xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กสองแควปิดปาก ห้ามถาม“โกงบางระกำ” ชาวบ้านแฉมีมานานแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิษณุโลก - ผู้ว่าฯพิษณุโลก-นายอำเภอบางระกำ ปิดปากเงียบ ห้ามถาม "หัวคิวเงินชดเชยน้ำท่วม"แต่ถ้าถามถึงพายุลูกใหม่กลับจ้อได้ไม่หยุด ปลัดจังหวัดเผยเพิ่งสอบชาวบ้านได้ 2 ปากยอมรับเจอทุจริต แต่ไม่ขอพูด ขณะที่ชาวบ้านตั้งวงวิจารณ์แซด แจกชดเชย 2 ไร่ทั่วบางระกำมีมานานแล้ว แต่เที่ยวนี้เงินมาเร็วเพราะ “บางระกำโมเดล” แถม ผญบ.ขอมากเกินไป เรื่องถึงแดง

รายงานข่าวจาก จ.พิษณุโลกแจ้งว่า ระหว่างที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน และนายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.เพื่อไทย พิษณุโลก พร้อมนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และนายธงชัย ทุ่งโพธิ์แดง นายอำเภอบางระกำ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาที่บริเวณท่าข้าวกนกศิลป์ หมู่ที่ 3 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

ผู้สื่อข่าวหลายคนพยายามตั้งคำถามกับผู้เกี่ยวข้องโดยตรง คือ นายอำเภอบางระกำ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก แต่ก็ไม่ได้รับการชี้แจงใดๆ โดยนายอำเภอบางระกำบอกกับสื่อว่า เรื่องนี้ไม่ขอพูด เพราะตนกำลังจะย้ายไปเป็นนายอำเภอทางภาคอีสาน เนื่องจากนายอำเภอบางระกำต้องปรับซีใหม่ ใช้ข้าราชการซี 9 เป็นนายอำเภอ ตนยังไม่ถึง

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เมื่อผู้สื่อข่าวทีวีไปถามก็อารมณ์ไม่ดี ไม่ขอพูด “ข่าวเงินหัวคิวน้ำท่วม” แต่ถ้าถามสถานการณ์น้ำท่วมก็พอให้ข่าวได้ โดยชี้แจงทันทีถึงพายุที่ก่อตัวประเทศเวียดนามว่า ระดับน้ำในแม่น้ำน่านลดลง 10 เซนติเมตร ส่วนการก่อตัวของพายุเนสาด และพายุนาลแก ที่คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยนั้น ขณะนี้จังหวัดพิษณุโลกได้มีการประสานกับเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน พร่องน้ำออกจากเขื่อนแล้ว เชื่อว่าอิทธิพลของพายุทั้ง 2 ลูก จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเหมือนพายุ “นกเต็น” มั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์แม่น้ำน่านวันต่อวัน โดยเฉพาะพายุไต้ฝุ่นเนสาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาแม่ยกของผู้ว่าฯ ที่ทำงานและตามใกล้ชิดกับผู้ว่าฯ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า ดร.ปรีชาคนนี้เป็นคนติดดิน แต่กลัวว่าปีนี้จะถูกย้าย เพราะมีข่าวว่ามีคนมาตรวจสอบงบฉุกเฉินน้ำท่วม ซึ่งถูกนำไปจ่ายเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง-กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ สูงถึง 33 ล้านบาท

ด้านนายวัฒนะ กันนะพันธุ์ ปลัดจังหวัดพิษณุโลก ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเรียกเก็บเงินค่าชดเชยน้ำท่วมจากเกษตรกรพื้นที่ อ.บางระกำ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนว่า หลังผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาเพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรีดรับหัวคิดเงินชดเชยน้ำท่วมนาข้าว ไร่ละ 2,222 บาท ผู้นำท้องถิ่นเรียกเก็บเงินจากชาวบ้านรายละ 2 ไร่ หรือเป็นเงินตั้งแต่กว่า 4,000-30,000 บาทนั้น ขณะนี้ทางคณะกรรมการฯ กำลังเร่งสอบสวนผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องสอบสวนทั้งสองฝ่ายเพื่อความเป็นธรรม

เบื้องต้นได้สอบปากคำชาวบ้านที่มีรายชื่อตามหนังสือร้องเรียนที่ยื่นตรงถึงผู้ว่าราชการการจังหวัดพิษณุโลก ผ่านเข้ามาทางศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดพิษณุโลก มากกว่า 10 ราย แต่เพิ่งสอบปากคำราษฎรที่เดือดร้อนได้เพียง 2 ปาก ก็ทราบว่าได้ทางผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและ อาจมี อบต.บางคนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินดังกล่าวจากชาวบ้าน แต่กระบวนการยังไม่จบ คณะกรรมการไม่ได้ฟังความข้างเดียวหลังจากสอบปากคำชาวบ้านแล้ว จะเรียกทางผู้นำท้องถิ่นที่ถูกพาดพิงถูกกล่าวหามาสอบปากคำด้วย เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุ และพฤติกรรมการกระทำผิดว่าได้กระทำการตามที่ร้องเรียนจริงหรือไม่

นายวัฒนะ กล่าวต่อว่า คงต้องขอเวลาอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์จึงจะเริ่มทราบข้อมูลที่แท้จริง และรายงานผลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกทราบเพื่อดำเนินการต่อไป ตอนนี้คงให้สัมภาษณ์อะไรไม่ได้ ต้องให้สื่อมวลชนไปขอข้อมูลจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกอีกครั้งหลังจากผลการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ชาวบางระกำทราบข่าวคลิปเสียงโกงเงินชดเชยน้ำท่วมบางระกำจากสื่อหลายแขนงกรณีข่าวการกินหัวคิวเงินชดเชย ต่างตั้งวงวิพากษ์กันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้วนับแต่รัฐบาลสอนให้กินเงินเพลี้ย เงินส่วนต่าง (ประกันราคาข้าว) หลายครั้งในแต่ละปี เพียงแต่คนในหมู่บ้านสมยอม-สมประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่บังเอิญปีนี้เงินมาเร็วเพราะบางระกำโมเดล ทำให้ผู้ใหญ่บ้านขอมากเกินไปคือ ขอสดๆ เป็นเงิน 4,400 บาท ทำให้คนบางระกำพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 2 ไร่ โกงยกหมู่บ้าน.
กำลังโหลดความคิดเห็น