xs
xsm
sm
md
lg

จี้รัฐแก้กม.รับ"เออีซี"วิกฤติยุโรปทัวร์วูบ15%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน –แอตต้า เร่งศึกษาข้อกฎหมาย ก่อนชงรัฐบาลแก้ไข   หวังใช้เป็นกำแพงป้องกันทัวร์ข้ามชาติ บุกไทยหลังเปิดเออีซี   หลายประเทศจ่อเข้ามาจดทะเบียนตั้งบริษัททัวร์  ขณะที่ผลจากวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป กระทบทัวร์ 8 เดือนวูบ 15% 

นายศิษฎิวัชร  ชีวรัตนพร   นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า เปิดเผยว่า  สมาคมอยู่ระหว่างการศึกษากฏหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว   เพื่อเสนอให้รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับแก้ให้มีความทันสมัย พร้อมรองรับการแข่งขันในการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ที่จะมีขึ้นในปี 2558  โดยศึกษาทั้งกฎหมายที่มีอยู่ของประเทศไทย และกฎหมาย ของประเทศอื่นๆในอาเซียน  เพื่อดูความได้เปรียบเสียเปรียบ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยจะเร่งให้เสร็จพร้อมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวให้ทันภายในปี 2555

“เบื้องต้นแอตต้าต้องรณรงค์ให้สมาชิกรู้จักและเข้าใจของข้อตกลงเออีซี ที่จะมีผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้  ควบคู่ไปกับเร่งแก้ไขกฏหมายกฏเกณฑ์ เพื่อใช้เป็นกรอบคัดกรองการเข้ามาลงทุนของต่างชาติในประเทศไทย   เช่น การปรับเพิ่มทุนจดทะเบียนการจดบริษัทนำเที่ยว จากปัจจุบัน 1 แสนบาท เพิ่มเป็น  5 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับประเทศจีนในปัจจุบัน เป็นต้น “

ขณะนี้มีหลายประเทศเริ่มรุกเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นและจะมากกว่านี้เมื่อเปิดเสรีอาเซียน อาทิ จีน สิงคโปร์ รัสเซีย อินเดีย  โดยเข้ามาตั้งบริษัทนำเที่ยว เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวของประเทศตัวเอง จะบริการแบบครบวงจร ถ้าปล่อยเช่นนี้ รายเล็กที่มีอยู่จะล้มตาย  

***วิกฤตยุโรปกระทบผู้ส่งออกเอเชีย****
สำหรับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในภูมิภาคยุโรปครั้งนี้  รัฐบาล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่าประมาท เพราะหากขยายวงกว้าง เชื่อว่า ประเทศในเอเชีย เช่น จีน เกาหลี อินเดีย และหลายประเทศในเอเชียรวมถึงไทย ที่ทำการค้าส่งออกไปยุโรป ก็จะได้รับผลกระทบด้วยจากการบริโภคของยุโรปที่ลดลง

ในส่วนของผู้ประกอบการทัวร์ โดยเฉพาะที่ทำทัวร์อินบาวนด์จากประเทศยุโรป มาไทย สุดท้ายก็ต้องหันมาใช้กลยุทธ์ราคาเป็นตัวรักษาตลาดไม่ให้ทรุดตัว ด้วยการไม่ปรับขึ้นราคา แต่คงไม่ถึงต้องใช้สงครามราคาเพราะทุกคนก็มีต้นทุนสูง

***ยัน  30 ล้านคนไปไม่ถึง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ม.ค.-20ก.ย.54 ที่เดินทางผ่านสมาชิกของสมาคมแอตต้า  มีรวมทั้งสิ้น 2,237,015 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  57.54%  ประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่  จีน 474,969 คน  เพิ่มจากปีก่อน  122.78%  ,รัสเซีย 304,368 คน เพิ่ม 102.71% และ อินเดีย 184,535 คน เพิ่ม 10.17%  ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติ หาก สถานการณ์ยังเป็นปกติเช่นนี้ คาดจะเติบโตปีละ 10% ดังนั้นภายในปี  2558  คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่  26 ล้านคน รายได้ 1.7-1.8 ล้านล้านบาท  ไม่ถึง 30 ล้านคน ตามที่รัฐบาลวางไว้

***จี้เอกชนบริการครบวงจร***
นายสุภกิตติ์  พลจันทร  ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า   ในการรับมือการแข่งขันเปิดเสรีเออีซี ต้องการให้ภาคเอกชน โดยสมาคมการท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีอยู่ วางแผนการทำงานเชิงรุก กำหนดกรอบการทำงานรายปีในแต่ละช่วงเวลา เพื่อมาบูรณาการร่วมกับแผนงานของ ททท.
  ส่วนบริษัทนำเที่ยวผู้ประกอบการควรปรับตัว ให้มีบริการเป็นแบบวันสต็อปเซอร์วิส  คือ มีทั้งบริการนำเที่ยว บริการรถนำเที่ยว และ ร้านอาหาร  จัดโปรแกรมทัวร์ แม้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิม แต่ต้องนำเสนอในเชิงลึก  สร้างเรื่องราวในแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดความสนใจ  มัคคุเทศก์ต้องปรับให้มีความรู้เพิ่มขึ้น

***หั่นกำไรประคองธุรกิจ***
นายชิดชัย  สาครบดี อุปนายก แอตต้า ดูแลตลาดยุโรป กล่าวว่า  ผลจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทย 8 เดือนแรกปีนี้ลดลง 15% เทียบกับปีก่อน  ซึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการทำได้ คือ พยายามคงราคาขายเท่าเดิม เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า หั่นกำไรขั้นต้นเหลือ 10-15% ต่อแพกเกจ ลดจากเดิมซึ่งมีกำไรที่  20-25% ต่อแพเกกจ

ส่วนตลาดที่จะกระทบแน่นอนคือลูกค้าใหม่   กลุ่มนี้เมื่อได้รับผลจากวิกฤติ จะหันมาเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ หรือเที่ยวในประเทศตัวเอง โดยเดินทางโดยรถยนต์ ส่วนตลาดที่ยังพอทำกำไรได้ คือ นักท่องเที่ยว ที่เดินทางเอง หรือ เอฟไอที กลุ่มนี้มีกำลังพอจับจ่าย ทำให้ผู้ประกอบการ ที่ทำธุรกิจแบบ บี ทู บี เริ่มขยายช่องทางทำธุรกิจ บี ทู ซี ผ่านโซเซียลเน็คเวิร์ค
กำลังโหลดความคิดเห็น