นครศรีธรรมราช - กปร.ลงพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานปี 2554 พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติในปี 2555 ระบุต้องพัฒนาโดยดึงท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมหนุนปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง ฟื้นอู่ข้าวอู่น้ำในอดีตให้กลับคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราชว่า นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร.เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กปร.ได้ลงพื้นที่ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อติดตามความก้าวหน้าและผลการดำเนินงาน ประจำปี 2554โดยมีส่วนราชการและผู้ที่รับผิดชอบการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในโครงการฯ เข้าร่วมบรรยายความคืบหน้า
ในภาพรวม กปร. พบว่า โครงการมีความก้าวหน้าไปมากอย่างเป็นที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติงานเพิ่มเติม โดยขอให้ภาคส่วนที่ลงพื้นที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนและรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วย
รองเลขาธิการ กปร. ยังกล่าวอีกว่าว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ นี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญคือแก้ปัญหาเรื่องน้ำและมุ่งเน้นการฟื้นฟู เพื่อให้พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง กลับคืนสู่ความเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญดังเดิม ซึ่งการปฏิบัติงานในปีงบประมาณ2555 จะให้ความสำคัญในเรื่องของการสร้างพื้นที่นาข้าว เน้นการส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีข้าวบริโภคในราคาถูก
อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดการปฏิบัติงานให้ส่วนราชการ ตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ ปฏิบัติงานโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประหยัด เรียบง่ายและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งคิดและทำกิจกรรมที่เห็นว่าประชาชนมีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้
ส่วนข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่จะมีการส่งเสริมให้มีการพัฒนาและผลิต ได้แก่ ข้าวกาบดำ ข้าวไข่มดริ้น ข้าวเข็มทอง ข้าวเล็บนก ข้าวสังข์หยด ข้าวหัวนา ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง นครศรีธรรมราช และใกล้เคียง ทั้งนี้ ในอดีต ดินแดนแถบนี้ นอกจากจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ที่สำคัญของภาคใต้แล้ว ยังสามารถผลิตข้าวออกไปขายต่างประเทศ จนมีฐานะทางเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราชว่า นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร.เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กปร.ได้ลงพื้นที่ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อติดตามความก้าวหน้าและผลการดำเนินงาน ประจำปี 2554โดยมีส่วนราชการและผู้ที่รับผิดชอบการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในโครงการฯ เข้าร่วมบรรยายความคืบหน้า
ในภาพรวม กปร. พบว่า โครงการมีความก้าวหน้าไปมากอย่างเป็นที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติงานเพิ่มเติม โดยขอให้ภาคส่วนที่ลงพื้นที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนและรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วย
รองเลขาธิการ กปร. ยังกล่าวอีกว่าว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ นี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญคือแก้ปัญหาเรื่องน้ำและมุ่งเน้นการฟื้นฟู เพื่อให้พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง กลับคืนสู่ความเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญดังเดิม ซึ่งการปฏิบัติงานในปีงบประมาณ2555 จะให้ความสำคัญในเรื่องของการสร้างพื้นที่นาข้าว เน้นการส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมือง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีข้าวบริโภคในราคาถูก
อย่างไรก็ตาม ในรายละเอียดการปฏิบัติงานให้ส่วนราชการ ตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ ปฏิบัติงานโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประหยัด เรียบง่ายและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งคิดและทำกิจกรรมที่เห็นว่าประชาชนมีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้
ส่วนข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่จะมีการส่งเสริมให้มีการพัฒนาและผลิต ได้แก่ ข้าวกาบดำ ข้าวไข่มดริ้น ข้าวเข็มทอง ข้าวเล็บนก ข้าวสังข์หยด ข้าวหัวนา ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง นครศรีธรรมราช และใกล้เคียง ทั้งนี้ ในอดีต ดินแดนแถบนี้ นอกจากจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ที่สำคัญของภาคใต้แล้ว ยังสามารถผลิตข้าวออกไปขายต่างประเทศ จนมีฐานะทางเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองด้วย
