นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่มีความรุนแรงขึ้น ซึ่งธนาคารได้เตรียมแผนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังขยายวงกว้างในด้านต่างๆ โดยในส่วนของลูกค้าขนาดใหญ่ มีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกว่า 300 ราย จากเขตนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยธนาคารพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นลูกค้าของทางธนาคารเท่านั้น ซึ่งทางธนาคารได้เตรียมสำรองวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ส่วนรูปแบบการให้ความช่วยเหลือจะพิจารณาตามความเหมาะสม ทั้งการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ หรือเพิ่มวงเงินพิเศษ
สำหรับลูกค้าธุรกิจผู้ประกอบการ SME มีลูกค้าในเขตผลกระทบประมาณ 2,000 ราย และมีติดต่อขอความช่วยเหลือมาแล้ว 183 ราย โดยธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกรายในรูปแบบต่างๆ ทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ รวมถึงการลดดอกเบี้ยสูงสุด 1% พร้อมทั้งได้เตรียมสำรองวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินจำนวน 2,000 ล้านบาท
ด้านลูกค้าบุคคลและสินเชื่อรายย่อย สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการสินเชื่อเคหะบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ ธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทั้งการพักชำระเงินต้นหรือยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ ยกเว้นค่าปรับและค่าติดตามหนี้ค้างชำระ รวมถึงการเพิ่มวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 120% ของราคาประเมินกรณีสินเชื่อมีหลักประกัน
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม โดยจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าแต่ละราย ด้วยแนวทางที่เหมาะสมสอดคล้องเป็นรายกรณี ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระเงินต้น และหากลูกค้ารายใดได้รับผลกระทบมาก ก้จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามความเหมาะสม โดยปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบแล้ว 34 ราย โดยมีลูกค้า 8 ราย ได้ติดต่อขอรับความช่วยเหลือเข้ามายังธนาคาร ซึ่งธนาคารมีลูกค้าเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบแล้ว 34 ราย โดยมีลูกค้า 8 ราย ได้ติดต่อขอรับความช่วยเหลือเข้ามายังธนาคาร
ขณะเดียวกัน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อบุคคลไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อบุคคลมีหลักประกันที่ได้รับผลกระทบจากอุกภัยน้ำท่วมนั้น ธนาคารจะพิจารณาเงื่อนไขการผ่อนชำระไม่ว่าจะเป็น การปรับลดยอดผ่อนชำระ และการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ตลอดจนแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปรับลดยอดผ่อนชำระต่อเดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม โดยลูกค้ารายย่อยผู้ใช้บริการสินเชื่อบ้านปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 40% เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือลูกค้าสามารถผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน และมีวงเงินสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมบ้านได้สูงสุดเท่ากับยอดสินเชื่อบ้านที่ผ่อนชำระมาแล้วคิดดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ส่วนผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยได้รับการผ่อนผันให้ชำระดอกเบี้ย 50% และปรับลดยอดผ่อนชำระขั้นต่ำให้เป็น 0-10% และสำหรับผู้ใช้สินเชื่อเงินสดทันใจผ่อนผันให้ชำระดอกเบี้ย 50% และปรับลดยอดผ่อนชำระขั้นต่ำเป็น 0-5%
ลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 50% เป็นระยะเวลานานสูงสุด 1 ปี และขยายระยะเวลาการผ่อนสูงสุด 6 เดือน รวมสัญญาเดิมไม่เกิน 7 ปี และลูกค้าธุรกิจธนาคารจะขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น ป็นเวลา 6 เดือน และต่อเพิ่มได้อีก 6 เดือน ส่วนวงเงินสินเชื่อเพื่อการนำเข้า (T/R) -ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) สามารถต่อตั๋วออกไปได้อีก 6 เดือน
สำหรับลูกค้าธุรกิจผู้ประกอบการ SME มีลูกค้าในเขตผลกระทบประมาณ 2,000 ราย และมีติดต่อขอความช่วยเหลือมาแล้ว 183 ราย โดยธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกรายในรูปแบบต่างๆ ทั้งการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ รวมถึงการลดดอกเบี้ยสูงสุด 1% พร้อมทั้งได้เตรียมสำรองวงเงินสินเชื่อฉุกเฉินจำนวน 2,000 ล้านบาท
ด้านลูกค้าบุคคลและสินเชื่อรายย่อย สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการสินเชื่อเคหะบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ ธนาคารจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทั้งการพักชำระเงินต้นหรือยืดระยะเวลาการผ่อนชำระ ยกเว้นค่าปรับและค่าติดตามหนี้ค้างชำระ รวมถึงการเพิ่มวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 120% ของราคาประเมินกรณีสินเชื่อมีหลักประกัน
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม โดยจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าแต่ละราย ด้วยแนวทางที่เหมาะสมสอดคล้องเป็นรายกรณี ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระเงินต้น และหากลูกค้ารายใดได้รับผลกระทบมาก ก้จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามความเหมาะสม โดยปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบแล้ว 34 ราย โดยมีลูกค้า 8 ราย ได้ติดต่อขอรับความช่วยเหลือเข้ามายังธนาคาร ซึ่งธนาคารมีลูกค้าเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบแล้ว 34 ราย โดยมีลูกค้า 8 ราย ได้ติดต่อขอรับความช่วยเหลือเข้ามายังธนาคาร
ขณะเดียวกัน สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อบุคคลไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อบุคคลมีหลักประกันที่ได้รับผลกระทบจากอุกภัยน้ำท่วมนั้น ธนาคารจะพิจารณาเงื่อนไขการผ่อนชำระไม่ว่าจะเป็น การปรับลดยอดผ่อนชำระ และการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ตลอดจนแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปรับลดยอดผ่อนชำระต่อเดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม โดยลูกค้ารายย่อยผู้ใช้บริการสินเชื่อบ้านปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 40% เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือลูกค้าสามารถผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน และมีวงเงินสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมบ้านได้สูงสุดเท่ากับยอดสินเชื่อบ้านที่ผ่อนชำระมาแล้วคิดดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ส่วนผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยได้รับการผ่อนผันให้ชำระดอกเบี้ย 50% และปรับลดยอดผ่อนชำระขั้นต่ำให้เป็น 0-10% และสำหรับผู้ใช้สินเชื่อเงินสดทันใจผ่อนผันให้ชำระดอกเบี้ย 50% และปรับลดยอดผ่อนชำระขั้นต่ำเป็น 0-5%
ลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 50% เป็นระยะเวลานานสูงสุด 1 ปี และขยายระยะเวลาการผ่อนสูงสุด 6 เดือน รวมสัญญาเดิมไม่เกิน 7 ปี และลูกค้าธุรกิจธนาคารจะขยายระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น ป็นเวลา 6 เดือน และต่อเพิ่มได้อีก 6 เดือน ส่วนวงเงินสินเชื่อเพื่อการนำเข้า (T/R) -ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) สามารถต่อตั๋วออกไปได้อีก 6 เดือน
