ปรากฏการณ์ “น้ำท่วมชามข้าวโลก” ที่กำลังเล่นงานไทยอย่างสาหัสสากรรจ์อยู่ในเวลานี้ ไล่เรียงตั้งแต่แผ่นดินตอนบนของประเทศถัดลงมาเรื่อยๆ จากภาคเหนือ ภาคอีสานสู่ภาคกลาง และที่หวาดหวั่นกันหนักหนาเอาการก็คือพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร
สำหรับพื้นที่ภาคใต้คาดการณ์กันว่า ภัยในลักษณะเดียวกันนี้จะเวียนไปถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการส่งสัญญาณเตือนจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มมาเป็นระยะๆ อย่างล่าสุดที่เพิ่งเกิดฝนถล่มและดินสไลด์ใส่บ้านเรือนบนเกาะภูเก็ตนั่นไง
จากปรากฏการณ์ในรอบหลายปีมานี้มีสัญญาณเตือนมาต่อเนื่องว่า สำหรับแผ่นดินด้ามขวานเมื่อต้องเผชิญภัยธรรมชาตินั้น ความหนักหนาสาหัสสากรรจ์จะมากมายกว่าภูมิภาคอื่นๆ ด้วยภูมิศาสตร์ที่เป็นคาบสมุทรเป็นแนวยาวและถูกโอบล้อมด้วย 2 ฝั่งทะเล
ภัยธรรมชาติที่คนเหนือ คนอีสาน และคนภาคกลางกำลังเผชิญอยู่หลักๆ คือ ภาวะของอุทกภัยหรือภัยน้ำท่วม มีบ้างที่น้ำป่าหลากเร็วและเกิดแผ่นดินถล่ม แต่สำหรับภัยในลักษณะเดียวกันเมื่อเกิดขึ้นในภาคใต้ยังมักพ่วงเอาวาตภัยหรือพายุต่างๆ ถาโถมสมทบเข้าไปด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ในเวลานี้เหตุการณ์ที่คลื่นยักษ์สึนามิกลืนกินชีวิตและทรัพย์สินผู้คนไปจำนวนมหาศาล ซึ่งก็ยังตามหลอกหลอนอยู่ในความรู้สึกคนใต้อย่างยากจะลืมเลือน
อย่างไรก็ตาม นอกจากเวลานี้คนที่ภาคใต้จะคึกคักอยู่กับการเตรียมตัวรับอุทกภัยและวาตภัยแล้ว เขาก็ครึกครื้นกับการรวบรวมธารน้ำใจเพื่อส่งไปช่วยผู้ที่กำลังประสบภัยไม่แพ้กัน
จะว่าไปแล้วภัยธรรมชาติแค่เตือนสติเราว่า แม้ธรรมชาติดูแสนจะยิ่งใหญ่ แต่ก็ยังถูกมนุษย์ทำลายล้างมาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เมื่อธรรมชาติต้องปรับสมดุลก็ย่อมเกิดการเอาคืนบ้าง ทว่าภัยที่ก่อเกิดจากคนต่างหากที่น่าหวาดหวั่นวิตกกว่าหลายเท่านัก
เวลานี้สังคมไทยกำลังวุ่นวายกับข่าวคราวภัยน้ำท่วม แต่ข่าวคาวฉาวโฉ่อันเป็นพิษภัยจากน้ำมือของบรรดากลุ่มก๊วนนักการเมืองเราเกือบจะหลงลืมกันไปแล้ว
ท่ามกลางความโกลาหลอลหม่านจากภัยธรรมชาติ กลุ่มก๊วนนักการเมืองยังคงเดินหน้าสร้างพิษภัยต่อประเทศชาติและประชาชนกันอย่างไม่หยุดหย่อน พร้อมๆ กับไม่ลืมที่จะฉกฉวยเอาความทุกข์ยากของพี่น้องร่วมชาติไปใช้สร้างภาพเพื่อกลบลบความเลวร้ายที่ตนก่อไว้
จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นภาพของบรรดานักการเมืองฟากรัฐบาลลุยช่วยผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ แต่หลายครั้งภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกฉายให้เห็นก็เป็นไปแบบไม่ต่างอะไรจากท่วงท่าของเทวดากำลังเดินเหินอยู่บนแคตวอล์ค
หรือไม่แปลกที่ภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แม้จะดูเนียนกว่า แต่แท้จริงแล้วก็เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเหมือนๆ กัน อย่างเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วลงไปช่วยชาวใต้เตรียมรับมืออุทกภัยและวาตภัย ทั้งที่ในเวลาตัวเองมีอำนาจกลับแทบไม่มีการเตรียมแผนอะไรไว้ให้เลย
และก็ไม่แปลกอีกเช่นกันที่ปรากฏการณ์น้ำท่วมชามข้าวโลกอยู่ในเวลานี้ กลับมีแต่จะไปเพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทองให้กับชามข้าวของบรรดากลุ่มก๊วนนักการเมือง
ต้องไม่ลืมว่าภารกิจหลักที่ไม่เคยประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่รับรู้ว่ารัฐบาลปูแดงดำเนินแนวทางนี้มาต่อเนื่องคือ การลบล้างโทษทัณฑ์และคดีความให้กับนักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตร ให้ได้กลับมาอยู่ไทย โดยไม่ต้องไปเร่ร่อนใส่ร้ายหรือหาทางทำลายบ้านเมืองอยู่ต่างประเทศ อยากทำอะไรก็ให้กลับมาทำที่บ้านเกิดเมืองนอนได้เลย
เรื่องเหล่านี้ทั้งรัฐบาลและพลพรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าไปแบบไม่มีหยุดพัก จนเป็นที่หวาดผวากันของหลายคนแล้วว่า หลังวันสำคัญช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้า สังคมไทยยังจะวุ่นวายต่อเนื่องต่อไปจากภัยอันเกิดจากการกระทำอย่างย่ามใจของนักการเมือง
ถึงกับมีการคาดการณ์กันแล้วว่า ภัยความขัดแย้งของคนในชาติที่จะมาหลังจากภัยน้ำท่วมสร่างซา น่าจะถึงขั้นเลือดตกยางออก
ปรากฏการณ์ไฟใต้คุโชนระลอกใหม่ ซึ่งเกิดการฆ่ากันตายของคนในชาติไปแล้วหลายพันศพ ทรัพย์สินของทั้งราชการ เอกชน และประชาชนเสียหายมหาศาล ถ้าเราไม่พยายามลืมก็จะทราบว่า ต้นตอไฟใต้ก็เกิดขึ้นจากฝีมือของระบอบทักษิณ แล้วระบอบประชาธิปัตย์ก็มีส่วนละเลงผลประโยชน์ช่วยสานให้ลุกลามต่อนั่นแหละ
วิกฤตไฟใต้ในเวลานี้ถือเป็นการทำสงครามของคนไทยด้วยกันเอง บรรดากลุ่มก๊วนนักการเมืองไม่ว่าจะพรรคเพื่อไทยที่กุมอำนาจรัฐในวันนี้ หรือพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยนำพารัฐนาวามาก่อน แทนที่จะหาทางเร่งแก้วิกฤต แต่กกลับเป็นที่รับรู้กันว่าต่างใช้ไฟใต้เป็นฉากบังหน้าแสวงหาผลประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น
แถมเวลานี้ก็กำลังหาทางหว่านโปรยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ๆ ให้ลงไปยังทั่วผืนแผ่นดินภาคใต้ ด้วยข้ออ้างหลักประการหนึ่งคือ ใช้การพัฒนาเศรษฐกิจไปดับไฟใต้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกลับกำลังมีปฏิกิริยาโต้ตอบจากผู้คนในพื้นที่จำนวนมาก และก็มีแนวโน้มจะถึงขั้นเลือดตกยางออกได้อีกเช่นกัน
ถ้าเวลานี้ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่เราจะต้องเตรียมรับมือด้วยความไม่ประมาทแล้ว ภัยจากน้ำมือบรรดากลุ่มก๊วนนักการเมืองยิ่งเป็นเรื่องที่เราจะต้องตั้งสติให้มั่นเสียยิ่งกว่าอีกมากมายหลายเท่านัก
สำหรับพื้นที่ภาคใต้คาดการณ์กันว่า ภัยในลักษณะเดียวกันนี้จะเวียนไปถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการส่งสัญญาณเตือนจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มมาเป็นระยะๆ อย่างล่าสุดที่เพิ่งเกิดฝนถล่มและดินสไลด์ใส่บ้านเรือนบนเกาะภูเก็ตนั่นไง
จากปรากฏการณ์ในรอบหลายปีมานี้มีสัญญาณเตือนมาต่อเนื่องว่า สำหรับแผ่นดินด้ามขวานเมื่อต้องเผชิญภัยธรรมชาตินั้น ความหนักหนาสาหัสสากรรจ์จะมากมายกว่าภูมิภาคอื่นๆ ด้วยภูมิศาสตร์ที่เป็นคาบสมุทรเป็นแนวยาวและถูกโอบล้อมด้วย 2 ฝั่งทะเล
ภัยธรรมชาติที่คนเหนือ คนอีสาน และคนภาคกลางกำลังเผชิญอยู่หลักๆ คือ ภาวะของอุทกภัยหรือภัยน้ำท่วม มีบ้างที่น้ำป่าหลากเร็วและเกิดแผ่นดินถล่ม แต่สำหรับภัยในลักษณะเดียวกันเมื่อเกิดขึ้นในภาคใต้ยังมักพ่วงเอาวาตภัยหรือพายุต่างๆ ถาโถมสมทบเข้าไปด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ในเวลานี้เหตุการณ์ที่คลื่นยักษ์สึนามิกลืนกินชีวิตและทรัพย์สินผู้คนไปจำนวนมหาศาล ซึ่งก็ยังตามหลอกหลอนอยู่ในความรู้สึกคนใต้อย่างยากจะลืมเลือน
อย่างไรก็ตาม นอกจากเวลานี้คนที่ภาคใต้จะคึกคักอยู่กับการเตรียมตัวรับอุทกภัยและวาตภัยแล้ว เขาก็ครึกครื้นกับการรวบรวมธารน้ำใจเพื่อส่งไปช่วยผู้ที่กำลังประสบภัยไม่แพ้กัน
จะว่าไปแล้วภัยธรรมชาติแค่เตือนสติเราว่า แม้ธรรมชาติดูแสนจะยิ่งใหญ่ แต่ก็ยังถูกมนุษย์ทำลายล้างมาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เมื่อธรรมชาติต้องปรับสมดุลก็ย่อมเกิดการเอาคืนบ้าง ทว่าภัยที่ก่อเกิดจากคนต่างหากที่น่าหวาดหวั่นวิตกกว่าหลายเท่านัก
เวลานี้สังคมไทยกำลังวุ่นวายกับข่าวคราวภัยน้ำท่วม แต่ข่าวคาวฉาวโฉ่อันเป็นพิษภัยจากน้ำมือของบรรดากลุ่มก๊วนนักการเมืองเราเกือบจะหลงลืมกันไปแล้ว
ท่ามกลางความโกลาหลอลหม่านจากภัยธรรมชาติ กลุ่มก๊วนนักการเมืองยังคงเดินหน้าสร้างพิษภัยต่อประเทศชาติและประชาชนกันอย่างไม่หยุดหย่อน พร้อมๆ กับไม่ลืมที่จะฉกฉวยเอาความทุกข์ยากของพี่น้องร่วมชาติไปใช้สร้างภาพเพื่อกลบลบความเลวร้ายที่ตนก่อไว้
จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นภาพของบรรดานักการเมืองฟากรัฐบาลลุยช่วยผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ แต่หลายครั้งภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกฉายให้เห็นก็เป็นไปแบบไม่ต่างอะไรจากท่วงท่าของเทวดากำลังเดินเหินอยู่บนแคตวอล์ค
หรือไม่แปลกที่ภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แม้จะดูเนียนกว่า แต่แท้จริงแล้วก็เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเหมือนๆ กัน อย่างเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วลงไปช่วยชาวใต้เตรียมรับมืออุทกภัยและวาตภัย ทั้งที่ในเวลาตัวเองมีอำนาจกลับแทบไม่มีการเตรียมแผนอะไรไว้ให้เลย
และก็ไม่แปลกอีกเช่นกันที่ปรากฏการณ์น้ำท่วมชามข้าวโลกอยู่ในเวลานี้ กลับมีแต่จะไปเพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทองให้กับชามข้าวของบรรดากลุ่มก๊วนนักการเมือง
ต้องไม่ลืมว่าภารกิจหลักที่ไม่เคยประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่รับรู้ว่ารัฐบาลปูแดงดำเนินแนวทางนี้มาต่อเนื่องคือ การลบล้างโทษทัณฑ์และคดีความให้กับนักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตร ให้ได้กลับมาอยู่ไทย โดยไม่ต้องไปเร่ร่อนใส่ร้ายหรือหาทางทำลายบ้านเมืองอยู่ต่างประเทศ อยากทำอะไรก็ให้กลับมาทำที่บ้านเกิดเมืองนอนได้เลย
เรื่องเหล่านี้ทั้งรัฐบาลและพลพรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าไปแบบไม่มีหยุดพัก จนเป็นที่หวาดผวากันของหลายคนแล้วว่า หลังวันสำคัญช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้า สังคมไทยยังจะวุ่นวายต่อเนื่องต่อไปจากภัยอันเกิดจากการกระทำอย่างย่ามใจของนักการเมือง
ถึงกับมีการคาดการณ์กันแล้วว่า ภัยความขัดแย้งของคนในชาติที่จะมาหลังจากภัยน้ำท่วมสร่างซา น่าจะถึงขั้นเลือดตกยางออก
ปรากฏการณ์ไฟใต้คุโชนระลอกใหม่ ซึ่งเกิดการฆ่ากันตายของคนในชาติไปแล้วหลายพันศพ ทรัพย์สินของทั้งราชการ เอกชน และประชาชนเสียหายมหาศาล ถ้าเราไม่พยายามลืมก็จะทราบว่า ต้นตอไฟใต้ก็เกิดขึ้นจากฝีมือของระบอบทักษิณ แล้วระบอบประชาธิปัตย์ก็มีส่วนละเลงผลประโยชน์ช่วยสานให้ลุกลามต่อนั่นแหละ
วิกฤตไฟใต้ในเวลานี้ถือเป็นการทำสงครามของคนไทยด้วยกันเอง บรรดากลุ่มก๊วนนักการเมืองไม่ว่าจะพรรคเพื่อไทยที่กุมอำนาจรัฐในวันนี้ หรือพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยนำพารัฐนาวามาก่อน แทนที่จะหาทางเร่งแก้วิกฤต แต่กกลับเป็นที่รับรู้กันว่าต่างใช้ไฟใต้เป็นฉากบังหน้าแสวงหาผลประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น
แถมเวลานี้ก็กำลังหาทางหว่านโปรยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ๆ ให้ลงไปยังทั่วผืนแผ่นดินภาคใต้ ด้วยข้ออ้างหลักประการหนึ่งคือ ใช้การพัฒนาเศรษฐกิจไปดับไฟใต้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกลับกำลังมีปฏิกิริยาโต้ตอบจากผู้คนในพื้นที่จำนวนมาก และก็มีแนวโน้มจะถึงขั้นเลือดตกยางออกได้อีกเช่นกัน
ถ้าเวลานี้ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่เราจะต้องเตรียมรับมือด้วยความไม่ประมาทแล้ว ภัยจากน้ำมือบรรดากลุ่มก๊วนนักการเมืองยิ่งเป็นเรื่องที่เราจะต้องตั้งสติให้มั่นเสียยิ่งกว่าอีกมากมายหลายเท่านัก
