xs
xsm
sm
md
lg

ปล่อย7นปช.เตะบอลเขมร "เทือก"จับตา"ปู"แบ่งเค็กน้ำมัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลอาญาอนุญาต 7 แกนนำนปช. บินไปเตะบอลกระชับมิตรที่เขมรอีกรอบ 22-26 ก.ย.นี้ หลังบินไปพบ "พ่อแม้ว"และกลับมารายงานตัวแล้ว "ณัฐวุฒิ"เผย"แม้ว"ฝากห่วงใยคนไทย แย้มเจอ"ไอ้กี้ร์" ระบุพร้อมมอบตัว แต่ยังติดเงื่อนไขบางอย่าง "เทือก"จับตารัฐบาล หลัง"ยิ่งลักษณ์"พบ"เซฟรอน" ชี้เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เขตแดน ต้องผ่านรัฐสภาก่อน เพื่อไทยสวนมีภาพวงจรปิด"เทือก"ถกลับ"ฮุนเซน" ล่าสุด"แม้ว"ออกจากเขมรไปมาเลย์แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.มหาดไทย และแกนนำนปช. จำเลยในคดีก่อการร้าย ที่ได้รับอนุญาตจากศาลอาญา ให้เดินทางไปประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 15-19 ก.ย.ได้เดินทางเข้ารายงานตัวต่อศาล

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความแกนนำนปช. กล่าวว่า หลังจากแกนนำรายงานตัวแล้ว นายณัฐวุฒิ นพ.เหวง นายก่อแก้ว นายยศวริศ พร้อมกับ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ส.ส.รายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายนิสิต สินธุไพร และ นายภูมิกิตติ สุขจินดาทอง ได้ยื่นคำร้องใหม่เพื่อขออนุญาตศาลเดินทางไปแข่งฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ ที่ประเทศเขมร ระหว่างวันที่ 22-26 ก.ย.ซึ่งทุกคนใช้หลักทรัพย์คนละ 600,000 บาท วางประกันศาล

ต่อมาศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ผู้ร้องทั้ง 7 เดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ระหว่างวันที่ 22-26 ก.ย.นี้ โดยตีราคาประกันคนละ 600,000 บาท และให้มารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 27 ก.ย.นี้

ภายหลัง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเดินทางไปประเทศกัมพูชา ที่ผ่านมา ได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีการพูดคุยกัน พร้อมฝากความห่วงใยมายังประชาชนไทย และรัฐบาลไทย ส่วนอดีตนายกฯ จะร่วมเตะฟุตบอลด้วยหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ส่วนกรณีที่ได้พบกับ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีก่อการร้ายที่ยังหลบหนีอยู่นั้น ตนพยายามพูดคุย เพื่อให้เข้ามอบตัว แต่เนื่องจาก นายอริสมันต์ ยังติดเงื่อนไขบางประการอยู่ ซึ่งพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ หากจะเข้ามอบตัว

ด้านนายก่อแก้ว กล่าวว่า ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลหลังกลับจากประเทศกัมพูชาและยื่นคำร้อง เพื่อเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง เพื่อไปเตะฟุตบอลที่ประเทศกัมพูชา ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม ออกมาโจมตี และวิพากษ์วิจารณ์การเดินทางไปประเทศกัมพูชานั้น เห็นว่า จิตใจแคบ ควรเปิดใจ เพราะการไปครั้งนี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และยอมรับว่า การเดินทางไปประเทศกัมพูชานั้นก็เป็นการเมือง แต่เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะเกิดผลดีต่อประเทศไทย

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมแข่งขันฟุตบอล ที่ประเทศกัมพูชาว่า ตนไม่ได้เป็นประธานฝ่ายไทยอย่างที่เป็นข่าว แต่ไปเป็นลูกทีม ทั้งนี้คาดว่าจะเดินทางไปวันที่ 23 ก.ย.หรือวันที่ 24 ก.ย. เพราะต้องรอถามหัวหน้าทีมก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ว่าใครที่เป็นหัวหน้าทีม ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ทราบว่าในวันที่มีการแข่งขัน จะอยู่ที่กัมพูชาด้วยหรือไม่

***"เทือก"จับตาแบ่งเค็กพื้นที่ทับซ้อน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณี สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มอบเหรียญเกียรติยศให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายนพดล ปัทมะ ในฐานะที่ทำคุณงามความดีให้กัมพูชาว่า ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ เพราะบุคคลเหล่านี้มีความสัมพันธ์ต่อกัน และทำงานร่วมกันมาโดยตลอด จึงถือเป็นเรื่องธรรมดาและคงไม่ต้องอธิบายอะไร เพราะคนไทยจะรู้สึกและสัมผัสได้เอง ซึ่งจากนี้ไปจะมีการติดตามการแบ่งผลประโยชน์ระหว่าง 2 ประเทศ อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ใครจะมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างไร ต้องไม่ให้ประเทศชาติขาดทุน แต่ขณะนี้ต้องดูก่อน ยังรีบสรุปอะไรไม่ได้

เมื่อถามว่าหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา ก็มีตัวแทนจากกลุ่มบริษัทเชฟรอน เข้าพบนั้น ถือว่าเป็นการส่อนัยอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ การเจรจาระหว่าง 2 ประเทศ เป็นเรื่องของหลักการ และเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ เพราะหลังจากมีการตกลงทั้ง 2 ประเทศแล้ว ก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่าเขาได้พูดถึงการบริหารจัดการพื้นที่นี้อย่างไร เช่น จะแบ่งพื้นที่ว่าโซนไหน ใครเป็นคนดูแล หรือจะเอาทั้งหมดตั้งเป็นบริษัทร่วมกัน ต้องดูบริษัททั้งหมดได้รับใบอนุญาตสัมปทานหรือไม่ ทั้งๆ ที่เขตแดนยังไม่ชัดเจนจะได้รู้ว่าเขาได้ไปอย่างโปร่งใสหรือไม่ และหากได้บริหารร่วมกันแล้วจะจัดการให้มีการประมูลใหม่ หรือไม่ อย่างไร ก็ต้องไปพูดคุยกันต่อ

เมื่อถามว่า แม้ว่าจะมีการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 คิดว่าจะมีช่องว่างตรงไหน ที่สามารถให้รัฐบาลแอบไปดำเนินการบางอย่างได้ โดยที่ไม่ต้องผ่านรัฐสภาได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าในหลักการคงเป็นไปได้ยาก คิดว่าพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลจะร่วมกันบริหารอย่างไร จะแบ่งผลประโยชน์อย่างไร ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องเจรจากัน แต่เราต้องตั้งคำถาม และหาคำตอบว่า เขาจะบริหารอย่างไร เช่น กรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-มาเลเซีย ก็มีการตั้งบริษัทร่วมกัน 2 ประเทศ ซึ่งทุกอย่างต้องโปร่งใส

เมื่อถามว่า หากเขายึดเอาบริษัทที่ได้รับสัมปทานไว้ แล้วเป็นผู้ที่ดำเนินการต่อเนื่องเลย จะโปร่งใสหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องดูอีกว่า ทำไมต้องทำแบบนั้น ส่วนทางพรรคเพื่อไทย เตรียมตั้งกระทู้กรณีนายสุเทพ ไปเจรจาลับกับนายซกอาน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็จะได้ชี้แจง เพราะไม่มีอะไรที่ต้องเป็นเรื่องกังวลใจ

**พท.คุยมีเทปลับ"เทือก"หารือ"ฮุน เซน"
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ออกมาตั้งฉายาเหตุการณ์ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ไปเจรจาลับกับ สมเด็จ ฮุนเซน ที่กัมพูชา เกี่ยวกับผลประโยชน์บนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ว่า "ปฏิญญาแกงเลียง" ว่าเดิมที่ตนแถลงข่าวว่าจะตั้งกระทู้ถามรัฐบาลเพื่อให้นำเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบนั้น ขณะนี้คงต้องยืดเวลาไปก่อน เนื่องจากคณะทำงานที่เดินทางไปพบสมเด็จฮุนเซน ที่กัมพูชา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ระบุว่า ขณะนี้ได้พบข้อมูลหลายอย่างเพิ่มขึ้น เช่น มีการระบุถึงการพบเทปบันทึกของกล้องวงจรปิด ที่ปรากฏภาพชายที่รูปร่างละม้ายคล้าย อดีตรองนายกฯ ท่านหนึ่ง และเทปบันทึกเสียง ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่า มีการไปพบกันในวันไหน และที่ใด รวมทั้งมีการเจรจาความกันอย่างไรบ้าง

**"แม้ว"ออกจากเขมรเตรียมเข้ามาเลย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดท ซึ่งมักจะนำเสนอข่าวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ขณะนี้ได้ติดตามไปทำข่าวภารกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในประเทศกัมพูชา โดยล่าสุดได้รายงานว่าเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางออกจากประเทศกัมพูชาแล้ว โดยมีนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เดินทางมาส่งถึงสนามบิน สำหรับจุดหมายต่อไปของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อไปบรรยายพิเศษด้านเศรษฐกิจ และจะไม่กลับมาชมการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างทีมส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนปช. กับทีมนักการเมืองของประเทศกัมพูชา ในวันที่ 24 ก.ย.นี้

***ไม่ให้ประกัน 9 นปช.มหาสารคาม
นายอดิศร วัฒนบุตร ประธานคนเสื้อแดงมหาสารคาม กล่าวว่า ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดมหาสารคาม เพื่อฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 4 กรณีส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ยื่นขอประกันตัวผู้ต้องขัง 9 คน คือ 1.นายคมกฤษ คำวิแสง 2.นายภานุพงษ์ นวลเสน 3.นายสมโภชน์ สีกากุล 4.นายอุทัย คงหา 5.นายไพรัช จอมพรรษา 6.นายมนัส วรรณวงศ์ 7.นายสุชล จันปัญญา 8.นายชรัญ เอกสิริ และ 9.นายเดชอดุลย์ เดชบุรัมย์ ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดมหาสารคามชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ หลังศาลจังหวัดมหาสารคาม ตัดสินจำคุกผู้ต้องขังทั้งหมดคนละ 5 ปี 8 เดือน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2553 ในข้อหาวางเพลิง-ตระเตรียมการวางเพลิง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553

ทั้งนี้ ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงและมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติ ทั้งศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 9 คน ในความผิดฐานชุมนุมหรือมั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และฐานร่วมกันวางเพลิง เผาทรัพย์โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จำคุกคนละ 5 ปี 8 เดือน หากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเชื่อว่า นายสมโภชน์ สีกากุล จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 8 คน จะหลบหนี ประกอบกับศาลอุทธรณ์ภาค 4 เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตมาโดยตลอด พฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยทั้ง 9 คน ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์

** สื่อไทย-เขมรจับมือแลกเปลี่ยนข่าวสาร
ด้านสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (Thai Journalists Association) และสโมสรผู้สื่อข่าวกัมพูชา (Club of Cambodian Journalists) ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสนับสนุน และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสื่อมวลชนของทั้งสองประเทศ โดยการลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าว มีขึ้นภายหลังจากที่สื่อมวลชนทั้งสองประเทศได้เข้าร่วมพบปะพูดคุย ในงานสัมมนาเรื่องบทบาทสื่อมวลชนในการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2554 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ การลงนามดังกล่าวมีนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนสื่อมวลชนฝ่ายไทย และนายเปน สมิทธี นายกสโมสรผู้สื่อข่าวกัมพูชา เป็นตัวแทนสื่อมวลชนกัมพูชา ร่วมลงนาม
กำลังโหลดความคิดเห็น