ASTVผู้จัดการรายวัน – “ปั้มบางจาก” ทุ่มครั้งใหญ่ 2,000 ล้านบาทรับเออีซี เตรียมผุดปั้มครบ 1,200 สาขา พร้อมรุกนอนออยล์เต็มสูบ ลุยร้านใบจากมาร์ทโฉมใหม่รวม 400 สาขา มั่นใจอีก 5 ปีรายได้จากใบจากมาร์ทแตะ 5,700 ล้านบาท เผยน้ำท่วมดูดรายได้ตกลงเฉลี่ย2% ทั้งในปั้มและร้านใบจากมาร์ท พร้อมปิดให้บริการไป 25 สาขา
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) ดูแลในส่วนธุรกิจค้าปลีก ร้านใบจากมาร์ท ภายใต้การดูแลโดย บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน บริษัทฯเตรียมแผนลงทุนรองรับรอบ 5 ปีจากนี้ไว้แล้ว
ด้วยงบลงทุนรวมสูงถึง 2,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและขยายสาขาทั้งในส่วนธุรกิจปั้มน้ำมันบางจาก 1,500 ล้านบาท และอีก 500 ล้านบาทสำหรับกลุ่มนอนออยล์ ทั้งร้านใบจากมาร์ท, ร้านกาแฟอินทนิน และคาร์แคร์กรีนซีรีย์
โดยในส่วนของปั้มน้ำมันบางจากนั้น ปัจจุบันเปิดให้บริการทั่วประเทศราว 1,000 สาขา ภายในปี 2559 จะเปิดให้ได้ 1,200 สาขา ซึ่งสาขาใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้น มีทั้งการเปิดในทำเลใหม่, เปิดใหม่จากทำเลเดิมที่หมดสัญญา และอาจจะมีบางสาขาที่ปิดให้บริการลงไปบ้าง และจะลงทุนในต่างประเทศด้วย ประมาณ 20 สาขา คือ ลาว พม่า เขมร และจีนตอนใต้ ขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้อยู่ คาดว่าจะเริ่มได้ในปีหน้า
ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกร้านใบจากมาร์ทนั้น ช่วง 5 ปีจากนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุด ถึง 500 ล้านบาท จากบริษัทลงทุนเอง 250 ล้านบาท และจากดีลเลอร์อีก 250 ล้านบาท ในการขยายสาขาร้านใบจากมาร์ท ครบ 400 สาขาในรูปโฉมใหม่ทั้งหมด แบ่งออกเป็นของบางจาก 150 สาขา และอีก 250 สาขา เป็นของดีลเลอร์ จากปัจจุบันมีอยู่ 128 สาขา เป็นของบางจาก 120 สาขา อีก 8
สาขาเป็นของดีลเลอร์ โดยได้ปรับสู่รูปโฉมใหม่แล้ว 5 สาขา ถึงสิ้นปีนี้จะปรับได้ 20 สาขา และในปีหน้าปรับเพิ่มอีก 100 สาขา
ตามแผนงานจะมีทั้งการรีโนเวทสาขาเก่า และการขยายสาขาใหม่ไปพร้อมๆกัน ดังนั้นในปีหน้าที่จะเห็นร้านใบจากมาร์ทอีก 100 สาขานั้น มาจากการรีโนเวท 60 สาขา ลงทุนสาขาละ 5 แสนกว่าบาท และเปิดใหม่ 40 สาขา ขนาด 80-100 ตารางเมตร ลงทุนสาขาละ 1.2-1.5 ล้านบาท ขณะที่ช่วง10ปีที่ผ่านมาขยายเพิ่ม 20 สาขาต่อปีเท่านั้น
สำหรับการบริหารสินค้าภายในร้านใบจากมาร์ท จะใช้บริการด้านโลจิสติกส์จากทาง บริษัท ซัน 108 จำกัด ในเครือสหพัฒน์ ซึ่งปัจจุบันสินค้ากว่า 70% มาจากทางซัน 108 และอีก 30% เป็นสินค้ากลุ่มท้องถิ่น ซึ่งบางจากกรีนเนทเป็นผู้ดูแลเอง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเรียบร้อย ส่งผลให้ร้านใบจากมาร์ทมีสินค้าทั่วไป 80% และสินค้าท้องถิ่น 20% หรือกว่า 100 รายการ จากปัจจุบันมีสัดส่วน 10% เชื่อว่าภายในปี 2559 ร้านใบจากมาร์ทะมีรายได้ 40,000 บาทต่อสาขาต่อวัน หรือมีรายได้รวมที่ 5,400 ล้านบาท จากปัจจุบันเฉลี่ยมีรายได้ที่ 20,000 บาทต่อสาขาต่อวัน โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาทโตจากปีก่อนอีก 30%
“บริษัทฯให้ความสำคัญกับธุรกิจในกลุ่มนอนออยล์มากยิ่งขึ้น ตั้งเป้าภายในปี 2559 จะสร้างรายได้ในสัดส่วน 16% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6% และอีก 84% มาจากธุรกิจน้ำมัน เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มที่มีการรับรู้รายได้สม่ำเสมอ ขณะที่รายได้จากกลุ่มน้ำมันนั้นค่อนข้างผันผวน”
ส่วนปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นนี้ ปั้มบางจากปิดให้บริการไปแล้ว 25 สาขา โดยเฉพาะเขตภาคเหนือ และภาคกลาง ตามเส้นทางถนนสายเอเชีย ทั้งในอยุธยา วังน้อย นครสวรรค์ สิงห์บุรี เป็นต้น โดยนับจากวันที่ 1-9 ต.ค.ที่ผ่านมาพบว่ารายได้จากส่วนของปั้มน้ำมันหายไป 2% คิดเป็นจำนวนน้ำมันได้ 1.2-1.4 แสนลิตร ส่วนยอดขายในร้านใบจากมาร์ทก็มีรายได้หายไป 2% เช่นกัน หรือคิดเป็นรายได้ที่หายไป 3,000-4,000 บาทต่อวัน
ทั้งนี้สำหรับสาขาในกรุงเทพฯ บริษัทพร้อมรับมือและนำสินค้ากลุ่มอาหารแห้งมาวางจำหน่ายโดยไม่มีการกักตุนสินค้า เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในกรุงเทพฯต่อไป ส่วนเรื่องของการขนส่งน้ำมันนั้นยังคงใช้คลังน้ำมันที่บางปะอินอยู่ แต่ถ้าได้รับความเสียหายก็จะหันมาใช้ที่คลังน้ำมันในกรุงเทพฯ สมุทรสาครและระยองแทน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการทั่วประเทศ ซึ่งยังมั่นใจว่าถึงสิ้นปีนี้ ภาพรวมรายได้ของบริษัทจะเติบโต 8-10% ตามแผน และปีหน้าจะเติบโต 10-12%
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) ดูแลในส่วนธุรกิจค้าปลีก ร้านใบจากมาร์ท ภายใต้การดูแลโดย บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน บริษัทฯเตรียมแผนลงทุนรองรับรอบ 5 ปีจากนี้ไว้แล้ว
ด้วยงบลงทุนรวมสูงถึง 2,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและขยายสาขาทั้งในส่วนธุรกิจปั้มน้ำมันบางจาก 1,500 ล้านบาท และอีก 500 ล้านบาทสำหรับกลุ่มนอนออยล์ ทั้งร้านใบจากมาร์ท, ร้านกาแฟอินทนิน และคาร์แคร์กรีนซีรีย์
โดยในส่วนของปั้มน้ำมันบางจากนั้น ปัจจุบันเปิดให้บริการทั่วประเทศราว 1,000 สาขา ภายในปี 2559 จะเปิดให้ได้ 1,200 สาขา ซึ่งสาขาใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้น มีทั้งการเปิดในทำเลใหม่, เปิดใหม่จากทำเลเดิมที่หมดสัญญา และอาจจะมีบางสาขาที่ปิดให้บริการลงไปบ้าง และจะลงทุนในต่างประเทศด้วย ประมาณ 20 สาขา คือ ลาว พม่า เขมร และจีนตอนใต้ ขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้อยู่ คาดว่าจะเริ่มได้ในปีหน้า
ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกร้านใบจากมาร์ทนั้น ช่วง 5 ปีจากนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุด ถึง 500 ล้านบาท จากบริษัทลงทุนเอง 250 ล้านบาท และจากดีลเลอร์อีก 250 ล้านบาท ในการขยายสาขาร้านใบจากมาร์ท ครบ 400 สาขาในรูปโฉมใหม่ทั้งหมด แบ่งออกเป็นของบางจาก 150 สาขา และอีก 250 สาขา เป็นของดีลเลอร์ จากปัจจุบันมีอยู่ 128 สาขา เป็นของบางจาก 120 สาขา อีก 8
สาขาเป็นของดีลเลอร์ โดยได้ปรับสู่รูปโฉมใหม่แล้ว 5 สาขา ถึงสิ้นปีนี้จะปรับได้ 20 สาขา และในปีหน้าปรับเพิ่มอีก 100 สาขา
ตามแผนงานจะมีทั้งการรีโนเวทสาขาเก่า และการขยายสาขาใหม่ไปพร้อมๆกัน ดังนั้นในปีหน้าที่จะเห็นร้านใบจากมาร์ทอีก 100 สาขานั้น มาจากการรีโนเวท 60 สาขา ลงทุนสาขาละ 5 แสนกว่าบาท และเปิดใหม่ 40 สาขา ขนาด 80-100 ตารางเมตร ลงทุนสาขาละ 1.2-1.5 ล้านบาท ขณะที่ช่วง10ปีที่ผ่านมาขยายเพิ่ม 20 สาขาต่อปีเท่านั้น
สำหรับการบริหารสินค้าภายในร้านใบจากมาร์ท จะใช้บริการด้านโลจิสติกส์จากทาง บริษัท ซัน 108 จำกัด ในเครือสหพัฒน์ ซึ่งปัจจุบันสินค้ากว่า 70% มาจากทางซัน 108 และอีก 30% เป็นสินค้ากลุ่มท้องถิ่น ซึ่งบางจากกรีนเนทเป็นผู้ดูแลเอง คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเรียบร้อย ส่งผลให้ร้านใบจากมาร์ทมีสินค้าทั่วไป 80% และสินค้าท้องถิ่น 20% หรือกว่า 100 รายการ จากปัจจุบันมีสัดส่วน 10% เชื่อว่าภายในปี 2559 ร้านใบจากมาร์ทะมีรายได้ 40,000 บาทต่อสาขาต่อวัน หรือมีรายได้รวมที่ 5,400 ล้านบาท จากปัจจุบันเฉลี่ยมีรายได้ที่ 20,000 บาทต่อสาขาต่อวัน โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาทโตจากปีก่อนอีก 30%
“บริษัทฯให้ความสำคัญกับธุรกิจในกลุ่มนอนออยล์มากยิ่งขึ้น ตั้งเป้าภายในปี 2559 จะสร้างรายได้ในสัดส่วน 16% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6% และอีก 84% มาจากธุรกิจน้ำมัน เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มที่มีการรับรู้รายได้สม่ำเสมอ ขณะที่รายได้จากกลุ่มน้ำมันนั้นค่อนข้างผันผวน”
ส่วนปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นนี้ ปั้มบางจากปิดให้บริการไปแล้ว 25 สาขา โดยเฉพาะเขตภาคเหนือ และภาคกลาง ตามเส้นทางถนนสายเอเชีย ทั้งในอยุธยา วังน้อย นครสวรรค์ สิงห์บุรี เป็นต้น โดยนับจากวันที่ 1-9 ต.ค.ที่ผ่านมาพบว่ารายได้จากส่วนของปั้มน้ำมันหายไป 2% คิดเป็นจำนวนน้ำมันได้ 1.2-1.4 แสนลิตร ส่วนยอดขายในร้านใบจากมาร์ทก็มีรายได้หายไป 2% เช่นกัน หรือคิดเป็นรายได้ที่หายไป 3,000-4,000 บาทต่อวัน
ทั้งนี้สำหรับสาขาในกรุงเทพฯ บริษัทพร้อมรับมือและนำสินค้ากลุ่มอาหารแห้งมาวางจำหน่ายโดยไม่มีการกักตุนสินค้า เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในกรุงเทพฯต่อไป ส่วนเรื่องของการขนส่งน้ำมันนั้นยังคงใช้คลังน้ำมันที่บางปะอินอยู่ แต่ถ้าได้รับความเสียหายก็จะหันมาใช้ที่คลังน้ำมันในกรุงเทพฯ สมุทรสาครและระยองแทน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการทั่วประเทศ ซึ่งยังมั่นใจว่าถึงสิ้นปีนี้ ภาพรวมรายได้ของบริษัทจะเติบโต 8-10% ตามแผน และปีหน้าจะเติบโต 10-12%