ASTVผู้จัดการรายวัน – น้ำท่วมซัดโฆษณาไตรมาส4สะดุด ยาวไปถึงปีหน้า “ช่อง3” เบรกปรับขึ้นโฆษณา ของดูสถานการณ์เศรษฐกิจอีกครั้ง ยั่งมั่นใจถึงสิ้นปีมีรายได้เติบดต 12-13% ตามเป้า เชื่อปี55 โฆษณาเติบโตลดลง มองสร้างโอกาสใหม่เตรียมลงทุนลุยศึกทีวีดาวเทียม
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า ภาพรวมตัวเลขรายได้โฆษณาของช่อง3ในช่วงปลายปีนี้ เชื่อว่ายังไปได้ค่อนข้างดี จากผลการเติบ
โตต่อเนื่องจากทุกไตรมาสที่ผ่านมา มั่นใจว่า ทั้งปีนี้ ทางช่อง3 จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 11-12% ในอัตราเดียวกันกับอุตสาหกรรมโฆษณารวม ที่คาดว่าทั้งปีนี้จะเติบโตได้ 11-12% จากช่วง6เดือนแรก มีการเติบโต15% โดยขณะนี้ยังไม่มีแผนทบทวนเป้าหมายรายได้ในช่วงไตรมาส 4 ถึงแม้จะมีปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้น เนื่องจากเอเยนซีได้มีการจองช่วงเวลาซื้อโฆษณาไปตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมรายได้โฆษณาในเดือนต.ค.นี้ยังแข็งแรงอยู่ และต่อเนื่องไปจนถึงช่วง2 เดือนสุดท้ายในปีนี้
สำหรับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างหนักในทุกภูมิภาคของประเทศไทยในช่วงนี้ มองว่าอาจจะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมโฆษณาในไตรมาส4 ปีนี้บ้าง โดยเจ้าของสินค้าอุปโภคบริโภค อาจมีการทบทวนแผนการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อออกไปก่อนเพื่อรักษากำไร หลังจากประเมินสถานการณ์ยอดขายสินค้าของตัวเองว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ เนื่องจากการชะลอกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งนี้หากในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ไม่มีตัวแปรด้านลบอื่นๆเข้ามากระทบ คาดว่าในสิ้นปีนี้จะได้เห็นอุตสาหกรรมโฆษณามีอัตราการเติบโต 2หลัก ราว 11-12% จาก5.5-6 หมื่นล้านบาท
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนเดิมที่จะมีการปรับราคาโฆษณาขึ้นเฉลี่ย 10% ในบางรายการช่วงต้นปี 2555 นั้น ขณะนี้ได้มีการทบทวนแผนนี้ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้นอกจากปัญหาน้ำท่วมแล้ว ยังมีเรื่องของ
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่กำลังเกิดปัญหา และหลายบริษัทที่โฆษณาสินค้าในไทยก็เป็นบริษัทข้ามชาติ ซึ่งหากบริษัทแม่กำลังประสบปัญหาอาจจะกดดันให้บริษัทลูกในไทยทบทวนการใช้งบโฆษณาได้ ดังนั้นการจะปรับราคาโฆษณาขึ้นในปีหน้าจึงต้องพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศก่อน รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าด้วย โดยมองว่าในภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณารวมปีหน้าเชื่อว่าจะมีการเติบดตลดลง จากผลกระทบเหล่านี้แน่
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทางช่อง 3 ได้มีการปรับค่าโฆษณาในช่วงรายการข่าวเพิ่มขึ้นเป็น2แสนบาทต่อนาที จากเดิมอยู่ที่ 1.75 แสนบาทต่อนาที โดยรายการข่าว 3 มิติอยู่ที่ 2.6-2.9 แสนบาทต่อนาที และปรับราคาโฆษณาช่วงละครก่อนข่าวไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงช่วงโฆษณาละครหลังข่าวอยู่ที่ 4.8 แสนบาทต่อนาที จากราคาเดิม 4.5 แสนบาทต่อนาที ไปเมื่อต้นปีเช่นกัน ซึ่งการปรับค่าโฆษณามาจากปัจจัยความต้องการของคนดู และความต้องการของโฆษณา
ทั้งนี้ในปีหน้า ทางช่อง3เตรียมศึกษาแผนลงทุนทำธุรกิจทีวีดาวเทียมอย่างจริงจัง เพราะเห็นโอกาส จากความชัดเจนของกสทช.ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อต่อยอดธุรกิจให้กับสถานีฯ จากปัจจุบันช่อง 3 มีเนื้อหา รูปแบบรายการที่มีเป็นจำนวนมาก
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า ภาพรวมตัวเลขรายได้โฆษณาของช่อง3ในช่วงปลายปีนี้ เชื่อว่ายังไปได้ค่อนข้างดี จากผลการเติบ
โตต่อเนื่องจากทุกไตรมาสที่ผ่านมา มั่นใจว่า ทั้งปีนี้ ทางช่อง3 จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 11-12% ในอัตราเดียวกันกับอุตสาหกรรมโฆษณารวม ที่คาดว่าทั้งปีนี้จะเติบโตได้ 11-12% จากช่วง6เดือนแรก มีการเติบโต15% โดยขณะนี้ยังไม่มีแผนทบทวนเป้าหมายรายได้ในช่วงไตรมาส 4 ถึงแม้จะมีปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้น เนื่องจากเอเยนซีได้มีการจองช่วงเวลาซื้อโฆษณาไปตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมรายได้โฆษณาในเดือนต.ค.นี้ยังแข็งแรงอยู่ และต่อเนื่องไปจนถึงช่วง2 เดือนสุดท้ายในปีนี้
สำหรับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างหนักในทุกภูมิภาคของประเทศไทยในช่วงนี้ มองว่าอาจจะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมโฆษณาในไตรมาส4 ปีนี้บ้าง โดยเจ้าของสินค้าอุปโภคบริโภค อาจมีการทบทวนแผนการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อออกไปก่อนเพื่อรักษากำไร หลังจากประเมินสถานการณ์ยอดขายสินค้าของตัวเองว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ เนื่องจากการชะลอกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งนี้หากในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ไม่มีตัวแปรด้านลบอื่นๆเข้ามากระทบ คาดว่าในสิ้นปีนี้จะได้เห็นอุตสาหกรรมโฆษณามีอัตราการเติบโต 2หลัก ราว 11-12% จาก5.5-6 หมื่นล้านบาท
นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนเดิมที่จะมีการปรับราคาโฆษณาขึ้นเฉลี่ย 10% ในบางรายการช่วงต้นปี 2555 นั้น ขณะนี้ได้มีการทบทวนแผนนี้ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้นอกจากปัญหาน้ำท่วมแล้ว ยังมีเรื่องของ
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่กำลังเกิดปัญหา และหลายบริษัทที่โฆษณาสินค้าในไทยก็เป็นบริษัทข้ามชาติ ซึ่งหากบริษัทแม่กำลังประสบปัญหาอาจจะกดดันให้บริษัทลูกในไทยทบทวนการใช้งบโฆษณาได้ ดังนั้นการจะปรับราคาโฆษณาขึ้นในปีหน้าจึงต้องพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศก่อน รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าด้วย โดยมองว่าในภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณารวมปีหน้าเชื่อว่าจะมีการเติบดตลดลง จากผลกระทบเหล่านี้แน่
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทางช่อง 3 ได้มีการปรับค่าโฆษณาในช่วงรายการข่าวเพิ่มขึ้นเป็น2แสนบาทต่อนาที จากเดิมอยู่ที่ 1.75 แสนบาทต่อนาที โดยรายการข่าว 3 มิติอยู่ที่ 2.6-2.9 แสนบาทต่อนาที และปรับราคาโฆษณาช่วงละครก่อนข่าวไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงช่วงโฆษณาละครหลังข่าวอยู่ที่ 4.8 แสนบาทต่อนาที จากราคาเดิม 4.5 แสนบาทต่อนาที ไปเมื่อต้นปีเช่นกัน ซึ่งการปรับค่าโฆษณามาจากปัจจัยความต้องการของคนดู และความต้องการของโฆษณา
ทั้งนี้ในปีหน้า ทางช่อง3เตรียมศึกษาแผนลงทุนทำธุรกิจทีวีดาวเทียมอย่างจริงจัง เพราะเห็นโอกาส จากความชัดเจนของกสทช.ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อต่อยอดธุรกิจให้กับสถานีฯ จากปัจจุบันช่อง 3 มีเนื้อหา รูปแบบรายการที่มีเป็นจำนวนมาก