 ปี ชาวบ้านสัจจัง ซึ่งควายที่เลี้ยงไว้ป่วยตายกะทันหันไปแล้ว 1 ตัว เล่าว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ควายที่เลี้ยงไว้มีอาการตัวเกรง หัวบวม ไม่กินอาหาร แล้วเสียชีวิตอย่างรวดเร็วภายใน 4 ชั่วโมง ตนจึงนำซากควายไปฝังท้ายหมู่บ้าน สาเหตุเชื่อว่าน่าจะเกิดการติดเชื้อโรค จากกรณีที่ตนและชาวบ้านได้รวบรวมเงินกันจำนวน 1,000 บาท ไปซื้อเนื้อควายที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุจากบ้านโคกกลาง อ.สนม ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านสัจจัง มาแบ่งกันประกอบอาหารรับประทาน
นายวิสาน ปานทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านสัจจัง กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีวัวควายป่วยตายกะทันหันติดต่อกันหลายตัว จึงได้แจ้งเตือนทุกคนห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงและนำเนื้อสัตว์จากที่อื่นเข้ามาในหมู่บ้านในช่วงนี้โดยเด็ดขาด พร้อมได้ประสานไปอำเภอให้รับทราบ เพื่อให้ปศุสัตว์อำเภอเข้ามาตรวจสอบและฉีดวัคซีน ซึ่งปศุสัตว์กำลังรอวัคซีน
เบื้องต้นเข้ามาพ่นยาฆ่าเชื้อในคอกสัตว์และฉีดวัคซีนให้แก่สัตว์เลี้ยงชาวบ้านบางรายไปแล้ว ซึ่งจะได้ดำเนินการให้ครอบคลุมทั้งหมดโดยเร็ว เพื่อป้องกันการระบาดของโรคเป็นวงกว้างมากขึ้น สำหรับหมู่บ้านสัจจะ มีสัตว์เลี้ยงโค กระบือ รวมกว่า 100 ตัว มีควายติดเชื้อตายไปแล้ว 3 ตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันปศุสัตว์อำเภอศีขรภูมิ เจ้าของพื้นที่กลับปฏิเสธถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไม่ใช่โรคระบาด ไม่มีการระบาดของโรคใดๆ และไม่มีการพบโรคแต่อย่างใด ส่วนควายตายอาจมาจากสาเหตุอื่น ซึ่งเป็นการชี้แจงที่ตรงกันข้ามกับเหตุการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านสัจจังอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งยังได้ให้อาสาปศุสัตว์เข้าไปฉีดวัคซีนและพ่นยาฆ่าเชื้อให้แก่คอกสัตว์บริเวณที่เกิดเหตุบางส่วนไปแล้ว
วานนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านสัจจัง ม. 6 ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่าในหมู่บ้านได้เกิดโรคระบาดในกระบือ หรือควาย ทำให้ขณะนี้มีควายในหมู่บ้านตายไปแล้ว 3 ตัว และยังมีควายที่เจ็บป่วยอีกหลายตัวกำลังรอการรักษาจากสัตวแพทย์ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบยังหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน และมีสัตว์เลี้ยงวัวควายกว่า 100 ตัว โดยชาวบ้านเลี้ยงกันตามธรรมชาติ
นางแปน ขุมทอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 6 บ้านสัจจัง ต.หนองบัว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งควายที่เลี้ยงไว้จำนวน 2 ตัว มีอาการป่วยอยู่ระหว่างการรักษา กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวบ้านได้นำเนื้อควายที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุจากหมู่บ้านโคกกลาง อ.สนม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ใกล้กัน มาแบ่งกันประกอบอาหารรับประทานภายในหมู่บ้าน
จากนั้น 2 วันต่อมาก็พบว่าวัวและควายที่เลี้ยงอยู่เกิดอาการผิดปกติ ไม่กินอาหารและตัวแข็ง จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอเข้าตรวจสอบและทำการรักษา โดยสัตวแพทย์ได้ฉีดยาวัคซีนให้แก่ควายของตนทั้ง 2 ตัว ที่ป่วย พร้อมทั้งพ่นยาฆ่าเชื้อในคอกเลี้ยง
จากการตรวจสอบของสัตวแพทย์พบว่า ควายที่ตนเลี้ยงไว้ติดเชื้อโรคคอตีบ ซึ่งเป็นโรคติดต่อในสัตว์เลี้ยง และยังมีควายชาวบ้านอีกหลายตัวเกิดอาการป่วยเช่นกัน และตายไปแล้ว 3 ตัว ในเวลาไม่กี่วัน เชื่อว่าสาเหตุคงเกิดจากการติดโรคจากเนื้อควายที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ แล้วพากันซื้อมาประกอบอาหารรับประทานดังกล่าว ซึ่ง ทราบว่า ที่ หมู่บ้านโคกกลาง อ.สนม จ.สุรินทร์ ที่ควายตายโดยไม่ทราบสาเหตุดังกล่าว มีควายตายไปแล้วกว่า 7-8 ตัว
ด้าน นายเอี้ยง ใจงาม อายุ 34 ปี ชาวบ้านสัจจัง ซึ่งควายที่เลี้ยงไว้ป่วยตายกะทันหันไปแล้ว 1 ตัว เล่าว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ควายที่เลี้ยงไว้มีอาการตัวเกรง หัวบวม ไม่กินอาหาร แล้วเสียชีวิตอย่างรวดเร็วภายใน 4 ชั่วโมง ตนจึงนำซากควายไปฝังท้ายหมู่บ้าน สาเหตุเชื่อว่าน่าจะเกิดการติดเชื้อโรค จากกรณีที่ตนและชาวบ้านได้รวบรวมเงินกันจำนวน 1,000 บาท ไปซื้อเนื้อควายที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุจากบ้านโคกกลาง อ.สนม ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านสัจจัง มาแบ่งกันประกอบอาหารรับประทาน
นายวิสาน ปานทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านสัจจัง กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีวัวควายป่วยตายกะทันหันติดต่อกันหลายตัว จึงได้แจ้งเตือนทุกคนห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงและนำเนื้อสัตว์จากที่อื่นเข้ามาในหมู่บ้านในช่วงนี้โดยเด็ดขาด พร้อมได้ประสานไปอำเภอให้รับทราบ เพื่อให้ปศุสัตว์อำเภอเข้ามาตรวจสอบและฉีดวัคซีน ซึ่งปศุสัตว์กำลังรอวัคซีน
เบื้องต้นเข้ามาพ่นยาฆ่าเชื้อในคอกสัตว์และฉีดวัคซีนให้แก่สัตว์เลี้ยงชาวบ้านบางรายไปแล้ว ซึ่งจะได้ดำเนินการให้ครอบคลุมทั้งหมดโดยเร็ว เพื่อป้องกันการระบาดของโรคเป็นวงกว้างมากขึ้น สำหรับหมู่บ้านสัจจะ มีสัตว์เลี้ยงโค กระบือ รวมกว่า 100 ตัว มีควายติดเชื้อตายไปแล้ว 3 ตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันปศุสัตว์อำเภอศีขรภูมิ เจ้าของพื้นที่กลับปฏิเสธถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไม่ใช่โรคระบาด ไม่มีการระบาดของโรคใดๆ และไม่มีการพบโรคแต่อย่างใด ส่วนควายตายอาจมาจากสาเหตุอื่น ซึ่งเป็นการชี้แจงที่ตรงกันข้ามกับเหตุการณ์และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านสัจจังอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งยังได้ให้อาสาปศุสัตว์เข้าไปฉีดวัคซีนและพ่นยาฆ่าเชื้อให้แก่คอกสัตว์บริเวณที่เกิดเหตุบางส่วนไปแล้ว
