ASTVผู้จัดการรายวัน -สสปน. นั่งไม่ติดเก้าอี้ เหตุน้ำท่วมอยุธยา กระทบการชิงสิทธ์จัดเวิลด์เอ็กซ์โป2020 เตรียมส่งเรื่องชี้แจงบีไออี ด้านททท.ตลาดในประเทศ เตรียมจัดเมกกะแฟมทริปครั้งแรก พาสื่อ-ผู้ประกอบการ เดินสายชมแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ฟื้นท่องเที่ยวหลังน้ำลด ส่วนช่วงนี้ขอผนึกเอกชน จัดแพกเกจทัวร์ช่วยผู้ประสบภัย
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือสสปน. กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพระนครศรอยุธยาครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศไทยในการยื่นประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 แม้บริเวณศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ซึ่งถูกเสนอใช้เป็นพื้นที่จัดงานจะมีน้ำท่วมขังเพียงเล็น้อย แต่ภาพข่าวที่ออกไปว่าจังหวัดอยุธยาน้ำท่วมย่อมมมีผลต่อความเชื่อมั่นของคณะกรรมการผู้จัดงานแน่นอน
“ตอนนี้สสปน. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เก็บข้อมูล เพื่อใช้ชี้แจงต่อ คณะกรรมการมหกรรมโลก หรือบีไออี รับทราบ ซึ่งขณะนี้รายงานแจ้งว่า เส้นทางคมนาคมจากกรุงเทพฯไปถึงพื้นที่จัดงาน ยังเดินทางได้ดี อีกทั้งถ้าประเทศไทยได้สิทธิ์จัดงานก็จะเป็นช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. ซึ่งไม่ใช่ฤดูฝน “
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐและสสปน. ก็ต้องต้องคิดหารือวางแผนป้องกัน เช่นกัน เพื่อวางแผนระบบชลประทาน และการคมนาคมไปยังพื้นที่ ซึ่งกว่าจะถึงปีจัดงานไทยยังพอมีเวลา แต่หากจะเปลี่ยนสถานที่ที่จะใช้ประมูลสิทธิ น่าจะเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยมากกว่า
อย่างไรก็ตาม สสปน. ได้เลื่อนแผนเดินสายโรดโชว์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดึงประชาชนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด คงต้องรอฟื้นฟูสภาพจิตใจของประชนให้กลับสู่ภาวะปกติก่อน ช่วงนี้ทำได้เพียงให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และหาทางให้อุตสาหกรรมไมซ์มีส่วนช่วยเยียวยา
ในเดือนพ.ย.นี้ คณะกรรมการบีไออี จะเดินทางมาเยี่ยมชมบูธเกี่ยวกับเวิลด์ เอ็กซ์โป ของไทยที่งานบีโอไอ แฟร์ สสปน.จะใช้โอกาสนี้ นำเยี่ยมชมสถานที่ที่จะใช้จัดงานอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ บีไออี ได้เห็นภาพและพื้นที่จริง ว่าไม่มีปัญหาเพื่อสร้างความมั่นใจ
นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. เปิดเผยว่า ในวันที่ 18-19 ต.ค.นี้ ได้เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาร่วมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เบื้องต้น คาดว่าจะเป็นในรูปแบบการจับมือกับสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ จัดแพกเกจทัวร์ นำคนไทยเข้าไปยังพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันที่กำลังลำบากอยู่ในขณะนี้ หากเป็นการเดินทางในรูปแบบคอปอเรท ก็จะสอดคล้องกับภาพลักษณ์องค์กรด้านซีเอสอาร์
นอกจากนั้นยังเตรียมจัดกิจกรรมไทย เมกกะ แฟมทริป นับเป็นครั้งแรกสำหรับตลาดในประเทศ ก่อนหน้านี้ ททท. จัดเมกกะแฟมทริปนำผู้ประกอบการและสื่อมวลชนมาจากต่างประเทศเท่านั้น
“เมกกะแฟมทริปครั้งนี้ ททท. จะเชิญตัวแทนสื่อ บริษัทนำเที่ยว และองค์กรใหญ่ จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ กว่า 500 คน ร่วมเดินทางสำรวจสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทุกภูมิภาค ไปสำรวจสินค้าท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค โดยตั้งงบสำหรับทำโครงการนี้รวม 2.5 ล้านบาท กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยในปี 2555 ได้เพิ่มจากปีนี้ 3% หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดปีที่ 101 ล้านคนครั้ง จากปีนี้ที่ตั้งไว้ 91 ล้านคนครั้ง “
นายธวัชชัย กล่าวยอมรับว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยชะลอตัว ถึงสิ้นปี อาจไปเติบโต 5% ตามที่ตั้งไว้ แต่ยังเติบโตอยู่บ้างหากน้ำท่วมไม่ยืดเยื้อถึงเดือน พฤศจิกายน
ล่าสุด มอบหมายให้ทุกสำนักงานททท.ทั่วประเทศ เร่งจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สำหรับกระตุ้นให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ต่อเนื่องถึงปีใหม่ ซึ่งมีวันหยุดยาว ในอีกหลายช่วง นอกจากนั้นยังหารือกับโรงเรียนนานาชาติ ที่ตั้งในประเทศไทย ขอความร่วมมือจัดนักเรียนเข้าค่ายฤดูร้อน (ซัมเมอร์แคมป์ )ภายในประเทศ นำเสนอเดสติเนชั่นภาคตะวันออก เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ขณะนี้หลายโรงเรียนให้การตอบรับแล้ว
นอกจากนั้น ยังร่วมมือกับ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือสทท., สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือสสปน. และสมาพันธ์สมาคมเครือข่ายท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สคท. จัดนำผู้บริหารและพนักงานในองค์กรกว่า 2,500 คน เดินทางไปเที่ยวโดยกิจกรรมเพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่จังหวัดอุทัยธานี และ นครราชสีมา กำหนดเดินทาง 22-23 ต.ค. 54 เชื่อว่าการท่องเที่ยวรูปแบบนี้จะช่วยกระจายรายได้สู่พื้นที่ที่น้ำท่วมได้เป็นอย่างดี
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือสสปน. กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพระนครศรอยุธยาครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศไทยในการยื่นประมูลสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 แม้บริเวณศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ซึ่งถูกเสนอใช้เป็นพื้นที่จัดงานจะมีน้ำท่วมขังเพียงเล็น้อย แต่ภาพข่าวที่ออกไปว่าจังหวัดอยุธยาน้ำท่วมย่อมมมีผลต่อความเชื่อมั่นของคณะกรรมการผู้จัดงานแน่นอน
“ตอนนี้สสปน. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เก็บข้อมูล เพื่อใช้ชี้แจงต่อ คณะกรรมการมหกรรมโลก หรือบีไออี รับทราบ ซึ่งขณะนี้รายงานแจ้งว่า เส้นทางคมนาคมจากกรุงเทพฯไปถึงพื้นที่จัดงาน ยังเดินทางได้ดี อีกทั้งถ้าประเทศไทยได้สิทธิ์จัดงานก็จะเป็นช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย. ซึ่งไม่ใช่ฤดูฝน “
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐและสสปน. ก็ต้องต้องคิดหารือวางแผนป้องกัน เช่นกัน เพื่อวางแผนระบบชลประทาน และการคมนาคมไปยังพื้นที่ ซึ่งกว่าจะถึงปีจัดงานไทยยังพอมีเวลา แต่หากจะเปลี่ยนสถานที่ที่จะใช้ประมูลสิทธิ น่าจะเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยมากกว่า
อย่างไรก็ตาม สสปน. ได้เลื่อนแผนเดินสายโรดโชว์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดึงประชาชนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด คงต้องรอฟื้นฟูสภาพจิตใจของประชนให้กลับสู่ภาวะปกติก่อน ช่วงนี้ทำได้เพียงให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และหาทางให้อุตสาหกรรมไมซ์มีส่วนช่วยเยียวยา
ในเดือนพ.ย.นี้ คณะกรรมการบีไออี จะเดินทางมาเยี่ยมชมบูธเกี่ยวกับเวิลด์ เอ็กซ์โป ของไทยที่งานบีโอไอ แฟร์ สสปน.จะใช้โอกาสนี้ นำเยี่ยมชมสถานที่ที่จะใช้จัดงานอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ บีไออี ได้เห็นภาพและพื้นที่จริง ว่าไม่มีปัญหาเพื่อสร้างความมั่นใจ
นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. เปิดเผยว่า ในวันที่ 18-19 ต.ค.นี้ ได้เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาร่วมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เบื้องต้น คาดว่าจะเป็นในรูปแบบการจับมือกับสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ จัดแพกเกจทัวร์ นำคนไทยเข้าไปยังพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันที่กำลังลำบากอยู่ในขณะนี้ หากเป็นการเดินทางในรูปแบบคอปอเรท ก็จะสอดคล้องกับภาพลักษณ์องค์กรด้านซีเอสอาร์
นอกจากนั้นยังเตรียมจัดกิจกรรมไทย เมกกะ แฟมทริป นับเป็นครั้งแรกสำหรับตลาดในประเทศ ก่อนหน้านี้ ททท. จัดเมกกะแฟมทริปนำผู้ประกอบการและสื่อมวลชนมาจากต่างประเทศเท่านั้น
“เมกกะแฟมทริปครั้งนี้ ททท. จะเชิญตัวแทนสื่อ บริษัทนำเที่ยว และองค์กรใหญ่ จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ กว่า 500 คน ร่วมเดินทางสำรวจสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทุกภูมิภาค ไปสำรวจสินค้าท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค โดยตั้งงบสำหรับทำโครงการนี้รวม 2.5 ล้านบาท กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยในปี 2555 ได้เพิ่มจากปีนี้ 3% หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดปีที่ 101 ล้านคนครั้ง จากปีนี้ที่ตั้งไว้ 91 ล้านคนครั้ง “
นายธวัชชัย กล่าวยอมรับว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยชะลอตัว ถึงสิ้นปี อาจไปเติบโต 5% ตามที่ตั้งไว้ แต่ยังเติบโตอยู่บ้างหากน้ำท่วมไม่ยืดเยื้อถึงเดือน พฤศจิกายน
ล่าสุด มอบหมายให้ทุกสำนักงานททท.ทั่วประเทศ เร่งจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ สำหรับกระตุ้นให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ต่อเนื่องถึงปีใหม่ ซึ่งมีวันหยุดยาว ในอีกหลายช่วง นอกจากนั้นยังหารือกับโรงเรียนนานาชาติ ที่ตั้งในประเทศไทย ขอความร่วมมือจัดนักเรียนเข้าค่ายฤดูร้อน (ซัมเมอร์แคมป์ )ภายในประเทศ นำเสนอเดสติเนชั่นภาคตะวันออก เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ขณะนี้หลายโรงเรียนให้การตอบรับแล้ว
นอกจากนั้น ยังร่วมมือกับ บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือสทท., สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือสสปน. และสมาพันธ์สมาคมเครือข่ายท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สคท. จัดนำผู้บริหารและพนักงานในองค์กรกว่า 2,500 คน เดินทางไปเที่ยวโดยกิจกรรมเพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่จังหวัดอุทัยธานี และ นครราชสีมา กำหนดเดินทาง 22-23 ต.ค. 54 เชื่อว่าการท่องเที่ยวรูปแบบนี้จะช่วยกระจายรายได้สู่พื้นที่ที่น้ำท่วมได้เป็นอย่างดี