xs
xsm
sm
md
lg

เรายังโชคดีที่ ‘ปู’ เป็นนายกฯ!

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

วิกฤตน้ำท่วมครึ่งค่อนประเทศยามนี้นับว่าใหญ่หลวง ชาวบ้านหลายล้านยังต้องจมอยู่ในทะเลทุกข์ ทรัพย์สิน ไร่นาเสียหายแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องใช้เวลาและเงินจัดหาใหม่ ยังไม่รู้ว่าน้ำจะลด และกลับเข้าบ้านได้เมื่อไหร่

หนักหนาสาหัสกว่าทุกครั้งในรอบหลายสิบปี แม้แต่กรุงเทพฯ เองก็ตาม รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ยังลุ้นหนักอยู่ว่าจะรอดจากน้ำท่วมหรือไม่

นายกฯ ปู โคลนนิ่ง ต้องวิ่งวุ่น แทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินไปดูสถานการณ์ด้วยตัวเอง สั่งการเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือชาวบ้านเต็มที่

เหน็ดเหนื่อยล้าแค่ไหนดูได้ถึงความพลั้งพลาดในการใช้คำพูดจา จนโดนแซวว่าเธอ “เอ๋อ” เฟอะฟะ เพราะขาดความรู้พื้นฐาน ประสบการณ์ชีวิต

จาก “เรือดำน้ำ” เป็น “เรือดันน้ำ” โฆษกต้องวุ่นอธิบายแจกแจงความผิดพลาด! ความฮือฮาไม่ทันจาง คราวนี้โชว์ความด้อยเดียงสา บอกให้ชาวบ้านปลูก “หญ้าแพรก” ชะลอการไหลของน้ำ แทนที่จะเป็น “หญ้าแฝก”

ทำให้หน้าแหก แหลกเหมือนหญ้าแพรกโดนช้างสารเหยียบเมื่อชนกัน! ยังไม่รู้ว่าคนเขียนสคริปต์อ่านออกอากาศผิด หรือ “เธอ” พลาดเอง!

วันถัดมาเมื่อไปดูสภาพการซ่อมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี “เธอ” ซ้ำรอยเดิม พูดฉอดๆ รัวเร็วเหมือนข้าวตอกแตก บอกว่ากำลังเร่ง

ระดมสรรพกำลังเอาถุงหินหรือ gabions ถมทะเล! นั่นเป็นเพราะพูดเร็วเกินไปโดยไม่หยุดคิด

สถานการณ์คงเป็นเช่นนี้ตราบใดที่ “เธอ” ยังเป็นนายกฯ และพี่เหลี่ยมร้ายยังหานอมินีตัวแทนเชิดคนใหม่ไม่ได้! และเหลี่ยมร้ายคงเป็นคนที่รู้ถึงศักยภาพ ความรู้ ความสามารถของน้องสาวตัวเองดีกว่าใคร

เป็นคนดูแล เลี้ยงมาด้วยตัวเอง เป็นน้องรักสุดเลิฟ แม้จะวีนก็ไม่ถือสา!

การพลาดแบบเหลือเชื่อซ้ำซากทำให้ชาวบ้านต้องประเมิน “เธอ” ใหม่ว่าเป็นนักบริหาร มีความสามารถ จัดการบริษัทระดับเงินทุนกิจการหลายหมื่นล้านบาทอย่างที่เครือข่ายพรรคเหลี่ยมร้ายพยายามสร้างภาพให้เธอหรือไม่

หรือเป็นการดัน “เธอ” ให้เป็นในสิ่งที่ “เธอ” ไม่เคยเป็น หรือทำได้

ถ้ามองโลกในแง่ร้าย คงเข้าใจว่าเหลี่ยมร้ายให้ “เธอ” มาเป็นนายกฯ นั้นเพราะอยากให้เธอพ้นจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเอสซีแอสเซท ซึ่งทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้าน คอนโดฯ ขายให้คนชั้นกลาง

ถ้าปล่อยให้บริหารงานต่อไป มีความเสี่ยง บริษัทอาจเสียหายร้ายแรง! ถ้าเป็นนายกฯ บ้านเมืองวอดวายไม่เป็นไร ตราบใดที่บริษัทครอบครัวรอด ฮ่า!

การที่ให้น้องสาวมาเป็นนายกฯ นั้น ใช่ว่าเหลี่ยมร้ายอยากให้น้องรักได้ดี มีชื่อเสียงก็หาไม่ แต่ละวัน ถ้าไม่เสแสร้ง “เธอ” คงไม่มีความสุข แต่ละนาทีเป็นความทรมาน ท้าทายสติปัญญา ความสามารถ ถูกเฝ้ามองแทบทุกย่างก้าว

ชีวิตที่เคยลั้ลลา ไม่คิดอะไรมาก ต้องมาเป็นผู้นำประเทศ โดดเด่นกว่าใคร เพราะกว่า 150 ประเทศ สมาชิกสหประชาชาติยังไม่มีนายกฯ แบบนี้! เป็นนายกฯ สวยที่สุด ทางลัดสั้นที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุดในการได้ตำแหน่งผู้นำ

ต่อไปอาจได้รางวัลผู้นำประเทศแต่งกายยอดเยี่ยมที่สุด! ใครจะรู้?

ฉะนั้น ไม่ว่า “เธอ” จะออกอาการเอ๋อ เฟอะฟะ หรือเสร่ออย่างไร ใครที่ไม่ปลื้มกับบทบาทของเธอต้องทำใจ เปลี่ยนมุมมองเถอะ! อย่าบอกว่า “อาย” เหลือเกินที่มีผู้นำแบบนี้ ก็เหลี่ยมร้ายยังไม่อายว่าวงศ์ตระกูลจะเสียหาย

ไม่ต้องมาเถียง “ก็เขาเป็นคนหนีคุก ไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้วนี่” และยังถูกมองว่าเป็นโมเดลต้นแบบของการคอร์รัปชันแบบมีเชิง ยกระดับให้เป็น “โกงทั้งโคตร” เต็มบ้องบูรณาการไร้เทียมทาน เป็นเจ้าของคอกผีโม่แป้งอีกด้วย

มองโลกในแง่ดี ต้องคิดปลงว่าความเป็นมาในชีวิตการเมืองของเธอยังมีตราบาปน้อย รอยด่างจางกว่าพวกนักการเมืองสารเลวที่ชูคอเป็นคางคก กิ้งก่าได้ทองแวดล้อมเธอ แย่งกันเลียแข้งเลียขาในระยะเผาขน จนเธอหมดทางหลบ

เหอะน่า! เรื่องซุกหุ้นนั้นกระบวนการยุติธรรมก็ “เคลียร์” ให้เธอแล้ว! ให้เธอเจ๊าะแจ๊ะ ไร้เดียงสา หน้าตาสะสวย ยิ้มแย้ม เป็นเจ้าแม่แบรนด์เนมเถอะ

ดีกว่าต้องทนเห็นหน้าดำๆ ทุรชนคนหนอกคอหนา หน้าก้อ ตาโปน!

คิดเสียว่ายังโชคดีที่ “เธอ” ไม่เป็นตัวนางมารร้าย เมื่อเทียบกับตัวจริงอยู่หลังฉาก! ถ้าเราทำตัวเป็นกบเลือกนาย เหลี่ยมร้ายเกิดหมั่นไส้หาว่าเราเรื่องมาก เอาตัวแสบ ขี้โกง หน้าด้านหนา มาเป็นหุ่นเชิดแทนน้องปู แล้วเราจะรู้สึก

เราก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เรอะ ว่าเหลี่ยมร้ายไม่มีทางหาคนดีมาเป็นตัวแทนได้ มีแต่พวกแหกนรกมาเกิด นักขายชาติ ทรยศบ้านเมือง จอมกังฉินทั้งนั้น

ถามหน่อยเหอะ! ระหว่างเหลี่ยมร้าย และน้องสาว ใครน่ามองกว่า? อย่ามัวกังวลเรื่องศักดิ์ศรี เกียรติภูมิรัฐบาล บ้านนี้ เมืองนี้เป็นรัฐล้มเหลว กระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ขั้นกลางเป็นตัวช่วยอาชญากรไปนานแล้ว

ตำรวจ อัยการตัวเอ้ แถ ตะแบงแต่ละคำ เห็นลึกถึงลิ้นไก่! กฎหมายเป็นเพียงแค่ตัวหนังสือ! ดังนั้น เราไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากินเอาเงินภาษีไปให้พวกนี้โกงกิน ยิ่งถ้าเกิดวันสิ้นโลกจริงๆ เราจะไม่รู้สึกเสียดายชีวิตอีกด้วยนิ! อิอิอิ!!!
เมื่อหญ้าแฝก กลายเป็นหญ้าแพรก นารีตกม้าตายกลางทำเนียบ
เมื่อหญ้าแฝก กลายเป็นหญ้าแพรก นารีตกม้าตายกลางทำเนียบ
ถ้าไม่นับ การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่คนไทยได้ฟังนายกรัฐมนตรี พูด หรือ “ ท่องสคริปต์” ที่ยาวเกินกว่า 3 นาที คำพูดคำจาของคนเรานั้น สะท้อนตัวตนที่เป็นจริงของผุ้พูดได้อย่างตรงไปตรงมา ยิ่งพูดนานเท่าไร ก็ยิ่งทำให้รู้จักผู้พูดมากขึ้นเท่านั้น เวลา30 นาทีของรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ทำให้ ความพยายามสร้างภาพว่า ยิ่งลักษณ์ เป็นนักบริหารจัดการมืออาชีพ ผ่านกระบวนการบริหารจัดการสื่อ ของพรรคเพื่อไทย ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า เพราะระหว่าง “ หญ้าแพรก” กับ “ หญ้าแฝก” เธอยังไม่รู้เลยว่า เป็นหญ้าคนละชนิดกัน แล้วจะไปบริหารจัดการอะไรได้ เหมะสมแล้วที่ สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแหงประเทศไทย มอบรางวัล “ ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ประจำปี 2553-2554 ” ให้
กำลังโหลดความคิดเห็น