00 ต้องยอมรับว่าการเดินทางเยือนเขมรของ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เรียกความสนใจได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในภาวะที่ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมจนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสอยู่ในเวลานี้ อย่างน้อยก็ได้ “แย่งพื้นที่ข่าว” เอาไว้ได้หลายวันทั้งก่อนและระหว่างที่อยู่ในเขมร
00 แม้ว่าหากมองอีกด้านหนึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามีแต้มบวกหรือลบกันแน่ เพราะการเดินทางไปเยือนเขมรเที่ยวนี้ยิ่งตอกย้ำ “ความระแวง” ในเรื่องการรวมหัวกับ “ฮุบผลประโยชน์น้ำมัน” ในอ่าวไทย และทุกอย่างเริ่มเข้าเค้ามากขึ้นเมื่อมีการเข้าพบหารือกันระหว่าง “ซีอีโอเชฟรอน” บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอเมริกา กับนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำเนียบฯหลังจากเธอเดินทางกลับจากเขมรเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น และที่ผ่านมาบริษัทนี้แหละที่มีข่าวคราวได้รับสัมปทานสำรวจน้ำมันในแหล่งดังกล่าวทั้งของไทยและเขมร
00 ล่าสุดมีรายงานเข้ามาแล้วว่า “เสี่ยเหลี่ยม” ได้ตัดกำหนดการลงไปหลายอย่าง และร่นเวลาการพำนักอยู่ที่นั่นจนถึงแค่วันที่ 20 ก.ย.เท่านั้น จากเดิมจะอยู่ถึงวันที่ 24 ก.ย. อาจเป็นเพราะทุกอย่างได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว หรือเมื่อสำรวจกระแสผลออกมากลายเป็นลบ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจความรู้สึกของชาวบ้านออกมาไม่ดีนัก เพราะรู้ทันว่ามีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน
00 การท้าทายของ โฆษกส่วนตัว คือ นพดล ปัทมะ ว่าให้ ปชป.หาหลักฐานมาให้ได้ว่าทักษิณ มีผลประโยชน์ในธุรกิจน้ำมันในอ่าวไทย หากทำได้จะให้รางวัล 40 ล้านบาทนั้นมันก็พูดกันไปเรื่อย ของอย่างนี้ใครจะทะเร่อทะร่าเล่นกันตรงๆโฉ่งฉ่างแบบนั้น แต่เอาเถอะไม่ว่ากัน เชื่อว่าอีกไม่นานความจริงมันก็ต้องปรากฏออกมาวันยังค่ำ ไม่ว่าจะเป็นในแบบ “นอมินี” หรือแบบไหนของอย่างนี้ปิดกันไม่มิดหรอก
00 น่าจับตาก็คือคำพูดของ “แม้ว” ที่กล่าวกับลิ่วล้อที่เข้าไปพบแล้วมีการอ้างอิงว่า จะกลับบ้านมากิน “ส้มตำ” ในเร็วๆนี้ ขณะเดียวกันก็มีข่าวประกบเข้ามาทันทีว่า นายกฯปู โทรศัพท์ไปหาและได้รับคำชมว่า “ตั้งใจทำงานหนัก” มันก็ทำให้หลายคนมองว่านี่คือการ “ส่งสัญญาณ” แบบ “ก๊อกสอง” เข้ามาถึงบรรดาสาวกให้อดทนรออีกนิด ทำนองว่าอีกไม่นาน “ตัวจริง” จะกลับมา อย่าเพิ่ง “เปลี่ยนใจ” เป็นอื่นเสียก่อน หลังจากเริ่มเห็นแล้วว่า “น้องปู” เริ่มเป๋ เดินไม่ตรงทางก่อนเวลาอันควร ทำท่าว่าอาจไปไม่เป็นก่อนถึง 6 เดือนด้วยซ้ำไป ดูได้จากผลงานทั้งของรัฐบาลที่มีสาเหตุจากนโยบายที่คุยโม้เอาไว้ทำได้ไม่ครบ ปัญหาน้ำท่วมที่หนักหนาสาหัส ภาวะผู้นำไม่มี ยังติดภาพท่องสคิปต์ มันก็ทำให้เสียงเชียร์เริ่มฝ่อลงไปไม่น้อย และที่สำคัญระยะเวลารัฐบาลเพียงแค่เดือนกว่า แต่รูปการณ์มันเหมือนกับผ่านมานานนับปีไม่มีผิด
00 ไม่เชื่อลองสังเกตผลงานของบรรดารมต.ดูก็ได้ว่ามีใครที่มีผลงาน มีความคิดเข้าตาชาวบ้านมั่ง ตัวอย่างเช่น รมว.สาธารณสุข วิทยา บูรณศิริ ที่เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมแทบจะทั่วประเทศ กลับกลายเป็นว่าวันทั้งวันป้วนเปี้ยนอยู่แต่อยุธยา จังหวัดฐานเสียงตัวเอง แทบจะไม่ต่อยเห็นย่างกรายไปที่อื่นบ้าง ข่าวคราวก็ไม่เห็นมี ไม่ต่างจาก ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ที่ตามตำแหน่งต้องเป็น “แม่งานใหญ่” แก้ปัญหาน้ำท่วม แต่ยังทำงานไม่ต่างจากข้าราชการประจำเรื่อยๆมาเรียงๆ ไร้ความรู้สึกเสียจริงๆ
00 เสร็จสิ้นกันไปแล้วกับการชุมนุมรำลึกครบรอบ 5 ปี รัฐประหาร 19 ก.ย.49 บรรดา “หัวโจก” สีแดง ทั้ง วีระ(กานต์) มุสิกพงษ์ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ เป็นต้น วิ่งรอกจากการไปเคล้าเคลียแข้งขา ฮุนเซน-ทักษิณ ที่พนมเปญบึ่งมาขึ้นเวทีกันครบครัน น่าสนใจตรงเรื่องที่ปูดข่าวสำคัญว่าสิ้นปีนี้ “อำมาตย์” อาจปฏิวัติรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขึ้นมาอีก ซึ่งนาทีนี้จะมีหรือไม่ไม่รู้ แต่ว่าถ้ายังบริหารบ้านเมือง “ห่วยแตก” เอาแต่ประโยชน์พวกพ้อง ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าโจรครองเมืองแบบนี้ มันก็ไม่นานหรอก !!
00 แม้ว่าหากมองอีกด้านหนึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามีแต้มบวกหรือลบกันแน่ เพราะการเดินทางไปเยือนเขมรเที่ยวนี้ยิ่งตอกย้ำ “ความระแวง” ในเรื่องการรวมหัวกับ “ฮุบผลประโยชน์น้ำมัน” ในอ่าวไทย และทุกอย่างเริ่มเข้าเค้ามากขึ้นเมื่อมีการเข้าพบหารือกันระหว่าง “ซีอีโอเชฟรอน” บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอเมริกา กับนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำเนียบฯหลังจากเธอเดินทางกลับจากเขมรเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น และที่ผ่านมาบริษัทนี้แหละที่มีข่าวคราวได้รับสัมปทานสำรวจน้ำมันในแหล่งดังกล่าวทั้งของไทยและเขมร
00 ล่าสุดมีรายงานเข้ามาแล้วว่า “เสี่ยเหลี่ยม” ได้ตัดกำหนดการลงไปหลายอย่าง และร่นเวลาการพำนักอยู่ที่นั่นจนถึงแค่วันที่ 20 ก.ย.เท่านั้น จากเดิมจะอยู่ถึงวันที่ 24 ก.ย. อาจเป็นเพราะทุกอย่างได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว หรือเมื่อสำรวจกระแสผลออกมากลายเป็นลบ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจความรู้สึกของชาวบ้านออกมาไม่ดีนัก เพราะรู้ทันว่ามีเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน
00 การท้าทายของ โฆษกส่วนตัว คือ นพดล ปัทมะ ว่าให้ ปชป.หาหลักฐานมาให้ได้ว่าทักษิณ มีผลประโยชน์ในธุรกิจน้ำมันในอ่าวไทย หากทำได้จะให้รางวัล 40 ล้านบาทนั้นมันก็พูดกันไปเรื่อย ของอย่างนี้ใครจะทะเร่อทะร่าเล่นกันตรงๆโฉ่งฉ่างแบบนั้น แต่เอาเถอะไม่ว่ากัน เชื่อว่าอีกไม่นานความจริงมันก็ต้องปรากฏออกมาวันยังค่ำ ไม่ว่าจะเป็นในแบบ “นอมินี” หรือแบบไหนของอย่างนี้ปิดกันไม่มิดหรอก
00 น่าจับตาก็คือคำพูดของ “แม้ว” ที่กล่าวกับลิ่วล้อที่เข้าไปพบแล้วมีการอ้างอิงว่า จะกลับบ้านมากิน “ส้มตำ” ในเร็วๆนี้ ขณะเดียวกันก็มีข่าวประกบเข้ามาทันทีว่า นายกฯปู โทรศัพท์ไปหาและได้รับคำชมว่า “ตั้งใจทำงานหนัก” มันก็ทำให้หลายคนมองว่านี่คือการ “ส่งสัญญาณ” แบบ “ก๊อกสอง” เข้ามาถึงบรรดาสาวกให้อดทนรออีกนิด ทำนองว่าอีกไม่นาน “ตัวจริง” จะกลับมา อย่าเพิ่ง “เปลี่ยนใจ” เป็นอื่นเสียก่อน หลังจากเริ่มเห็นแล้วว่า “น้องปู” เริ่มเป๋ เดินไม่ตรงทางก่อนเวลาอันควร ทำท่าว่าอาจไปไม่เป็นก่อนถึง 6 เดือนด้วยซ้ำไป ดูได้จากผลงานทั้งของรัฐบาลที่มีสาเหตุจากนโยบายที่คุยโม้เอาไว้ทำได้ไม่ครบ ปัญหาน้ำท่วมที่หนักหนาสาหัส ภาวะผู้นำไม่มี ยังติดภาพท่องสคิปต์ มันก็ทำให้เสียงเชียร์เริ่มฝ่อลงไปไม่น้อย และที่สำคัญระยะเวลารัฐบาลเพียงแค่เดือนกว่า แต่รูปการณ์มันเหมือนกับผ่านมานานนับปีไม่มีผิด
00 ไม่เชื่อลองสังเกตผลงานของบรรดารมต.ดูก็ได้ว่ามีใครที่มีผลงาน มีความคิดเข้าตาชาวบ้านมั่ง ตัวอย่างเช่น รมว.สาธารณสุข วิทยา บูรณศิริ ที่เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมแทบจะทั่วประเทศ กลับกลายเป็นว่าวันทั้งวันป้วนเปี้ยนอยู่แต่อยุธยา จังหวัดฐานเสียงตัวเอง แทบจะไม่ต่อยเห็นย่างกรายไปที่อื่นบ้าง ข่าวคราวก็ไม่เห็นมี ไม่ต่างจาก ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ที่ตามตำแหน่งต้องเป็น “แม่งานใหญ่” แก้ปัญหาน้ำท่วม แต่ยังทำงานไม่ต่างจากข้าราชการประจำเรื่อยๆมาเรียงๆ ไร้ความรู้สึกเสียจริงๆ
00 เสร็จสิ้นกันไปแล้วกับการชุมนุมรำลึกครบรอบ 5 ปี รัฐประหาร 19 ก.ย.49 บรรดา “หัวโจก” สีแดง ทั้ง วีระ(กานต์) มุสิกพงษ์ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ เป็นต้น วิ่งรอกจากการไปเคล้าเคลียแข้งขา ฮุนเซน-ทักษิณ ที่พนมเปญบึ่งมาขึ้นเวทีกันครบครัน น่าสนใจตรงเรื่องที่ปูดข่าวสำคัญว่าสิ้นปีนี้ “อำมาตย์” อาจปฏิวัติรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขึ้นมาอีก ซึ่งนาทีนี้จะมีหรือไม่ไม่รู้ แต่ว่าถ้ายังบริหารบ้านเมือง “ห่วยแตก” เอาแต่ประโยชน์พวกพ้อง ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าโจรครองเมืองแบบนี้ มันก็ไม่นานหรอก !!
