ทุกข์ของประชาชน คือ ทุกข์ของแผ่นดิน จิตสำนึกแรกของนักการเมืองและผู้บริหารชาติที่ดีนั้น พึงต้องดับทุกข์ทั้งปวงของชาวไทยก่อน..จริงไหม?
วันนี้..แผ่นดินไทยอย่างน้อย 23 จังหวัด ต้องจมอยู่ใต้บาดาลจากอุทกภัยครั้งร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ราษฎรต้องเสียชีวิตไปแล้วถึง 152 คน ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอีกกว่า 581,099 ครัวเรือน หรือประมาณ 1,923,920 คน!
นอกจากนั้น..พื้นที่การเกษตรของประชาชนยังเสียหายถึง 5,110,327 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะบ่อปลาเสียหายประมาณ 60,124 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบมากกว่า 4,727,694 ตัว น้ำท่วมเส้นทางหลวงกว่า 30 สาย ใน 9 จังหวัด ทางหลวงชนบทอีกกว่า 37 สาย ใน 23 จังหวัด
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ได้พยากรณ์ไว้ว่า ในช่วงวันที่ 26-30 กันยายน 2554 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งและดินถล่มบริเวณภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด จึงขอให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ประสบภัย!
ในขณะที่ประชาชนคนไทยจำนวนมาก กำลังเผชิญทุกข์อย่างแสนสาหัสเกือบทุกหย่อมหญ้า นักการเมืองไทย “ใจเขมร” กลุ่มหนึ่ง กลับเดินทางไปเตะบอลกับ “เขมรฮุนเซน” ที่ประเทศกัมพูชา
นักการเมืองพรรคเพื่อไทยกลุ่มนี้ บ้างเป็นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บ้างเป็นเลขาฯ รัฐมนตรีช่วยและว่าการกระทรวงสำคัญ บ้างเป็นถึงที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และบ้างก็เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ฯลฯ
แต่พวกเขากลับทิ้งประชาชนคนไทยที่เผชิญภัยน้ำท่วมโดยไม่แยแส เพียงเพื่อไปสรวลเสเฮฮาเตะบอลอย่างสนุกสนานกับ “เขมรฮุนเซน” หน้าตาเฉย ด้วยข้ออ้าง..เพื่อฟื้นมิตรสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เพราะรัฐบาลยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กระทำให้เสื่อมทรามลง
ทว่า..คอการเมืองต่างรู้ว่า การเตะบอลครั้งนี้เป็นเพียงแค่การใช้เกมกีฬา มาบังหน้ากลเกมทางการเมืองของพลพรรคแกนนำคนเสื้อแดงกับ “หน้าเหลี่ยม” ทั้งสิ้น
เพราะเนื้อแท้แล้วเป็นการแสดงออกอย่างเปิดเผย ถึงการเป็น “ลูกไล่” หรือ “เมืองขึ้น” ของชาติไทยต่อชาติเขมร ยิ่งเห็นภาพนักการเมืองพรรคเพื่อไทย และแกนนำสำคัญของคนเสื้อแดงบางคน ถึงกับแสดงการสามิภักดิ์คุกเข่ากราบกราน “สมเด็จฮุนเซน” อย่างนอบน้อมด้วยแล้ว
ผมเชื่อว่า..คนไทยส่วนใหญ่ในชาติ..คงยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรม “ขี้ข้าข้ามชาติ” ของกลุ่มนักการเมืองไทย และแกนนำคนเสื้อแดงบางคน ชนิดอยากจะอาเจียนใส่จอแก้วให้รู้แล้วรู้รอด ด้วยความทุเรศและขยะแขยงกับภาพที่เห็น..จริงไหม?
ทว่า..เมื่อพิเคราะห์อย่างถ่องแท้แล้ว..ก็ถึง “บางอ้อ” ว่า การแสดงอาการเป็น “ขี้ข้าข้ามชาติ” อย่างเปิดเผย ถือเป็นการแสดงอาการคารวะอย่างสูงสุดต่อ “คุณพ่อเขมรฮุนเซน” ผู้มีพระคุณล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ที่ได้เมตตากรุณาต่อ “หน้าเหลี่ยม” และบรรดานักการเมือง ที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงทุกคนนั่นเอง
แหม..อีตอน “หน้าเหลี่ยม” กับแกนนำคนเสื้อแดง กำลังต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างต่อเนื่องนั้น “เขมรฮุนเซน” นี่แหละ..ที่หนุนช่วย “หน้าเหลี่ยม” อย่างเต็มตัว ชนิดไม่ใส่ “เสื้อกั๊ก” เลยหล่ะ เพราะ “เขมรฮุนเซน” เชื่อว่า “หน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคเสื้อแดง จะต้องเอาชนะรัฐบาลหน่อมแน้ม “อภิสิทธิ์” ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น “เขมรฮุนเซน” จึงผนึกกำลังกับ “หน้าเหลี่ยม” ประกาศตนเป็น “บิดา” แห่งคนเสื้อแดงประจำประเทศเขมร โดย “เขมรฮุนเซน” ได้ทำตนเป็น “หัวหน้าโจร” “ทะลวงฟัน” ชาติไทย ด้วยการออกมา “ปะ-ฉะ-ดะ” หยามหยาบรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ อย่างสาดเสียเทเสียครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งในเวทีการเมืองระดับอาเซียนและโลกอย่างเปิดเผยมาตลอด
ในทางลับๆ ล่อๆ “เขมรฮุนเซน” ก็เข้าแทรกแซง และบ่อนทำลายความมั่นคงรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่ตลอดเวลา ด้วยการช่วยฝึกอาวุธให้กับขบวนการก่อการร้ายในไทย รวมทั้งสนับสนุนอาวุธสงครามสารพัดชนิดให้อีกด้วย จนในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์คนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง ก่อการร้ายขึ้นในชาติไทยหลายครั้งหลายครา จนเป็นข่าวระบือลือลั่นไปทั้งโลก
แต่ขบวนการ “หน้าเหลี่ยม” และพลพรรคเสื้อแดง..ก็เหลวเป๋ว เพราะโค่นล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ จนทำให้แกนนำคนเสื้อแดงต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าเขมร โดย “คุณพ่อฮุนเซน” ให้การปกป้องและให้ที่พักพิงกันอย่างโจ่งแจ้ง เรียกว่า..ทั้ง “หน้าเหลี่ยม” กับแกนนำก่อการร้ายอยู่ในประเทศเขมรชนิดสุโขสโมสรกันเต็มที่เลยครับ
บัดนี้ “หน้าเหลี่ยม” อาศัยจุดอ่อนแห่งการเลือกตั้ง ทุ่มเงินซื้อเสียงกลับเข้ามายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือได้อีกครั้ง จนสมดังคาด-สมดังหวัง-สมดังใจ “เขมรฮุนเซน” กับบรรดา “คนไทยใจเขมร” แล้วครับ
จึงไม่น่าแปลกใจ..ที่เกมเตะฟุตบอลชิงถ้วย “อัปรีย์คัพ” เมืองเขมรครั้งนี้ “หน้าเหลี่ยม” กับแกนนำคนเสื้อแดงถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด สำคัญเหนือกว่าคนไทยนับล้านๆ คนกำลังจมอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์แสนสาหัสกับอุทกภัยครั้งนี้
24 กันยายน 2554 “ฝน” จึงตกหนักทั้งในชาติไทยและชาติเขมร จนเกิดเหตุ “ขี้หมู-ขี้หมา” ไหลมาผสมกัน ที่สนามฟุตลบอลกลางกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของชาติเขมร
จนทำให้ “คุณพ่อบังเกิดเกล้าฮุนเซน” กับบรรดา “ลูกนอกไส้แกนนำเสื้อแดง” ได้เตะบอลคลุก“ขี้หมู-ขี้หมา” เคล้า “น้ำตา” คนไทยที่กำลังโดนภัยน้ำท่วมกันอย่างสนุกสนานไงล่ะครับ!!!
วันนี้..แผ่นดินไทยอย่างน้อย 23 จังหวัด ต้องจมอยู่ใต้บาดาลจากอุทกภัยครั้งร้ายแรงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ราษฎรต้องเสียชีวิตไปแล้วถึง 152 คน ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอีกกว่า 581,099 ครัวเรือน หรือประมาณ 1,923,920 คน!
นอกจากนั้น..พื้นที่การเกษตรของประชาชนยังเสียหายถึง 5,110,327 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะบ่อปลาเสียหายประมาณ 60,124 ไร่ สัตว์ได้รับผลกระทบมากกว่า 4,727,694 ตัว น้ำท่วมเส้นทางหลวงกว่า 30 สาย ใน 9 จังหวัด ทางหลวงชนบทอีกกว่า 37 สาย ใน 23 จังหวัด
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ได้พยากรณ์ไว้ว่า ในช่วงวันที่ 26-30 กันยายน 2554 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งและดินถล่มบริเวณภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด จึงขอให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ประสบภัย!
ในขณะที่ประชาชนคนไทยจำนวนมาก กำลังเผชิญทุกข์อย่างแสนสาหัสเกือบทุกหย่อมหญ้า นักการเมืองไทย “ใจเขมร” กลุ่มหนึ่ง กลับเดินทางไปเตะบอลกับ “เขมรฮุนเซน” ที่ประเทศกัมพูชา
นักการเมืองพรรคเพื่อไทยกลุ่มนี้ บ้างเป็นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บ้างเป็นเลขาฯ รัฐมนตรีช่วยและว่าการกระทรวงสำคัญ บ้างเป็นถึงที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และบ้างก็เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ฯลฯ
แต่พวกเขากลับทิ้งประชาชนคนไทยที่เผชิญภัยน้ำท่วมโดยไม่แยแส เพียงเพื่อไปสรวลเสเฮฮาเตะบอลอย่างสนุกสนานกับ “เขมรฮุนเซน” หน้าตาเฉย ด้วยข้ออ้าง..เพื่อฟื้นมิตรสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เพราะรัฐบาลยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กระทำให้เสื่อมทรามลง
ทว่า..คอการเมืองต่างรู้ว่า การเตะบอลครั้งนี้เป็นเพียงแค่การใช้เกมกีฬา มาบังหน้ากลเกมทางการเมืองของพลพรรคแกนนำคนเสื้อแดงกับ “หน้าเหลี่ยม” ทั้งสิ้น
เพราะเนื้อแท้แล้วเป็นการแสดงออกอย่างเปิดเผย ถึงการเป็น “ลูกไล่” หรือ “เมืองขึ้น” ของชาติไทยต่อชาติเขมร ยิ่งเห็นภาพนักการเมืองพรรคเพื่อไทย และแกนนำสำคัญของคนเสื้อแดงบางคน ถึงกับแสดงการสามิภักดิ์คุกเข่ากราบกราน “สมเด็จฮุนเซน” อย่างนอบน้อมด้วยแล้ว
ผมเชื่อว่า..คนไทยส่วนใหญ่ในชาติ..คงยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรม “ขี้ข้าข้ามชาติ” ของกลุ่มนักการเมืองไทย และแกนนำคนเสื้อแดงบางคน ชนิดอยากจะอาเจียนใส่จอแก้วให้รู้แล้วรู้รอด ด้วยความทุเรศและขยะแขยงกับภาพที่เห็น..จริงไหม?
ทว่า..เมื่อพิเคราะห์อย่างถ่องแท้แล้ว..ก็ถึง “บางอ้อ” ว่า การแสดงอาการเป็น “ขี้ข้าข้ามชาติ” อย่างเปิดเผย ถือเป็นการแสดงอาการคารวะอย่างสูงสุดต่อ “คุณพ่อเขมรฮุนเซน” ผู้มีพระคุณล้นฟ้าล้นแผ่นดิน ที่ได้เมตตากรุณาต่อ “หน้าเหลี่ยม” และบรรดานักการเมือง ที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงทุกคนนั่นเอง
แหม..อีตอน “หน้าเหลี่ยม” กับแกนนำคนเสื้อแดง กำลังต่อสู้โค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างต่อเนื่องนั้น “เขมรฮุนเซน” นี่แหละ..ที่หนุนช่วย “หน้าเหลี่ยม” อย่างเต็มตัว ชนิดไม่ใส่ “เสื้อกั๊ก” เลยหล่ะ เพราะ “เขมรฮุนเซน” เชื่อว่า “หน้าเหลี่ยม” กับพลพรรคเสื้อแดง จะต้องเอาชนะรัฐบาลหน่อมแน้ม “อภิสิทธิ์” ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น “เขมรฮุนเซน” จึงผนึกกำลังกับ “หน้าเหลี่ยม” ประกาศตนเป็น “บิดา” แห่งคนเสื้อแดงประจำประเทศเขมร โดย “เขมรฮุนเซน” ได้ทำตนเป็น “หัวหน้าโจร” “ทะลวงฟัน” ชาติไทย ด้วยการออกมา “ปะ-ฉะ-ดะ” หยามหยาบรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ อย่างสาดเสียเทเสียครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งในเวทีการเมืองระดับอาเซียนและโลกอย่างเปิดเผยมาตลอด
ในทางลับๆ ล่อๆ “เขมรฮุนเซน” ก็เข้าแทรกแซง และบ่อนทำลายความมั่นคงรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่ตลอดเวลา ด้วยการช่วยฝึกอาวุธให้กับขบวนการก่อการร้ายในไทย รวมทั้งสนับสนุนอาวุธสงครามสารพัดชนิดให้อีกด้วย จนในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์คนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง ก่อการร้ายขึ้นในชาติไทยหลายครั้งหลายครา จนเป็นข่าวระบือลือลั่นไปทั้งโลก
แต่ขบวนการ “หน้าเหลี่ยม” และพลพรรคเสื้อแดง..ก็เหลวเป๋ว เพราะโค่นล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ จนทำให้แกนนำคนเสื้อแดงต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าเขมร โดย “คุณพ่อฮุนเซน” ให้การปกป้องและให้ที่พักพิงกันอย่างโจ่งแจ้ง เรียกว่า..ทั้ง “หน้าเหลี่ยม” กับแกนนำก่อการร้ายอยู่ในประเทศเขมรชนิดสุโขสโมสรกันเต็มที่เลยครับ
บัดนี้ “หน้าเหลี่ยม” อาศัยจุดอ่อนแห่งการเลือกตั้ง ทุ่มเงินซื้อเสียงกลับเข้ามายึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือได้อีกครั้ง จนสมดังคาด-สมดังหวัง-สมดังใจ “เขมรฮุนเซน” กับบรรดา “คนไทยใจเขมร” แล้วครับ
จึงไม่น่าแปลกใจ..ที่เกมเตะฟุตบอลชิงถ้วย “อัปรีย์คัพ” เมืองเขมรครั้งนี้ “หน้าเหลี่ยม” กับแกนนำคนเสื้อแดงถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด สำคัญเหนือกว่าคนไทยนับล้านๆ คนกำลังจมอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์แสนสาหัสกับอุทกภัยครั้งนี้
24 กันยายน 2554 “ฝน” จึงตกหนักทั้งในชาติไทยและชาติเขมร จนเกิดเหตุ “ขี้หมู-ขี้หมา” ไหลมาผสมกัน ที่สนามฟุตลบอลกลางกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของชาติเขมร
จนทำให้ “คุณพ่อบังเกิดเกล้าฮุนเซน” กับบรรดา “ลูกนอกไส้แกนนำเสื้อแดง” ได้เตะบอลคลุก“ขี้หมู-ขี้หมา” เคล้า “น้ำตา” คนไทยที่กำลังโดนภัยน้ำท่วมกันอย่างสนุกสนานไงล่ะครับ!!!
