ล่าสุดนายสมศักดิ์ ได้กำชับสำนักรักษาความปลอดภัย สำนักงานเลขาธิการสภาฯให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น หลังจากที่มีสมาชิกรัฐสภาจำนวนมากโดยเฉพาะ ส.ส.ได้ร้องเรียนว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณชั้น 2 ของอาคารรัฐสภา 1 ซึ่งเป็นห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ ได้ประสานงานผ่านทางวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน ขอความร่วมมือไม่ให้ผู้ติดตามขึ้นไปยังบริเวณดังกล่าว เนื่องจากบริเวณรอบห้องประชุมสภาฯเป็นสถานที่รับรองบุคคลสำคัญจำนวนมาก ทั้งนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และเลขาธิการสภาฯ
อย่างไรก็ตาม ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ติดตาม ส.ส.ดำเนินการติดต่อขอทำบัตรเข้า-ออก อาคารรัฐสภาใหม่พร้อมกับขอกำหนดให้อยู่บริเวณชั้น 1 เท่านั้น รวมทั้งไม่อนุญาตให้ผู้ที่พกบัตรผ่านเข้า-ออกของสภาฯ ที่ทำก่อน พ.ศ.2554 เข้ามาภายในบริเวณรัฐสภาเด็ดขาด ยกเว้นจะมีการนำบัตรที่ออกโดยทางราชการ ไปแลกบัตรผ่านที่บริเวณกองรักษาการณ์เท่านั้น
ขณะเดียวกัน มี ส.ส.จำนวนมากได้มาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาว่า ได้มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นผู้สื่อข่าว 3-4 คน แขวนบัตรสื่อมวลชน ที่ออกโดยกรมประชาสัมพันธ์ กระทำการเป็นขบวนการ เข้ามารีดไถเงิน ส.ส. - ส.ว. ภายในบริเวณสโมสรรัฐสภา โดย“กลุ่มนักข่าวผี” มีพฤติกรรมด้วยการนำภาพของส.ส.และบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ถ่ายตามวาระงานต่างๆ มาให้ และเมื่อมีการยื่นรูปให้ ส.ส. ก็จะเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงิน 500-1,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งสร้างความไม่พอใจกับ ส.ส.เป็นจำนวนมาก แต่ส.ส.ก็ตัดความรำคาญให้เงินไป และหลีกเลี่ยงไม่ไปรับประทาน ที่สโมรสรรัฐสภา ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการร้านอาหารภายในสโมสรฯ
เมื่อตัวแทนผู้ประกอบการได้เข้าไปร้องเรียนต่อนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนายกสโมสรรัฐสภา ปรากฏว่า นายพิเชษฐ์ ได้แจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการอะไร เพราะเป็นที่สาธารณะ ประกอบกับยังไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ อย่างเป็นทางการ ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าไปดูแล
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการได้เข้ามาร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ต้องการให้ นายสมศักดิ์ ประธานรัฐสภา สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงเข้ามาดูแลกลุ่ม “นักข่าวผี”เป็นการชั่วคราวก่อน ระหว่างที่รอการตั้งกมธ.กิจการสภาฯ อย่างเป็นทางการ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหานี้
นอกจากนี้ ได้ประสานงานผ่านทางวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน ขอความร่วมมือไม่ให้ผู้ติดตามขึ้นไปยังบริเวณดังกล่าว เนื่องจากบริเวณรอบห้องประชุมสภาฯเป็นสถานที่รับรองบุคคลสำคัญจำนวนมาก ทั้งนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และเลขาธิการสภาฯ
อย่างไรก็ตาม ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ติดตาม ส.ส.ดำเนินการติดต่อขอทำบัตรเข้า-ออก อาคารรัฐสภาใหม่พร้อมกับขอกำหนดให้อยู่บริเวณชั้น 1 เท่านั้น รวมทั้งไม่อนุญาตให้ผู้ที่พกบัตรผ่านเข้า-ออกของสภาฯ ที่ทำก่อน พ.ศ.2554 เข้ามาภายในบริเวณรัฐสภาเด็ดขาด ยกเว้นจะมีการนำบัตรที่ออกโดยทางราชการ ไปแลกบัตรผ่านที่บริเวณกองรักษาการณ์เท่านั้น
ขณะเดียวกัน มี ส.ส.จำนวนมากได้มาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาว่า ได้มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นผู้สื่อข่าว 3-4 คน แขวนบัตรสื่อมวลชน ที่ออกโดยกรมประชาสัมพันธ์ กระทำการเป็นขบวนการ เข้ามารีดไถเงิน ส.ส. - ส.ว. ภายในบริเวณสโมสรรัฐสภา โดย“กลุ่มนักข่าวผี” มีพฤติกรรมด้วยการนำภาพของส.ส.และบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ถ่ายตามวาระงานต่างๆ มาให้ และเมื่อมีการยื่นรูปให้ ส.ส. ก็จะเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงิน 500-1,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งสร้างความไม่พอใจกับ ส.ส.เป็นจำนวนมาก แต่ส.ส.ก็ตัดความรำคาญให้เงินไป และหลีกเลี่ยงไม่ไปรับประทาน ที่สโมรสรรัฐสภา ส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการร้านอาหารภายในสโมสรฯ
เมื่อตัวแทนผู้ประกอบการได้เข้าไปร้องเรียนต่อนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนายกสโมสรรัฐสภา ปรากฏว่า นายพิเชษฐ์ ได้แจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการอะไร เพราะเป็นที่สาธารณะ ประกอบกับยังไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ อย่างเป็นทางการ ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าไปดูแล
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการได้เข้ามาร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ต้องการให้ นายสมศักดิ์ ประธานรัฐสภา สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงเข้ามาดูแลกลุ่ม “นักข่าวผี”เป็นการชั่วคราวก่อน ระหว่างที่รอการตั้งกมธ.กิจการสภาฯ อย่างเป็นทางการ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหานี้