xs
xsm
sm
md
lg

รองผบ.ตร.ตั้งทีมสางคดีเรือจีนโดนถล่ม จีนย้ำเป็นเรื่องใหญ่ห้ามเรือวิ่งไร้กำหนด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขบวนเรือสินค้าจีน ในวันที่เดินทางออกจากบริเวณท่าเรือเชียงแสน หลังทางการจีนสั่งห้ามเดินเรือจนกว่าจะมีความปลอดภัยในแม่น้ำโขง
เชียงราย - รองผบ.ตร.ตั้งคณะทำงานชุดสอบสวนคดี เรือบรรทุกสินค้าจีนถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงถล่มในแม่น้ำโขง ลูกเรือเสียชีวิต 12 ศพ ตรวจสถานที่เกิดเหตุริมแม่น้ำโขงบนถนนสายเชียงแสน - สามเหลี่ยมทองคำ ขณะที่“จีน” ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงร่วมชันสูตรพลิกศพ 12 ลูกเรือจีนที่ถูกฆ่าโหด พร้อมย้ำห้ามเรือจีนวิ่งไร้กำหนด จนกว่าจะมั่นใจเรื่องความปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีลูกเรือจีนถูกสังหารโหด 12 ราย ก่อนทิ้งศพลงแม่น้ำโขง และลอยไปติดอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำโขง ทั้งในเขต สปป.ลาว - ไทย โดยบางศพถูกสวมกุญแจมือ - ปิดปาก เสียชีวิตอย่างสยดสยอง พร้อมกันนั้นกองกำลังผาเมือง ของไทย ก็ได้เข้าควบคุมเรือได้ที่ริมฝั่งบ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน พร้อมตรวจพบยาบ้าบนเรือกว่า 920,000 เม็ด และระบุว่าเมื่อวันที่ 5 ต.ค. มีเหตุปะทะและปล้นเรือนอกน่านน้ำไทยและเรือลอยลำมา ติดฝั่งไทยโดยไม่มีการปะทะในเขตไทย เป็นเหตุให้ทางการจีนส่งกำลังตำรวจติดอาวุธ - เรือเร็ว มาคุ้มกันเรือสินค้าจีนที่ทอดสมออยู่ที่ริมฝั่งเชียงแสน จ.เชียงราย กลับเชียงรุ่งนั้น

วานนี้ (16 ต.ค.)พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้เดินทางมาที่ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว จากนั้นคณะทั้งหมด ได้ร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุริมแม่น้ำโขงบนถนนสายเชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ หลักกิโลเมตรที่ 5-6 ต.เวียง อ.เชียงแสน กับเดินทางไปยังที่จอดเรือที่เกิดเหตุคือ เรือ Yu Xing 8 และเรือ Hua Ping จากนั้นคณะของ พล.ต.อ.ปานศิริ ได้ลงเรือไปยังจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ที่ตรงข้ามเกาะดอนซาว ของสปป.ลาว และดูผลตรวจสอบและวัตถุพยานที่เก็บได้บนเรือ

หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ภ.ภาค 5 พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้จัดประชุมร่วมคณะทำงานจากประเทศจีน นำโดย ท่านกู เช่า ชวน รองอธิบดีกรมกงสุล และหัวหน้าศูนย์คุ้มครองชาวจีนโพ้นทะเล กระทรวงการต่างประเทศจีน ท่านหวาง หยุ่ย เซี๊ยะ ผู้กำกับกรมตำรวจสืบสวนพิเศษ ตำรวจสันติบาลแห่งชาติจีน ท่านเจียง เหมิน รองผู้กำกับปราบปรามยาเสพติดตำรวจสันติบาลแห่งชาติ ท่านหวู เจี้ยน หมิง เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนประจำสถานทูตจีน ฯลฯ เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดี

พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาการ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตนลงไปกำกับดูแลคดีนี้โดยตรง โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางลงไปร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจเชียงราย ซึ่งชุดที่ส่งลงไปมีทั้งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองปราบปราม ตำรวจน้ำ ผู้ชำนาญจากสำนักพิสูจน์หลักฐาน สำนักแพทย์ใหญ่ ตำรวจสากลกองการต่างประเทศ ฯลฯ

ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งงานออกเป็น 3 ชุด ประกอบไปด้วย ชุดแรกเป็นชุดสอบสวนจะทำการสอบสวนทุกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายและเหตุการณ์ทั้งช่วงก่อน ระหว่างและหลังเกิดเหตุ ชุดที่ 2 ฝ่ายสืบสวน ซึ่งผสมกันทั้งจากส่วนกลาง ภ.ภาค 5 และเชียงราย ในการสืบหาเรื่องราวตั้งแต่เรือออกจากเมืองเชียงรุ้ง จีนตอนใต้ มาจนถึงเขตแดนพม่า-สปป.ลาว และเข้าสู่เขตแดนไทย ซึ่งเบื้องต้นสืบได้ว่าเรือได้จอดครั้งสุดท้ายห่างจากชายแดนไทยเหนือสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 15-20 กิโลเมตร และมีชายฉกรรจ์คาดว่ามี 9 คน ขึ้นไปบนเรือและมีเรือเล็กเร็วอีก 4 ลำติดตามมาจนเข้าสู่น่านน้ำไทยดังกล่าว ทั้งนี้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องระหว่างประเทศทั้งพม่า สปป.ลาว และจีน ดังนั้นจะมีตำรวจสากลร่วมด้วย

ชุดที่ 3 ผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะตรวจสอบทั้งสถานที่เกิดเหตุ พิสูจน์หลักฐาน นิติวิทยาศาสตร์ ชันสูตรพลิกศพ โดยช่วง 2 วันมานี้ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ โดยฝ่ายจีนมีการส่งผู้เชี่ยวชาญจากกรุงปักกิ่งและมณฑลหยุนหนันเข้าร่วมด้วย

ตนได้สั่งให้ชุดสอบสวนได้ดำเนินการ 5 เรื่อง คือ ตรวจสอบอย่างละเอียดทุกแง่มุมในเรื่อง ยาเสพติดว่าเป็นมาอย่างไร ศพเป็นใคร สภาพเป็นอย่างไร ถูกฆาตกรรมจากกลุ่มใด เบื้องต้นพบถูกฆาตกรรมแตกต่างกันทั้งมัดมือ คาดตา ใส่กุญแจมือ ฯลฯ ส่วนศพที่พบบนเรือพกปืน พบว่า ไม่ใช่ลูกเรือ แต่เป็นชาวไทยใหญ่ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และตรวจสอบเรื่องกองกำลังติดอาวุธที่ยึดเรือทั้ง 2 ลำ

เรื่องสุดท้าย สอบถามข้อมูลจากกองกำลังผาเมืองที่เข้าไปดำเนินการ นำโดยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงรายและหน่วยที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นทางการจีนให้การขอบคุณในเรื่องนี้โดยเฉพาะการได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกับคณะทำงานของไทยด้วย ทั้งนี้จะมีการรายงานเรื่องนี้ให้กับรักษาการ ผบ.ตร.ทุก 7 วันต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของจีน ได้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงรายด้วย เพื่อร่วมกับทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ คณะแพทยศาสตร์ภาควิชานิติเวชมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จีนที่เข้ามาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นที่เชียงราย ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นพยานในการตรวจด้วย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีมากถึง 13 ศพคือลูกเรือ 12 ศพ และคนที่นอนกอดปืนอาก้าเสียชีวิตบนเรือจีนขณะที่เจ้าหน้าที่ นรข.ไทย เข้ายึดเรืออีก 1 ศพ จึงทำให้ทีมชันสูตรพลิกศพต้องใช้เวลาพิสูจน์ ซึ่งตามขั้นตอนจะมีการชี้ชัดว่า แต่ละศพเป็นใคร เพราะสภาพศพเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน โดยนำผลการตรวจเลือดหรือดีเอ็นเอจากศพ เทียบกับญาติชาวจีนที่เดินทางไปดูศพ พร้อมทำพิธีทางความเชื่อของคนจีนเมื่อวันที่ 13-14 ต.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ผบช.ภ. 5 ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบในคดีนี้เป็นการเฉพาะแล้ว โดยในพื้นที่มี พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย ดำเนินการควบคุมการปฏิบัติงานของตำรวจ ซึ่งขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานฝ่ายต่างๆ ทั้งคนเดินเรือจีนที่แล่นตามเรือทั้ง 2 ลำ และประสบเหตุ ชาวจีนและคนไทยที่พบเห็นศพที่ท่าเรือเชียงแสน ฯลฯ

ด้านนายซี หมิง ฮุย รองอธิบดีกรมการต่างประเทศ มณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน เปิดเผยว่า หลังจากญาติทั้งหมดเดินทางกลับแล้วในการดำเนินการกับศพผู้ตายคงต้องรอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะแพทย์นิติเวชทำการชันสูตรพลิกศพเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. จนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยจะมีการติดตามคดีอย่างใกล้ชิดต่อไป

ด้านการห้ามไม่ให้เรือสินค้าจีนแล่นในแม่น้ำโขง ก็ยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน จะรอจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ มีความปลอดภัยจนสามารถเดินเรือได้อีกครั้งก่อน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ ซึ่งเป็นที่รับทราบกันไปทั่วโลกแล้ว จึงขอให้รัฐบาลไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับคดีดำเนินการตามข้อเท็จจริง หากพบผู้กระทำผิดในประเทศก็ขอให้ดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียชีวิตด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุสยอง พบว่าสื่อมวลชนจากประเทศจีนทั้งยักษ์ใหญ่ ของโทรทัศน์ของจีนอย่าง CCTV และสำนักข่าวซินหัว ต่างให้ความสนใจเดินทางมาทำข่าวเกี่ยวเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ รวมถึงชาวบ้านริมฝั่ง คนเรือจีน หรือแม้แต่สื่อมวลชนไทยหลายคนก็ได้รับการซักถามจากสื่อมวลชนจีนอย่างต่อเนื่องถึงสถานการณ์ดังกล่าว

ขณะที่ สื่อมวลชนไทยหลายคนระบุว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธเหตุสยองขวัญกับเรือ จีนดังกล่าวจึงน่าจะเกิดจากนอกประเทศไทยมากกว่า

ด้านนายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า มุมมองด้านความมั่นคงในเขตสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจไทย พม่า สปป.ลาว และจีน นั้นมีหลายมติ ซึ่งมีทั้งเรื่องเขตแดนประเทศ ปัญหายาเสพติด การลักลอบเข้าเมือง ฯลฯ แต่ก็มีเรื่องสังคมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยคนแต่ละชาติต่างมีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันมาโดยตลอด เรื่องสังคมจึงเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายความมั่นคง แต่เมื่อมีผลกระทบด้านสังคมจึงเป็นผลทำให้ประเทศจีนดำเนินการดังกล่าว ซึ่งยอมรับว่าได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย มากพอสมควร ดังนั้นจึงขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อสานฟื้นความสัมพันธ์ให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้งควบคู่ไปกับการทำให้สังคมที่ดีและมีความปลอดภัยกลับคืนมาซึ่งตนเชื่อว่าทุกฝ่ายสามารถทำได้

ทั้งนี้ จากข้อมูลของด่านศุลกากรเชียงแสน ระบุว่าปีงบประมาณ 2554 ไทย-จีน มีการค้าผ่านทางเรือสินค้าแม่น้ำโขงรวมมูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 87,000 ล้านบาท สินค้าผ่านแดนประมาณ 2,000 ล้านบาท และนำเข้าประมาณ 1,100 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุพบว่าสินค้าบางส่วนได้หันไปใช้บริการผ่านทางด่าน ศุลกากร อ.เชียงของ เพิ่มมากขึ้นเพื่อทดแทนการขนส่งทางเรือสินค้าที่ขาดหายไปแล้ว ถนน R3 a จากเชียงของ-แขวงบ่อแก้ว-แขวงหลวงน้ำทา-จีนตอนใต้ มีระยะทางประมาณ 245 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 วัน ส่วนทางเรือมีระยะทางมากกว่า 300 กิโลเมตร เดินทางขาล่องจากจีนมาไทย 1 วัน และขากลับ 2 วัน 1 คืน แต่มีข้อแตกต่างเรื่องราคาการบรรทุกทางเรือที่ถูกกว่าและขนส่งสินค้าได้ในปริมาณที่มากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น