นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการการไต่สวนขึ้นมาพิจารณากรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยว่า เป็นการตั้งประเด็นเพื่อดูว่า ถ้าจะส่งให้ประธานสภาฯ ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 91 นั้น ทางกกต.จะต้องชี้ว่านายจตุพร สิ้นสุดความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) หรือไม่ ด้วยเหตุที่ต้องคุมขังโดยหมายของศาล และเป็นเหตุให้ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ทั้งนี้เพื่อความรอบคอบก่อนที่จะส่งเรื่องไปยังประธานสภาฯเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
นายสมชัย กล่าวว่า โดยส่วนตนที่ให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมานั้น เห็นว่า เราควรที่จะต้องมาดูในเรื่องของการส่งเรื่องไปยังประธานสภาฯ ซึ่งต้องเป็นประเด็นตามมาตรา 106 ของรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการสิ้นสุดของสาเหตุการสิ้นสภาพความเป็นส.ส.สิ้นสุดลงด้วยเหตุใด ไม่ใช่จะพิจารณาตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 8,19,20 เท่านั้น เพราะพ.ร.บ.พรรคการเมือง นั้น เป็นการชี้เรื่องของความเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น
"ความเห็นของผม ถ้าดูตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 แล้ว นายจตุพรไม่น่าจะสิ้นสภาพความเป็นส.ส. ซึ่งเป็นความเห็นเบื้องต้นในขณะนี้ การตั้งกรรมการขึ้นมาของกกต.นั้น ไม่ใช่การหาประเด็นเพื่อช่วยนายจตุพร หรือยื้อเรื่องนี้ออกไปอีก เราต้องทำให้รอบคอบ เพราะเราไม่อยากถูกฟ้อง"นายสมชัย กล่าว และว่าเมื่อคณะกรรมการไต่สวนสอบมาแล้วนำมาเสนอ เราก็ต้องมาดูข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการลงมติว่า จะส่งกรณีนายจตุพรให้ประธานรัฐสภา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความสิ้นสุดความเป็น ส.ส.หรือไม่
**กกต.เปิดรับสมัครนศ.พตส.รุ่น 3
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ร่วมกับนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมือง และการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่น 2 อาทิ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีตส.ว. นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร นางอนุสรา ยังตรง ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าว เปิดหลักสูตร พตส.รุ่น 3 ประจำปี 2554
นางสดศรี กล่าวว่า สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งกกต. ได้จัดให้มีหลักสูตร พตส. มาตั้งแต่ ปี 52 โดยมีพตส.มา 2 รุ่นแล้ว โดยหลักสูตรดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย การมีส่วนร่วมทางการเมือง ตามรูปแบบของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้นักการเมือง ผู้บริหารพรรคการเมือง นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง การปกครองและการเลือกตั้ง ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง การปกครอง และการเลือกตั้ง ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี สามารถเข้ารับการอบรวมได้ โดยในปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 และได้เปิดรับสมัครในระหว่างวันที่ 15-30 ก.ย.นี้ จำนวน 80 คน เป็นนักการเมือง 40 คน และบุคคลทั่วไป ผู้บริหารภาครัฐและเอกชน 40 คน ทั้งนี้ ในปีนี้การอบรมจะมีความเข้มข้น ทั้งแนวคิด ทฤษฏีและการปฏิบัติ
นายสมชัย กล่าวว่า โดยส่วนตนที่ให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมานั้น เห็นว่า เราควรที่จะต้องมาดูในเรื่องของการส่งเรื่องไปยังประธานสภาฯ ซึ่งต้องเป็นประเด็นตามมาตรา 106 ของรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการสิ้นสุดของสาเหตุการสิ้นสภาพความเป็นส.ส.สิ้นสุดลงด้วยเหตุใด ไม่ใช่จะพิจารณาตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 8,19,20 เท่านั้น เพราะพ.ร.บ.พรรคการเมือง นั้น เป็นการชี้เรื่องของความเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น
"ความเห็นของผม ถ้าดูตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 แล้ว นายจตุพรไม่น่าจะสิ้นสภาพความเป็นส.ส. ซึ่งเป็นความเห็นเบื้องต้นในขณะนี้ การตั้งกรรมการขึ้นมาของกกต.นั้น ไม่ใช่การหาประเด็นเพื่อช่วยนายจตุพร หรือยื้อเรื่องนี้ออกไปอีก เราต้องทำให้รอบคอบ เพราะเราไม่อยากถูกฟ้อง"นายสมชัย กล่าว และว่าเมื่อคณะกรรมการไต่สวนสอบมาแล้วนำมาเสนอ เราก็ต้องมาดูข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการลงมติว่า จะส่งกรณีนายจตุพรให้ประธานรัฐสภา เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความสิ้นสุดความเป็น ส.ส.หรือไม่
**กกต.เปิดรับสมัครนศ.พตส.รุ่น 3
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง ร่วมกับนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมือง และการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่น 2 อาทิ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีตส.ว. นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร นางอนุสรา ยังตรง ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าว เปิดหลักสูตร พตส.รุ่น 3 ประจำปี 2554
นางสดศรี กล่าวว่า สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งกกต. ได้จัดให้มีหลักสูตร พตส. มาตั้งแต่ ปี 52 โดยมีพตส.มา 2 รุ่นแล้ว โดยหลักสูตรดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมาย การมีส่วนร่วมทางการเมือง ตามรูปแบบของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวได้เปิดโอกาสให้นักการเมือง ผู้บริหารพรรคการเมือง นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง การปกครองและการเลือกตั้ง ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง การปกครอง และการเลือกตั้ง ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี สามารถเข้ารับการอบรวมได้ โดยในปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 และได้เปิดรับสมัครในระหว่างวันที่ 15-30 ก.ย.นี้ จำนวน 80 คน เป็นนักการเมือง 40 คน และบุคคลทั่วไป ผู้บริหารภาครัฐและเอกชน 40 คน ทั้งนี้ ในปีนี้การอบรมจะมีความเข้มข้น ทั้งแนวคิด ทฤษฏีและการปฏิบัติ
