ASTVผู้จัดการรายวัน – น้ำท่วมซัดโฆษณาโค้งสุดท้าย โตไม่เกิน 5% ส่งทั้งปีโตแค่ 6% สะเทือนไปถึงปีหน้า ยังดีมีปัจจัยหนุนจากนโยบายภาครัฐ สินค้าโหมโปรโมชั่นหนักเรียกรายได้คืน ชี้เทรนด์สื่อโฆษณามุ่งสร้างความรู้สึกร่วมในแบรนด์มากขึ้น เผยงานแอดแมนปีนี้ไปได้สวย มีผลงานส่งเข้าประกวดมากกว่าปีก่อน 10%
นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงาน Adman Awards & Symposium 2011 เปิดเผยว่า จากทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เติบโตดีขึ้นนั้น จะเห็นได้ว่าตัวเลขอุตสาหกรรมโฆษณามูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาทนั้น ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย. ที่ผ่านมา มีการเติบโตที่ 9-10% แต่หลังจากประเทศไทยมีปัญหาน้ำท่วมหนักเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
มองว่าจะส่งผลให้ภาพรวมโฆษณาในช่วงไตรมาสสี่ อาจจะเติบโตได้เพียง 5% เท่านั้น จึงอาจส่งผลให้ภาพรวมโฆษณาทั้งปีนี้เติบโตได้เพียง 6% เท่านั้น จากเดิมที่คาดว่าจะโต 9-10%
อย่างไรก็ตามงบโฆษณาในช่วงไตรมาสสี่ คิดเป็น 30% ของงบโฆษณารวมทั้งปี และจากปัญหาน้ำท่วม แน่นอนว่าจะมีการใช้งบโฆษณาลดลง แต่ก็ยังใช้อยู่โดยเฉพาะ ใน 3 ส่วนหลัก คือ 1. กลุ่มสินค้าซีซันนอลที่ต้องออกในช่วงนี้ ที่อาจจะเลื่อนเปิดตัวไปต้นปีหน้าบ้างเล็กน้อย 2.การทำโฆษณาโปรโมชั่นสินค้าต่างๆ ที่มุ่งช่วยเหลือประชาชนหลังน้ำลด และ3.กิจกรรมเทอดพระเกียรติ 84 พรรษา
จะเห็นการใช้โฆษณาในรูปแบบคอร์ปอเรทอิมเมจอยู่
จากปัญหาน้ำท่วมนี้มองว่าจะส่งผลกระทบไปจนถึงปีหน้าด้วย แต่ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆอีก ทั้ง 1.อาฟเตอร์เอฟเฟคจากเหตุการณ์น้ำท่วม 2.โกลบอลวอร์มมิ่ง และ3.เศรษฐกิจโลก จึงจะสามารถคาดการณ์ได้ว่า ปีหน้าทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาจะเป็นเช่นไร แต่เชื่อว่าอย่างน้อยที่สุดผู้บริโภคเองอาจจะมีกำลังซื้อมากขึ้น
ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายภาครัฐในเรื่องของการปรับค่าของชีพแต่ก็ต้องรอถึงปีนห้า รวมถึงกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคยังต้องมีการใช้สื่อโฆษณาอยู่ กลุ่มสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจะหวนทำตลาดหลังน้ำลด เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มรถยนต์และเทเลคอม ก็จะจะโหมใช้สื่อโฆษณาสูงขึ้นเช่นกัน
นายปารเมศร์ กล่าวต่อว่า ส่วนของงานโฆษณานั้น ล่าสุดจากการดำเนินในการจัดงาน Adman Awards & Symposium 2011 ขึ้น พบว่า ปีนี้มีผลงานเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 723 ชิ้น มากกว่าปีก่อน 10% โดยเฉพาะสื่ออินเทอร์แอคทีฟและดิจิตอล เข้าร่วมถึง 107 ชิ้น สูงกว่าปีก่อน 3 เท่าตัว ขณะเดียวกันรูปแบบงานโฆษณาในปีนี้ มุ่งสร้างความรู้สึกร่วมในแบรนด์มากขึ้น เน้นสร้างแบรนด์
สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริโภคกับสินค้าหรือบริการเป็นหลัก ลักษณะชิ้นงานจะเป็นแบบทูเวย์คอมมูนิเคชั่นมากขึ้น อีกทั้งยังใช้งานโฆษณาในแบบผสมผสานทั้งจากสื่อหลักและสื่อทางเลือกเข้าด้วยกัน ล้วนสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว
นายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงาน Adman Awards & Symposium 2011 เปิดเผยว่า จากทิศทางเศรษฐกิจไทยที่เติบโตดีขึ้นนั้น จะเห็นได้ว่าตัวเลขอุตสาหกรรมโฆษณามูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาทนั้น ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย. ที่ผ่านมา มีการเติบโตที่ 9-10% แต่หลังจากประเทศไทยมีปัญหาน้ำท่วมหนักเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
มองว่าจะส่งผลให้ภาพรวมโฆษณาในช่วงไตรมาสสี่ อาจจะเติบโตได้เพียง 5% เท่านั้น จึงอาจส่งผลให้ภาพรวมโฆษณาทั้งปีนี้เติบโตได้เพียง 6% เท่านั้น จากเดิมที่คาดว่าจะโต 9-10%
อย่างไรก็ตามงบโฆษณาในช่วงไตรมาสสี่ คิดเป็น 30% ของงบโฆษณารวมทั้งปี และจากปัญหาน้ำท่วม แน่นอนว่าจะมีการใช้งบโฆษณาลดลง แต่ก็ยังใช้อยู่โดยเฉพาะ ใน 3 ส่วนหลัก คือ 1. กลุ่มสินค้าซีซันนอลที่ต้องออกในช่วงนี้ ที่อาจจะเลื่อนเปิดตัวไปต้นปีหน้าบ้างเล็กน้อย 2.การทำโฆษณาโปรโมชั่นสินค้าต่างๆ ที่มุ่งช่วยเหลือประชาชนหลังน้ำลด และ3.กิจกรรมเทอดพระเกียรติ 84 พรรษา
จะเห็นการใช้โฆษณาในรูปแบบคอร์ปอเรทอิมเมจอยู่
จากปัญหาน้ำท่วมนี้มองว่าจะส่งผลกระทบไปจนถึงปีหน้าด้วย แต่ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆอีก ทั้ง 1.อาฟเตอร์เอฟเฟคจากเหตุการณ์น้ำท่วม 2.โกลบอลวอร์มมิ่ง และ3.เศรษฐกิจโลก จึงจะสามารถคาดการณ์ได้ว่า ปีหน้าทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาจะเป็นเช่นไร แต่เชื่อว่าอย่างน้อยที่สุดผู้บริโภคเองอาจจะมีกำลังซื้อมากขึ้น
ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายภาครัฐในเรื่องของการปรับค่าของชีพแต่ก็ต้องรอถึงปีนห้า รวมถึงกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคยังต้องมีการใช้สื่อโฆษณาอยู่ กลุ่มสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันจะหวนทำตลาดหลังน้ำลด เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มรถยนต์และเทเลคอม ก็จะจะโหมใช้สื่อโฆษณาสูงขึ้นเช่นกัน
นายปารเมศร์ กล่าวต่อว่า ส่วนของงานโฆษณานั้น ล่าสุดจากการดำเนินในการจัดงาน Adman Awards & Symposium 2011 ขึ้น พบว่า ปีนี้มีผลงานเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 723 ชิ้น มากกว่าปีก่อน 10% โดยเฉพาะสื่ออินเทอร์แอคทีฟและดิจิตอล เข้าร่วมถึง 107 ชิ้น สูงกว่าปีก่อน 3 เท่าตัว ขณะเดียวกันรูปแบบงานโฆษณาในปีนี้ มุ่งสร้างความรู้สึกร่วมในแบรนด์มากขึ้น เน้นสร้างแบรนด์
สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริโภคกับสินค้าหรือบริการเป็นหลัก ลักษณะชิ้นงานจะเป็นแบบทูเวย์คอมมูนิเคชั่นมากขึ้น อีกทั้งยังใช้งานโฆษณาในแบบผสมผสานทั้งจากสื่อหลักและสื่อทางเลือกเข้าด้วยกัน ล้วนสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว
