วานนี้ (12 ต.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะรมช.พาณิชย์เงาพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมครมงเงาว่าที่ประชุมได้พิจารษาโครงการรับรับจำนำข้าว ทีมีการเปิดรับจำนำตั้งแต่วันที่ 7 ตค. ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงาแต่จากการสำรวจโรงสีโดยเพราในพื้นที่จังหวัดภาคกลางและภาคเหนือ พบว่าหลายแห่งกลับมีข้าวอยู่เต็มสต๊อก เชื่อว่าในขณะนี้คงยังไม่มีการกล้าสวมสิทธิ์ เพราะถูกจับจ้องจากประชาชน อย่างไรก็ตามยังมีข้อสังเกตในการที่รัฐบาลระบุว่าจะรับจำนำข้าวทุกเม็ด แม้จะมีการสำรวจและออกใบรับรองการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยระบุว่ามีการทำนากี่ไร่ และประเมินผลว่าจะได้ผลผลิตกี่ตัน แต่ในความเป็นจริงผลผลิตที่ออกมาแม้จะจำนวนไร่ที่เท่ากัน แต่อาจจะได้ผลผลิตไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และทางรัฐบาลถือว่าให้สิทธิ์การรับจำนำข้าวทุกเม็ดเป็นการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่มีอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. เจ้าหน้าองค์การคลังสินค้า (อคส) และ องค์การตลาดสินค้าการเกษตร(อตก) 2.เจ้าหน้าที่รัฐทั่วไป และ3 ภาคเกษตรกร ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสภาเกษตรกร โดยในข้อเท็จจริงแล้วแค่การทำงานด้านเอกสารออกใบประทวนก็ยุ่งยากจนไม่มีเวลาดูรายละเอียดแต่ละจังหวัด
“ดังนั้นการใช้ดุลยพินิจจึงตกไปอยู่ที่หลงจู๊โรงสีว่าจะให้รับจำนำเท่าไหร่ อย่างไร และอาจจะนำไปสู่ที่มาของการสวมสิทธิ์ในอนาคตต่อได้ ดังนั้นจึงถือเป็นการฝากปลาย่างไว้กับแมว กับการบริหารงบประมาณ 4.2 แสนล้านบาท ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง โดยข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ผลกระทบจากน้ำทวมครั้งนี้จะทำให้ข้าวภายในประเทศลดลงเหลือผลผลิตเพียง 15-16 ล้านตัน ดังนั้นจึงต้องดูว่าสรปุสุดท้ายจะมีข้าวออกมาเกิดจำนวนดังกล่าวหรือไม่เพราะหากมากกว่านี้แสดงว่ามีการสวมสิทธิ์แน่นอน”
นพ.วรงค์กล่าวว่า จากการที่พรรคได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวที่ผ่านมาพบว่ามีสายร้องเรียนเข้ามา 20 กว่าเรื่อง โดยแบ่งเป็นหมวดต่างๆ ได้แก่ 1.โรงสีไม่พร้อม ชาวนาถูกบังคับขายข้าวในราคาถูกเกวียนละ 8 พันบาท 2.ชาวนาได้รับใบประทวนช้ามีการนัดให้ไปรับในวันที่ 2 พ.ย. 3.จำนวนโรงสีมีน้อย บางจังหวัดมีแค่โรงเดียวเช่นที่จ.ปทุมธานี 4.ชาวนาถูกเอาเปรียบรูปแบบการโกงวิธีใหม่ จากเดิมโกงเฉพาะตราชั่ง และความชื้น ภายหลังรัฐบาลได้ออกกฏเณฑ์การรับจำนำข้าวโดยแบ่งข้าวเป็น 5 เกรด คือ ข้าว 100 เปอร์เซนต์ ราคา 15,000บาท 2. ข้าว 5 เปอร์เซนต์ 14,800 บาท 3.ข้าว 10 เปอร์เซนต์ 14,600บาท 4. ข้าว15 เปอร์เซนต์ 14,200บาทและ 5.ข้าว 25 เปอร์เซนต์ 13,800บาท ดังนั้น ซึ่งเมื่อชาวนานำข้าวไปจำนำจะถูกบังคับให้อยู่ในเกรด 25 เปอร์เซนต์ แต่จะไประบุในใบประทวนว่าเป็นข้าว 5 เปอร์เซนต์ ซึ่งจะทำให้ราคาต่างตันละ1 พันบาท จึงขอให้เกษตรกรตรวจสอบในรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการโกงรูปแบบใหม่นี้.
“ดังนั้นการใช้ดุลยพินิจจึงตกไปอยู่ที่หลงจู๊โรงสีว่าจะให้รับจำนำเท่าไหร่ อย่างไร และอาจจะนำไปสู่ที่มาของการสวมสิทธิ์ในอนาคตต่อได้ ดังนั้นจึงถือเป็นการฝากปลาย่างไว้กับแมว กับการบริหารงบประมาณ 4.2 แสนล้านบาท ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง โดยข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ผลกระทบจากน้ำทวมครั้งนี้จะทำให้ข้าวภายในประเทศลดลงเหลือผลผลิตเพียง 15-16 ล้านตัน ดังนั้นจึงต้องดูว่าสรปุสุดท้ายจะมีข้าวออกมาเกิดจำนวนดังกล่าวหรือไม่เพราะหากมากกว่านี้แสดงว่ามีการสวมสิทธิ์แน่นอน”
นพ.วรงค์กล่าวว่า จากการที่พรรคได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวที่ผ่านมาพบว่ามีสายร้องเรียนเข้ามา 20 กว่าเรื่อง โดยแบ่งเป็นหมวดต่างๆ ได้แก่ 1.โรงสีไม่พร้อม ชาวนาถูกบังคับขายข้าวในราคาถูกเกวียนละ 8 พันบาท 2.ชาวนาได้รับใบประทวนช้ามีการนัดให้ไปรับในวันที่ 2 พ.ย. 3.จำนวนโรงสีมีน้อย บางจังหวัดมีแค่โรงเดียวเช่นที่จ.ปทุมธานี 4.ชาวนาถูกเอาเปรียบรูปแบบการโกงวิธีใหม่ จากเดิมโกงเฉพาะตราชั่ง และความชื้น ภายหลังรัฐบาลได้ออกกฏเณฑ์การรับจำนำข้าวโดยแบ่งข้าวเป็น 5 เกรด คือ ข้าว 100 เปอร์เซนต์ ราคา 15,000บาท 2. ข้าว 5 เปอร์เซนต์ 14,800 บาท 3.ข้าว 10 เปอร์เซนต์ 14,600บาท 4. ข้าว15 เปอร์เซนต์ 14,200บาทและ 5.ข้าว 25 เปอร์เซนต์ 13,800บาท ดังนั้น ซึ่งเมื่อชาวนานำข้าวไปจำนำจะถูกบังคับให้อยู่ในเกรด 25 เปอร์เซนต์ แต่จะไประบุในใบประทวนว่าเป็นข้าว 5 เปอร์เซนต์ ซึ่งจะทำให้ราคาต่างตันละ1 พันบาท จึงขอให้เกษตรกรตรวจสอบในรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการโกงรูปแบบใหม่นี้.