นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี การจัดสรรตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญ จำนวน 35 คณะของสภาผู้แทนราษฎรว่า จากการเจรจากับตัวแทนพรรคการเมือง ล่าสุดขณะนี้ 3 พรรคเล็กคือ พรรครักประเทศไทย พรรคมาตุภูมิ และพรรครักษ์สันติ ยินยอมไม่ขอรับตำแหน่งประธานกรรมาธิการ 1 เก้าอี้ โดยจะไม่ต่อรองเพื่อไปรวมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว
จึงทำให้ได้ข้อสรุปเรื่องเก้าอี้ประธานกรรมาธิการฯว่า พรรคเพื่อไทยได้ 19 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 11 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และพรรคพลังชล พรรคละ 1 ที่นั่ง
แต่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แจ้งความประสงค์ว่า มีความชอบงานด้านตำรวจ ดังนั้นจะประสานให้นายชูวิทย์ ได้เป็นรองประธานกรรมาธิการตำรวจ คนที่ 1 ส่วนพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทหาร จะให้เป็นประธานที่ปรึกษากรรมาธิการทหาร ส่วนร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ หัวหน้าพรรครักษ์สันติ ก็จะให้เป็นประธานที่ปรึกษากรรมาธิการคณะใดคณะหนึ่ง
นายเจริญ กล่าวว่า ในวันที่ 21 ก.ย. จะนัดวิปจากพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ มาหารือนอกรอบ เพื่อตกลงเรื่องวิธีการคัดเลือกประธานกรรมาธิการ และการจัดสรรเก้าอี้ประธานกรรมาธิการฯ ที่ยังตกลงกันไม่ได้ เพราะทั้งสองพรรคมีความต้องการอยากได้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการตรงกัน 4 คณะ คือ คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และ คณะกรรมาธิการต่างประเทศ
ทั้งนี้ หากสองพรรคตกลงกันได้ ก็จะเรียกวิปทุกพรรคมาหารืออย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย. เพื่อจัดสรรเก้าอี้ประธานกรรมาธิการ คาดว่าจะได้ตัวประธานกรรมาธิการทุกคณะในต้นเดือนต.ค. จากนั้นจะเรียก ว่าที่ประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ มาทำความเข้าใจขอบเขตอำนาจ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ ที่มอบอำนาจให้ประธานกรรมาธิการแต่ละคณะ เป็นผู้ลงนามเรียกบุคคลต่างๆมาให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการฯ
จึงทำให้ได้ข้อสรุปเรื่องเก้าอี้ประธานกรรมาธิการฯว่า พรรคเพื่อไทยได้ 19 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 11 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และพรรคพลังชล พรรคละ 1 ที่นั่ง
แต่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แจ้งความประสงค์ว่า มีความชอบงานด้านตำรวจ ดังนั้นจะประสานให้นายชูวิทย์ ได้เป็นรองประธานกรรมาธิการตำรวจ คนที่ 1 ส่วนพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทหาร จะให้เป็นประธานที่ปรึกษากรรมาธิการทหาร ส่วนร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ หัวหน้าพรรครักษ์สันติ ก็จะให้เป็นประธานที่ปรึกษากรรมาธิการคณะใดคณะหนึ่ง
นายเจริญ กล่าวว่า ในวันที่ 21 ก.ย. จะนัดวิปจากพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ มาหารือนอกรอบ เพื่อตกลงเรื่องวิธีการคัดเลือกประธานกรรมาธิการ และการจัดสรรเก้าอี้ประธานกรรมาธิการฯ ที่ยังตกลงกันไม่ได้ เพราะทั้งสองพรรคมีความต้องการอยากได้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการตรงกัน 4 คณะ คือ คณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และ คณะกรรมาธิการต่างประเทศ
ทั้งนี้ หากสองพรรคตกลงกันได้ ก็จะเรียกวิปทุกพรรคมาหารืออย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย. เพื่อจัดสรรเก้าอี้ประธานกรรมาธิการ คาดว่าจะได้ตัวประธานกรรมาธิการทุกคณะในต้นเดือนต.ค. จากนั้นจะเรียก ว่าที่ประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ มาทำความเข้าใจขอบเขตอำนาจ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ ที่มอบอำนาจให้ประธานกรรมาธิการแต่ละคณะ เป็นผู้ลงนามเรียกบุคคลต่างๆมาให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการฯ
