ASTVผู้จัดการรายวัน - เสื้อแดงลาม! ถึงขั้นต้านย้ายตำรวจ ล่าสุดค้านย้าย “เด็กเทือก” "สัณฐาน ชยนนท์" คนใกล้ชิด "สุเทพ" กลับภาค 8 “เหลิม”โต้ทันควัน ไม่มีเสียเงิน วิ่งเต้นขอตำแหน่ง ด้าน“เพื่อไทย”เอาแน่! แก้พ.ร.บ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ปี 51 อ้างปลดล็อกการตัดตอนอำนาจนายกฯส่วน ปชป.ฝาก“ปู”เตือนลูกพรรคทำทหารเสียขวัญ “จรัล ดิษฐาอภิชัย” มอบตัววันนี้
วานนี้ (6 ต.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีสำหรับเรื่องที่มีกระแสข่าวกลุ่มคนเสื้อแดงไม่พอใจการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับไปประจำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ภาคใต้ตอนบน)ว่า ขอยืนยันว่ายังไม่ได้มีการแต่งตั้ง แต่จะมีการแต่งตั้งในวันที่ 18 ต.ค.ในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ลงไปถึงผู้บัญชาการ และยืนยันว่า การแต่งตั้งไม่มีการล้วงลูก ไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย หากตนไม่เอาก็จบ แต่การแต่งตั้งต้องเป็นไปตามความเหมาะสม ไม่มีโกรธใคร แม้แต่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังรักเลย
“วันที่ 18 ต.ค.นี้ จะมีการแต่งตั้งนายตำรวจ ส่วนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั้น เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในการแต่งตั้ง พร้อมย้ำว่า ไม่มีการวิ่งเต้นขอตำแหน่งอย่างแน่นนอน โดยจะให้พิจารณาตามความเหมาะสม”
**ทีมกม.พท.ยังไม่แจ้งนายก
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามที่จะผลักดันให้มีการแก้ไข พรบ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551โดยอ้างว่า ที่ผ่านมาทำให้เกิดการลักลั่นในการบริหารราชการแผ่นดิน
"พรบ.ฉบับดังกล่าว ตราขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ว่ามีจุดมุ่งหมายอะไร แต่ไปล็อคอำนาจในการจัดสรรตำแหน่งต่าง ๆ ของกระทรวงไว้ จนเป็นการผูกขาด ถือเป็นการตัดตอนอำนาจทางการบริหาร ของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องสามารถสั่งการได้ในทุกกระทรวง"
โดยให้อำนาจกับนายกรัฐมนตรี รวมถึงเพิ่มอำนาจให้กับ รมว.กลาโหม ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้หารือถึงการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวว่า ควรมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปดูรายละเอียด โดยเฉพาะช่องทางในการแก้ไข
สำหรับจุดประสงค์ในการแก้ไขนั้น เพราะต้องการให้การโยกย้ายต่าง ๆ ไม่ผูกขาดอยู่ที่อำนาจของกระทรวงนั้น ๆ รวมทั้งฝ่ายบริหารหรือนายกรัฐมนตรี จะต้องมีสิทธิในการขอเหตุผลในการปรับย้าย และแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ขณะที่ส.ส.เพื่อไทยกลุ่มนี้ไม่อยากให้มองว่า จะเป็นการไปก้าวล่วงอำนาจของทหาร
นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมกฎหมายพรรค กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการพูดคุยกันเองในกลุ่ม ส.ส. เท่านั้น ยังไม่ได้แจ้งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทราบ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวจะทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีบทบาทและความรับผิดชอบมากกว่านี้ ขณะเดียวกัน ตนเชื่อว่า ทหาร จะไม่มีการเคลื่อนไหวและนำไปสู่การปฏิวัติ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นคนที่รักความเป็นธรรม และเชื่อว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการทหารบก อย่างแน่นอน
**“เหลิม” โบ้ยถาม “ยุทธศักดิ์”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแก้ พ.ร.บ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะไม่ได้มีหน้าที่ดูทหาร ดูแลเฉพาะตำรวจ ถ้าแสดงความคิดเห็น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม อาจจะไม่พอใจ เพราะเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหมโดยตรง และไม่ทราบว่าจะเกิดความขัดแย้งระหว่างกองทัพกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ด้วย เนื่องจากส่วนตัวแสดงความเห็นได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับงานในหน้าที่ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า อยากขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ในการช่วยเหลือปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ยาเสพติดลดลงมากจากความช่วยเหลือของกองทัพ เพราะลำพังเพียงกำลังตำรวจและ ป.ป.ส.คงไม่เพียงพอ
**ปัดตอบ600ล้านฟื้นลูกเสือชาวบ้าน
ส่วนกรณีแนวคิดการรื้อฟื้นลูกเสือชาวบ้าน โดยใช้งบประมาณ 600 ล้านบาทนั้น เพื่อสร้างความปรองดองให้กับประเทศนั้น ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธที่จะตอบเช่นกัน โดยให้ไปสอบถาม พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวด้วยว่า หากสิ่งใดที่เป็นความสามัคคีและปรองดองก็ดีทั้งนั้น แต่วิธีการอยู่ที่ผู้รับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การรื้อฟื้นลูเสือชาวบ้านจะเป็นเหมือนการสนับสนุนแกนนำเสื้อแดงในต่างจังหวัดหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่า พล.ต.อ.โกวิทคิดอย่างไร แต่ในส่วนของตำรวจจะเป็นส่วนหนึ่งของการปรองดอง เพราะตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชน และความยุติธรรมและความปรองดองก็เกิดขึ้น แต่ถ้ารื้อฟื้นลูกเสือชาวบ้านก็จะทำงานร่วมกันกับเป็นตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
**ฝาก“ปู”เตือนลูกพรรคทำทหารเสียขวัญ
นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องนอกเหนือความคาดหมาย เพราะรัฐบาลชุดนี้รวมถึงคนเสื้อแดงที่เป็นเนื้อเดียวกันมีความพยายามที่จะแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมาอย่างต่อเนื่อง แต่สถาบันทหารเป็นหนึ่งในไม่กี่องค์กรที่รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงโยกย้ายข้าราชการได้ตามอำเภอใจก็เพราะมีพ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดกฎเกณฑ์อยู่ โดยวัตถุประสงค์ของการออกพ.ร.บ.ฉบับนี้เชื่อว่าเป็นเพราะมีรัฐบาลบางยุคบางสมัยได้เข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารอย่างมากโดยการนำเครือญาติและกลุ่มเพื่อนเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ มากมายทำให้สถาบันทหารมีการวิ่งเต้นตำแหน่งอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน จะเห็นได้ว่าภารกิจหลักของทหารคือการรักษาความมั่นคง ปกป้องอธิปไตยของประเทศและดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสถาบันทหารก็ทำหน้าที่ได้ดีมาโดยตลอดและการเมืองก็ไม่ควรไปดึงทหารเข้ามาสู่ความขัดแย้ง
ตามพ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดให้รมว.กลาโหม เป็นหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งตามพ.ร.บ.อยู่แล้วย่อมสามารถเข้าไปพูดคุยและร่วมพิจารณากับผู้บัญชาการเหล่าทัพในการแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมได้ ตนอยากขอเตือนสติพรรคเพื่อไทยในฐานะรัฐบาลว่าภารกิจหลักของรัฐบาลตอนนี้คือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและเร่งช่วยเหลือผู้ประสบซึ่งทหารก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเหลือรัฐบาลเป็นอย่างดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ฯ ควรออกมาปรามบรรดาลูกหาบว่าอย่าออกมากวนน้ำให้ขุ่นจะทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
** "จรัล ดิษฐาอภิชัย"มอบตัววันนี้สิบโมง
วันเดียวกัน นายคารม พลทะกลาง ทนายความ นปช. เปิดเผยกัถึงกรณีการติดต่อขอเข้ามอบตัวของนายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำ นปช. ว่าในวันที่ 7 ต.ค. นายจรัล จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ สน.ลุมพินี ในเวลา 10.00 น.
วานนี้ (6 ต.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีสำหรับเรื่องที่มีกระแสข่าวกลุ่มคนเสื้อแดงไม่พอใจการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.กมค. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับไปประจำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ภาคใต้ตอนบน)ว่า ขอยืนยันว่ายังไม่ได้มีการแต่งตั้ง แต่จะมีการแต่งตั้งในวันที่ 18 ต.ค.ในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ลงไปถึงผู้บัญชาการ และยืนยันว่า การแต่งตั้งไม่มีการล้วงลูก ไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย หากตนไม่เอาก็จบ แต่การแต่งตั้งต้องเป็นไปตามความเหมาะสม ไม่มีโกรธใคร แม้แต่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังรักเลย
“วันที่ 18 ต.ค.นี้ จะมีการแต่งตั้งนายตำรวจ ส่วนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั้น เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในการแต่งตั้ง พร้อมย้ำว่า ไม่มีการวิ่งเต้นขอตำแหน่งอย่างแน่นนอน โดยจะให้พิจารณาตามความเหมาะสม”
**ทีมกม.พท.ยังไม่แจ้งนายก
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามที่จะผลักดันให้มีการแก้ไข พรบ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551โดยอ้างว่า ที่ผ่านมาทำให้เกิดการลักลั่นในการบริหารราชการแผ่นดิน
"พรบ.ฉบับดังกล่าว ตราขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ว่ามีจุดมุ่งหมายอะไร แต่ไปล็อคอำนาจในการจัดสรรตำแหน่งต่าง ๆ ของกระทรวงไว้ จนเป็นการผูกขาด ถือเป็นการตัดตอนอำนาจทางการบริหาร ของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องสามารถสั่งการได้ในทุกกระทรวง"
โดยให้อำนาจกับนายกรัฐมนตรี รวมถึงเพิ่มอำนาจให้กับ รมว.กลาโหม ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้หารือถึงการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวว่า ควรมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปดูรายละเอียด โดยเฉพาะช่องทางในการแก้ไข
สำหรับจุดประสงค์ในการแก้ไขนั้น เพราะต้องการให้การโยกย้ายต่าง ๆ ไม่ผูกขาดอยู่ที่อำนาจของกระทรวงนั้น ๆ รวมทั้งฝ่ายบริหารหรือนายกรัฐมนตรี จะต้องมีสิทธิในการขอเหตุผลในการปรับย้าย และแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ขณะที่ส.ส.เพื่อไทยกลุ่มนี้ไม่อยากให้มองว่า จะเป็นการไปก้าวล่วงอำนาจของทหาร
นายพีรพันธ์ พาลุสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะทีมกฎหมายพรรค กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการพูดคุยกันเองในกลุ่ม ส.ส. เท่านั้น ยังไม่ได้แจ้งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทราบ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวจะทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีบทบาทและความรับผิดชอบมากกว่านี้ ขณะเดียวกัน ตนเชื่อว่า ทหาร จะไม่มีการเคลื่อนไหวและนำไปสู่การปฏิวัติ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นคนที่รักความเป็นธรรม และเชื่อว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการทหารบก อย่างแน่นอน
**“เหลิม” โบ้ยถาม “ยุทธศักดิ์”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแก้ พ.ร.บ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะไม่ได้มีหน้าที่ดูทหาร ดูแลเฉพาะตำรวจ ถ้าแสดงความคิดเห็น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม อาจจะไม่พอใจ เพราะเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหมโดยตรง และไม่ทราบว่าจะเกิดความขัดแย้งระหว่างกองทัพกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ด้วย เนื่องจากส่วนตัวแสดงความเห็นได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับงานในหน้าที่ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า อยากขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ในการช่วยเหลือปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ยาเสพติดลดลงมากจากความช่วยเหลือของกองทัพ เพราะลำพังเพียงกำลังตำรวจและ ป.ป.ส.คงไม่เพียงพอ
**ปัดตอบ600ล้านฟื้นลูกเสือชาวบ้าน
ส่วนกรณีแนวคิดการรื้อฟื้นลูกเสือชาวบ้าน โดยใช้งบประมาณ 600 ล้านบาทนั้น เพื่อสร้างความปรองดองให้กับประเทศนั้น ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธที่จะตอบเช่นกัน โดยให้ไปสอบถาม พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวด้วยว่า หากสิ่งใดที่เป็นความสามัคคีและปรองดองก็ดีทั้งนั้น แต่วิธีการอยู่ที่ผู้รับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การรื้อฟื้นลูเสือชาวบ้านจะเป็นเหมือนการสนับสนุนแกนนำเสื้อแดงในต่างจังหวัดหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่า พล.ต.อ.โกวิทคิดอย่างไร แต่ในส่วนของตำรวจจะเป็นส่วนหนึ่งของการปรองดอง เพราะตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชน และความยุติธรรมและความปรองดองก็เกิดขึ้น แต่ถ้ารื้อฟื้นลูกเสือชาวบ้านก็จะทำงานร่วมกันกับเป็นตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
**ฝาก“ปู”เตือนลูกพรรคทำทหารเสียขวัญ
นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องนอกเหนือความคาดหมาย เพราะรัฐบาลชุดนี้รวมถึงคนเสื้อแดงที่เป็นเนื้อเดียวกันมีความพยายามที่จะแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมาอย่างต่อเนื่อง แต่สถาบันทหารเป็นหนึ่งในไม่กี่องค์กรที่รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงโยกย้ายข้าราชการได้ตามอำเภอใจก็เพราะมีพ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดกฎเกณฑ์อยู่ โดยวัตถุประสงค์ของการออกพ.ร.บ.ฉบับนี้เชื่อว่าเป็นเพราะมีรัฐบาลบางยุคบางสมัยได้เข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารอย่างมากโดยการนำเครือญาติและกลุ่มเพื่อนเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ มากมายทำให้สถาบันทหารมีการวิ่งเต้นตำแหน่งอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน จะเห็นได้ว่าภารกิจหลักของทหารคือการรักษาความมั่นคง ปกป้องอธิปไตยของประเทศและดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสถาบันทหารก็ทำหน้าที่ได้ดีมาโดยตลอดและการเมืองก็ไม่ควรไปดึงทหารเข้ามาสู่ความขัดแย้ง
ตามพ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดให้รมว.กลาโหม เป็นหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งตามพ.ร.บ.อยู่แล้วย่อมสามารถเข้าไปพูดคุยและร่วมพิจารณากับผู้บัญชาการเหล่าทัพในการแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมได้ ตนอยากขอเตือนสติพรรคเพื่อไทยในฐานะรัฐบาลว่าภารกิจหลักของรัฐบาลตอนนี้คือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและเร่งช่วยเหลือผู้ประสบซึ่งทหารก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเหลือรัฐบาลเป็นอย่างดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ฯ ควรออกมาปรามบรรดาลูกหาบว่าอย่าออกมากวนน้ำให้ขุ่นจะทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่
** "จรัล ดิษฐาอภิชัย"มอบตัววันนี้สิบโมง
วันเดียวกัน นายคารม พลทะกลาง ทนายความ นปช. เปิดเผยกัถึงกรณีการติดต่อขอเข้ามอบตัวของนายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำ นปช. ว่าในวันที่ 7 ต.ค. นายจรัล จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ สน.ลุมพินี ในเวลา 10.00 น.