สุรินทร์ - ตำรวจ ป่าไม้ ทหาร นำกำลังจับกุมชาวเขมร 4 คนแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูงเขตแดนไทยใกล้วัดแนวเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย-กัมพูชาด้านอ.บัวเชด สุรินทร์ พร้อมของกลาง หลังพระสงฆ์ สามเณร และลูกศิษย์ช่วยกันปิดล้อมไว้ให้ จนท.เข้าจับกุม สารภาพรับจ้างตัดส่งให้นายทุนกัมพูชาและมีกองกำลังติดอาวุธคุ้มกันเข้ม
วานนี้(19 ก.ย.)เวลา 14.30 น.พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.สุรินทร์ และ พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผู้บังคับการชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้รับแจ้งจากพระพิศาลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดเขาศาลา ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ว่า พระลูกวัดพร้อมสามเณร และญาติโยมลูกศิษย์วัดเขาศาลาได้ตรวจพบชาวกัมพูชา 6 คนกำลังลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตชายแดนไทย อยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้วัดเขาศาลา แนวเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพระลูกวัดและคณะลูกศิษย์วัดเขาศาลาได้ทำการปิดล้อมชาวกัมพูชาทั้ง 6 คนเอาไว้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เข้าไปจับกุมชาวกัมพูชาที่กำลังลักลอบตัดไม้พะยูงโดยเร่งด่วน
ต่อมา พล.ต.ต.รณพงษ์ และ พ.อ.ธัญญา ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.บัวเชด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 เจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่าที่สุรินทร์ 3 อ.บัวเชด พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน อ.บัวเชด สนธิกำลังรุดไปยังพื้นที่ป่าใกล้วัดเขาศาลา แนวเทือกเขาพนมดงรัก ต.จรัส อ.บัวเชด ชายแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อไปถึงชาวกัมพูชาทั้ง 6 คนได้พยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่ช่วยกันไล่จับกุมสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 4 คน ประกอบด้วยนายเตด ลวน,นายปลง ซาง,นายมาบ คต และนายมาย สำเร็จ ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดกัมโปงธม ประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาฝากขังที่ สภ.บัวเชด พร้อมตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
นายเคต ลวน อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้ต้องหายอมรับว่า ได้ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูง ในเขตแดนไทยจริง โดยได้รับค่าจ้างวันละ 370 บาทมีนายทุนชาวกัมพูชาเป็นผู้ว่าจ้างให้เข้ามาตัดไม้พะยูงในฝั่งไทย จัดแบ่งเป็นทีมๆ ละ 6 คนโดยมีกองกำลังติดอาวุธคอยคุ้มกันให้ เมื่อตัดไม้ได้แล้วจะชักลากไปยังด้านทิศตะวันตก บริเวณหลักเขตแดนที่ 3 และบางส่วนชักลากไปยังหลักเขตแดนที่ 7 ซึ่งทั้ง 2 หลักเขตแดนจะมีกองกำลังติดอาวุธ กัมพูชาคอยคุ้มกันตลอดเวลา ทั้งนี้ ได้ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในฝั่งไทยจำนวนหลายครั้งแล้ว และหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไทยได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้หลบหนีไม่พ้นเพราะมีพระสงฆ์ สามเณร พร้อมลูกศิษย์ที่ชำนาญพื้นที่มาช่วยกันปิดล้อมไว้ให้เจ้าหน้าที่จึงหลบหนีไปไม่ได้
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่ป่าบริเวณใกล้วัดเขาศาลา ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ตามแนวเทือกเขาพนมดงรักที่กั้นเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นพื้นที่ป่าที่มีความสมบูรณ์ มีต้นไม้พะยูง ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ เป็นจำนวนมาก ถือเป็นแหล่งไม้พะยูงที่คงความสมบูรณ์สูง และเป็นพื้นที่ลักลอบตัดไม้พะยูงของประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ไทยจะเข้มงวดจับกุมก็ตาม
วานนี้(19 ก.ย.)เวลา 14.30 น.พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.สุรินทร์ และ พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผู้บังคับการชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้รับแจ้งจากพระพิศาลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดเขาศาลา ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ว่า พระลูกวัดพร้อมสามเณร และญาติโยมลูกศิษย์วัดเขาศาลาได้ตรวจพบชาวกัมพูชา 6 คนกำลังลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตชายแดนไทย อยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้วัดเขาศาลา แนวเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพระลูกวัดและคณะลูกศิษย์วัดเขาศาลาได้ทำการปิดล้อมชาวกัมพูชาทั้ง 6 คนเอาไว้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เข้าไปจับกุมชาวกัมพูชาที่กำลังลักลอบตัดไม้พะยูงโดยเร่งด่วน
ต่อมา พล.ต.ต.รณพงษ์ และ พ.อ.ธัญญา ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.บัวเชด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 เจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่าที่สุรินทร์ 3 อ.บัวเชด พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน อ.บัวเชด สนธิกำลังรุดไปยังพื้นที่ป่าใกล้วัดเขาศาลา แนวเทือกเขาพนมดงรัก ต.จรัส อ.บัวเชด ชายแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อไปถึงชาวกัมพูชาทั้ง 6 คนได้พยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่ช่วยกันไล่จับกุมสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 4 คน ประกอบด้วยนายเตด ลวน,นายปลง ซาง,นายมาบ คต และนายมาย สำเร็จ ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดกัมโปงธม ประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาฝากขังที่ สภ.บัวเชด พร้อมตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
นายเคต ลวน อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้ต้องหายอมรับว่า ได้ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูง ในเขตแดนไทยจริง โดยได้รับค่าจ้างวันละ 370 บาทมีนายทุนชาวกัมพูชาเป็นผู้ว่าจ้างให้เข้ามาตัดไม้พะยูงในฝั่งไทย จัดแบ่งเป็นทีมๆ ละ 6 คนโดยมีกองกำลังติดอาวุธคอยคุ้มกันให้ เมื่อตัดไม้ได้แล้วจะชักลากไปยังด้านทิศตะวันตก บริเวณหลักเขตแดนที่ 3 และบางส่วนชักลากไปยังหลักเขตแดนที่ 7 ซึ่งทั้ง 2 หลักเขตแดนจะมีกองกำลังติดอาวุธ กัมพูชาคอยคุ้มกันตลอดเวลา ทั้งนี้ ได้ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในฝั่งไทยจำนวนหลายครั้งแล้ว และหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไทยได้ทุกครั้ง แต่ครั้งนี้หลบหนีไม่พ้นเพราะมีพระสงฆ์ สามเณร พร้อมลูกศิษย์ที่ชำนาญพื้นที่มาช่วยกันปิดล้อมไว้ให้เจ้าหน้าที่จึงหลบหนีไปไม่ได้
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่ป่าบริเวณใกล้วัดเขาศาลา ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ตามแนวเทือกเขาพนมดงรักที่กั้นเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นพื้นที่ป่าที่มีความสมบูรณ์ มีต้นไม้พะยูง ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ เป็นจำนวนมาก ถือเป็นแหล่งไม้พะยูงที่คงความสมบูรณ์สูง และเป็นพื้นที่ลักลอบตัดไม้พะยูงของประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ไทยจะเข้มงวดจับกุมก็ตาม