เชียงราย - สหพันธ์ครูเชียงราย ก่อหวอด ทวงคืนเงินร่วม 500 ล้าน หลังสหกรณ์ฯนำเงินไปลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านเอกชน ส่อผิดวัตถุประสงค์ จนเสี่ยงสูญเงินทั้งก้อน นัดชุมนุมใหญ่เสาร์นี้ (1 ต.ค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 ก.ย.54) สหพันธ์ครูเชียงราย ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เพื่อเรียกร้องให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย ตั้งอยู่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย แสดงความรับผิดชอบกรณีสหกรณ์ฯได้ไปลงทุนทำธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งแต่ปี 2553 โดยนำเงินทุนของสหกรณ์ฯจำนวน 556.95 ล้านบาท ไปลงทุนกับบริษัทจัมโบ้ ซัพพลาย แอนด์เซอร์วิส จำกัด ด้วยการวางมัดจำกับเอกชน
กระทั่งล่าสุดวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวได้แจ้งยกเลิกสัญญาซื้อขายกับสหกรณ์ฯ ซึ่งตามปกติบริษัทจะต้องคืนเงินค้ำประกันและเงินค่าสลากให้แก่สหกรณ์ฯภายในกำหนด 60 วัน แต่ปรากฏว่า จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการชำระเงินที่คงค้างรวมทั้งหมด 478 ล้านบาทให้แก่สหกรณ์ฯแต่อย่างใด
จึงทำให้สหพันธ์ฯ ออกมาเคลื่อนไหวออกแถลงการณ์ และยังได้นัดแนะให้สมาชิกครูไปร่วมชุมนุมเรียกร้องกันที่สำนักงานสหกรณ์ฯในวันเสาร์ที่ 1 ต.ค. นี้ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากสหกรณ์ฯอีกด้วย
นายนิวัฒน์ จรุงจิตต์ รองประธานสหพันธ์ครู 16 จังหวัดภาคเหนือ และประธานสหพันธ์ครูเชียงราย กล่าวว่า กรณีสหกรณ์ฯ ไปลงทุนกับธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลและมีผลกระทบดังกล่าว ถือเป็นการเสื่อมเสียชื่อเสียงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสหกรณ์ฯมาได้ประมาณ 50 ปี และมีสมาชิกรวมกันประมาณ 10,000 คน ทั้งๆ ที่เคยมีการแจ้งเตือนไปยังสหกรณ์ฯ แล้วว่าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินการสหกรณ์ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ เรื่องข้อกำหนดการฝากหรือลงทุนของสหกรณ์ ที่ไม่ให้นำเงินสหกรณ์ไปลงทุนเกินทุนสำรองที่มีอยู่ ขณะที่ทุนสำรองของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย มีอยู่แค่เพียง 374.01 ล้านบาทเท่านั้น
แต่คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ ก็ยังทำ โดยเริ่มต้นนำผลการประชุมวิสามัญนำเสนอไปยังที่ประชุมใหญ่เพื่อจะนำเงินของสหกรณ์ฯไปลงทุนซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ได้ เมื่อระเบียบของสหกรณ์ฯไม่เอื้อ ก็มีการผลักดันจะแก้ระเบียบ แต่สหกรณ์ จ.เชียงราย แจ้งว่าไม่สามารถแก้ได้และให้ระงับไว้ก่อน ถึงขั้นนี้สหกรณ์ฯก็ยังไม่หยุดโดยยังคงมีการนำเงินของสหกรณ์จำนวน 556.950 ล้านบาท ไปใช้วางมัดจำสัญญากับบริษัทดังกล่าว จนเอกชนแจ้งยกเลิกสัญญาและเป็นผลทำให้สหกรณ์ฯต้องเสี่ยงต่อการสูญเงินที่เมื่อหักลบแล้วจะต้องได้คืนจำนวน 478 ล้านบาทอย่างมาก
ดังนั้นสหพันธ์ฯจึงถือว่าคณะกรรมการสหกรณ์ ฯ เข้าข่ายกระทำความผิดต่อประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ กรณีจงใจกระทำการใดโดยผิดกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบสหกรณ์ กระทำหรือละเว้นกระทำ โดยประมาทเลินเล่ออันเป็นเหตุให้สหกรณ์ฯได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงได้ รวมทั้งยังขัดต่อการนำเงินทุนไปลงทุนเกินทุนสำรองของสหกรณ์อีก จึงจะพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีกับประธานและกรรมการทั้งหมดต่อ สภ.เมืองเชียงราย ในวันชุมนุมคือ วันที่ 1 ต.ค.นี้ด้วย
"มีพิรุธอย่างมากว่า เหตุใดเมื่อรู้ว่าขัดต่อกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับ ระเบียบของสหกรณ์จึงกล้านำเงินทุนของสมาชิกไปลงทุนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงสงสัยว่าจงใจกระทำผิด พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 และข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย จำกัด พ.ศ.2552 หรือไม่ นอกจากนี้เมื่อลงทุนไปแล้วยังพบพิรุธอีกว่ามีการทำสัญญาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับเอกชนฉบับละ 73.60 บาท แต่กลับนำมาจำหน่ายให้สมาชิกฉบับละ 83 บาท แล้วส่วนต่างฉบับละ 9.40 บาทซึ่งยังไม่รู้ว่าส่วนนี้หายไปไหนด้วย" นายนิวัฒน์ กล่าว
นายนิวัฒน์ ยังบอกอีกว่า การทำสัญญายังมีพิรุธอีกว่าสหกรณ์ฯ ได้ทำสัญญากับเอกชนโดยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นงวดๆ ครั้งแรก 48 งวด และครั้งที่สอง 45 งวดๆ ละ 10,000 เล่มและ 5,000 เล่มตามลำดับ โดยสหกรณ์ฯมีการชำระเงินค้ำประกันการจองซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไปก่อน จากนั้นกำหนดให้บริษัทค่อยคืนเงินจากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นงวดๆ แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมาพบว่าเอกชนวางหลักประกันสัญญาให้แก่สหกรณ์ฯเป็นเช็คธนาคารไม่ลงวันที่ ดังนั้นเมื่อเอกชนแจ้งยกเลิกสัญญาเช่นนี้ จึงมีความเสี่ยงที่สหกรณ์ฯจะไม่ได้เงินค้ำประกันรวมค่าสลากที่ค้างอยู่ทั้งหมดร่วม 478 ล้านบาทคืน
ด้านนายสมบัติ จักรสมศักดิ์ กรรมการสหพันธ์ฯ กล่าวว่า ในวันที่ 1 ต.ค.นี้สมาชิกไม่ต่ำกว่า 100 คนจะไปชุมนุมกันที่สำนักงานสหกรณ์ฯ จากนั้นหากไม่ได้เงินคืน ก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับคณะกรรมกรสหกรณ์ฯ อย่างไรก็ตามยืนยันกรณีนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานะของสหกรณ์ฯ เพราะสหกรณ์ฯมีเงินหมุนเวียนร่วม 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่ามั่นคง เพียงแต่เหตุการณ์นี้ทำให้สหกรณ์ฯ เสียผลประโยชน์ที่พึงได้ และสูญเสียเม็ดเงินของสมาชิกโดยที่ไม่ควรจะเสียไป
ส่วนสถานะความเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ การฝากและกู้ยืมเงิน ยังทำได้ตามปกติ แต่จะมีผลกระทบต่อการปันผลแก่สมาชิกตอนต้นปี ซึ่งตามปกติสมาชิกที่มีเงินฝาก 100,000 บาทจะได้รับปันผลร้อยละ 6 ซึ่งถือเป็นเสมือนโบนัส แต่หลังเหตุการณ์นี้คงกระทบต่อการปันผลแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าก่อนหน้านี้ทางกรรมการสหกรณ์ฯ เคยแจ้งต่อสื่อมวลชนว่าการดำเนินการของสหกรณ์ฯดังกล่าวทั้งหมดมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งสหพันธ์ฯ สมาชิกครูที่จะไปร่วมการชุมนุม คาดหวังว่าจะได้รับฟังคำตอบที่ชัดเชนในการชุมนุมวันที่ 1 ต.ค.นี้