ASTVผู้จัดการรายวัน- "ถวิล"รายงานตัว"โกวิท" พร้อมยื่นใบลาพักร้อน 1 สัปดาห์ เตรียมร้อง ก.พ.ค.สัปดาห์หน้า เมิน"เหลิม" ชวนกินข้าวบอกกินกับเมียสบายใจกว่า ขณะที่ ขรก.สมช. ร่อนหนังสือคัดค้านเด้ง "ถวิล" พร้อมแสดงเจตนารมย์ ไม่เอาเลขาฯ คนนอก
เมื่อเช้าวานนี้ (9 ก.ย.) นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ได้เข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานตัว ในฐานะที่ พล.ต.อ.โกวิท เป็นผู้บังคับบัญชาในตำแหน่งใหม่ และได้ยื่นขอลาพักร้อน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ นายถวิล กล่าวว่าตั้งแต่ทำงานมา 20 ปี ไม่เคยลาพักร้อนเลย
นายถวิล กล่าวถึงการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ที่ถูกโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรมว่า จะยื่นให้เร็วที่สุด อาจจะเป็นวันจันทร์ที่ 12 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำร้องที่จะยื่นต่อ ก.พ.ค.คืบหน้าถึงไหน และมีประเด็นอะไรบ้าง นายถวิล กล่าวว่า ก็จะเขียนไปในเบื้องต้นก่อน ส่วนข้อมูล หรือเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมก็จะส่งตามไป หรืออาจจะไปชี้แจงด้วยตนเองด้วย
** ตอก"เหลิม"หาเรื่องกฎแห่งกรรม
"ผมมีนิดนึงที่อยากจะบอก ตอนนี้เรื่องของการบริหารจบแล้ว มติครม.มีผลแล้ว ผมไปเป็นตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯแล้ว ก็คิดว่าน่าจะจบ แต่เมื่อวานรองนายกฯเฉลิม ยังพูดถึงผมอีก และผมก็เห็นว่ามันเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และอาจไปกระทบกับอีกหลายๆ ท่าน ที่สำคัญไปพูดถึงบุคคลที่สามด้วย โดยพูดในทำนองที่ว่า ผมมาไม่ถูกต้องในตำแหน่งเลขาฯสมช. เพราะฉะนั้นก็ต้องไป คือทำนองว่ามาทางไหนก็ไปทางนั้น โดยมาย้อนผมที่พูดถึงเรื่องของกฎแห่งกรรม ผมขอเรียนว่า ถ้ากฎแห่งกรรมเป็นเรื่องนี้ ผมต้องไม่อยู่ในกรณีนี้ เพราะผมรับราชการมาใน สมช. 30 ปี และขึ้นมาตามลำดับขั้น ไม่ได้ไปสร้างปัญหาให้คนอื่นหรือไปเบียดบังอะไรต่างๆ แต่รองฯเฉลิม ซึ่งผมไม่อยากให้ไปกระทบคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเลขาฯ คนก่อนหรือรองเลขาฯ ที่ได้รับคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งที่สมช.แล้วมาที่นี่ ซึ่งอาจจะเป็นทหารบ้างอะไรบ้าง แต่ไม่ใช่ผมที่อยู่ในสมช.มา 30 ปี เพราะฉะนั้นกฎแห่งกรรมอันนี้ ผมรับไม่ได้" นายถวิล กล่าว
นายถวิล กล่าวต่อว่า จากนี้ตนจะไม่ตอบโต้อะไรอีก จากนี้ก็จะเป็นเรื่องระหว่างตนกับนายกฯ ที่จะต้องไปต่อสู้กันที่ก.พ.ค. ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ดุลยพินิจของก.พ.ค. ส่วนที่มีการกล่าวอ้างถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ก็กรุณาพูดถึงตนเยอะ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการพูดคุยกับนายกฯ ถึงงานในตำแหน่งใหม่
**เมิน"เหลิม"นัดเลี้ยงข้าว
เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะนัดรับประทานอาหาร นายถวิล กล่าวว่า "ผมไม่กล้าไปทานกับท่านหรอก ผมคงไม่ได้รับเกียรติถึงขนาดนั้น ตอนนี้ทานข้าวที่บ้านกับภรรยาสองคนก็สบายใจแล้ว"
เมื่อถามว่า จะฟ้องร้อง ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยหรือไม่นายถวิล กล่าวว่า "ไม่หรอก ผมไม่ไปฟ้องร้องอะไรทั้งนั้น ไม่มีอะไรเสื่อมเสียเพียงแต่ว่ามีข้อมูลที่ผิด ผมก็เกรงว่าต่อไปท่านอาจจะไปเป็นนายกฯแล้วอาจจะได้ข้อมูลที่ผิดๆ อาจจะทำให้เกิดความไขว้เขว" นายถวิล กล่าว
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ว่า นายถวิล ออกมาระบุว่า จะเดินหน้าร้องนายกรัฐมนตรี และในคำร้องที่ยื่นต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม( ก.พ.ค.) ว่าจะต้องมีระบุชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม และขอให้ท่านหยุดวิพากษ์วิจารณ์ โดยกล่าวแต่เพียงว่า ขอบคุณที่แนะนำ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่พูดแล้วกัน ที่ถามมา ก็ไม่ตอบ
** ข้าราชการสมช. ไม่เอาเลขาฯคนนอก
ด้านข้าราชการจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ทำหนังสือถึงพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ พร้อมทั้งแจกเอกสารดังกล่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีความเห็นชอบของข้าราชการสมช. ต่อการเปลี่ยนตัวเลขาสมช. ว่า ตามมติ ครม. ให้ย้ายนายถวิล ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ โดยจากการให้สัมภาษณ์ของฝ่ายการเมืองอ้างว่า เป็นการย้ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมนั้น ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สมช. ขอเรียนถึงข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะของความเป็นข้าราชการ สมช. และขออนุญาตสะท้อนข้อกังวลใจของข้าราชการและเจ้าหน้าที่สมช. ต่อการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของสมช.คือ
1.สมช.เป็นกลไกตัดสินใจทางนโยบาย เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ โดย สมช.ทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการศึกษา วิเคราะห์ ให้ข้อมูลเสนอแนะในการรักษาผลประโยชน์สมช.ในรูปแบบของนโยบาย และยุทธศาสตร์ รวมทั้งประสานกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อดำเนินการตามนโยบายอย่างประสานสอดคล้อง และเกิดผลดีต่อความมั่นคงของชาติ
2. ข้าราชการ สมช.ได้สืบทอดพระราชประสงค์ของรัชกาที่ 6 ผู้ก่อตั้งการป้องกันราชอาณาจักร ซึ่งได้พัฒนามาเป็น สมช. ในการดำเนินภารกิจด้านการป้องกันประเทศให้เป็นไปอย่างละเอียด รอบคอบ และมีประสิทธิภาพ และการที่กลไกสำคัญนี้สามารถนำพาประเทศชาติให้รอดพ้นจากภัยคุกคามความมั่นคงที่มีความรุนแรงได้จนมาถึงทุกปัจจุบัน ก็เนื่องจากข้าราชการของ สมช.ถูกหล่อหลอมอุดมการณ์ในการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ กล่าวได้ว่า ข้าราชการสมช.เป็นกลุ่มข้าราชการที่ได้รับการฝึกฝนให้ทำงานด้านความคิดในเชิงยุทธศาสตร์ มีความเป็นมืออาชีพ ได้รับความเชื่อถือจากทุกภาคส่วน สามารถประสานระหว่างข้าราชการฝ่ายต่างๆ ให้งานความมั่นคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีการเรียนรู้ปรับกระบวนการการทำงาน วิธีคิดบริหารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา3. การย้ายเลขาฯสมช. ซึ่งเป็นข้าราชการที่ทำงานใน สมช.มาตั้งแต่ต้น ถือเป็นครั้งแรก ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของ สมช. แม้ที่ผ่านมาจะมีการย้ายอดีตเลขาฯสมช. และรองเลขาฯสมช. ไปประจำที่อื่น แต่ท่านเหล่านั้นเป็นบุคคลภายนอกที่เข้ามารับตำแหน่งด้วยเหตุผลทางการเมือง กรณีที่เกิดขึ้นจึงมีผลกระทบต่อขวัญ และกำลังใจของข้าราชการทุกคน
4. ในฐานะข้าราชการประจำ และทำงานให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานสมช.โดยตำแหน่ง พวกเราเคารพการตัดสินใจของนายกฯ ในการเปลี่ยนแปลงเลขาฯสมช. อย่างไรก็ตาม พวกเราคาดหวังเป็นอย่างสูงว่า นายกฯ จะรับฟังความเห็นโดยบริสุทธิ์ใจของข้าราชการอย่างพวกเราว่าไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของการโยกย้ายที่เกิดขึ้น
5. รัฐบาลได้กำหนดให้มีนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ และนโยบายการแก้ปัญหาความมั่นคงที่เป็นวาระเร่งด่วน ไว้ในแผนบริหาราชการแผ่นดิน ซึ่งส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบของ สมช. เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าราชการสมช. จึงหวังว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขวัญ กำลังใจ สนับสนุนการทำงานของข้าราชการ สมช. และที่สำคัญคือ หลักประกันว่าจะไม่มีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาทำงานในสมช. อีก
6. ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สมช.ขอยืนยันว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเราจะมุ่งมั่นรับใช้ชาติบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ผดุงความยุติธรรมของสังคมเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
ทั้งนี้ เอกสารลงนามโดยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สมช.
** "ปู" อ้างยังไม่สรุปเอาคนใน-คนนอก
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณี ขรก.สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำหนังสือแสดงความเห็นต่อการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเลขาฯสมช. ว่า ตนเคารพการตัดสินใจของทุกท่าน รวมถึงข้อห่วงใย แต่การโยกย้ายครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง เพราะในส่วนของความมั่นคงที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ดูแลอยู่ ยังมีเนื้องาน ซึ่ง นายถวิล เป็นคนที่มีความสามารถ ที่อยากให้ท่านเข้ามาแนะนำ ในส่วนของความมั่นคง ซึ่งนายถวิล จะเข้ามาดูแลในส่วนของผู้อำนวยการด้านบูรณาการ และติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
เมื่อถามว่า เนื้อหาที่ข้าราชการสะท้อนให้เห็น แสดงให้เห็นถึงความต้องการลูกหม้อในองค์กร ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาสมช. ไม่ต้องการคนนอก นายกฯ กล่าวว่า เราจะพิจารณาให้ดี เลือกบุคคลให้เหมาะสม ให้ตรง ซึ่งวันนี้เองเป็นการปรับเปลี่ยนแปลงงานตามปกติ
เมื่อถามต่อว่า จะเป็นปัญหาหรือไม่ หากนำคนนอกเข้ามาดำรงตำแหน่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปพิจารณาว่าจะเป็นใคร แต่ตนเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถ ซึ่งจะต้องนำมาพิจารณาอีกครั้ง.
เมื่อเช้าวานนี้ (9 ก.ย.) นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ได้เข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานตัว ในฐานะที่ พล.ต.อ.โกวิท เป็นผู้บังคับบัญชาในตำแหน่งใหม่ และได้ยื่นขอลาพักร้อน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ นายถวิล กล่าวว่าตั้งแต่ทำงานมา 20 ปี ไม่เคยลาพักร้อนเลย
นายถวิล กล่าวถึงการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ที่ถูกโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรมว่า จะยื่นให้เร็วที่สุด อาจจะเป็นวันจันทร์ที่ 12 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำร้องที่จะยื่นต่อ ก.พ.ค.คืบหน้าถึงไหน และมีประเด็นอะไรบ้าง นายถวิล กล่าวว่า ก็จะเขียนไปในเบื้องต้นก่อน ส่วนข้อมูล หรือเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมก็จะส่งตามไป หรืออาจจะไปชี้แจงด้วยตนเองด้วย
** ตอก"เหลิม"หาเรื่องกฎแห่งกรรม
"ผมมีนิดนึงที่อยากจะบอก ตอนนี้เรื่องของการบริหารจบแล้ว มติครม.มีผลแล้ว ผมไปเป็นตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯแล้ว ก็คิดว่าน่าจะจบ แต่เมื่อวานรองนายกฯเฉลิม ยังพูดถึงผมอีก และผมก็เห็นว่ามันเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และอาจไปกระทบกับอีกหลายๆ ท่าน ที่สำคัญไปพูดถึงบุคคลที่สามด้วย โดยพูดในทำนองที่ว่า ผมมาไม่ถูกต้องในตำแหน่งเลขาฯสมช. เพราะฉะนั้นก็ต้องไป คือทำนองว่ามาทางไหนก็ไปทางนั้น โดยมาย้อนผมที่พูดถึงเรื่องของกฎแห่งกรรม ผมขอเรียนว่า ถ้ากฎแห่งกรรมเป็นเรื่องนี้ ผมต้องไม่อยู่ในกรณีนี้ เพราะผมรับราชการมาใน สมช. 30 ปี และขึ้นมาตามลำดับขั้น ไม่ได้ไปสร้างปัญหาให้คนอื่นหรือไปเบียดบังอะไรต่างๆ แต่รองฯเฉลิม ซึ่งผมไม่อยากให้ไปกระทบคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเลขาฯ คนก่อนหรือรองเลขาฯ ที่ได้รับคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งที่สมช.แล้วมาที่นี่ ซึ่งอาจจะเป็นทหารบ้างอะไรบ้าง แต่ไม่ใช่ผมที่อยู่ในสมช.มา 30 ปี เพราะฉะนั้นกฎแห่งกรรมอันนี้ ผมรับไม่ได้" นายถวิล กล่าว
นายถวิล กล่าวต่อว่า จากนี้ตนจะไม่ตอบโต้อะไรอีก จากนี้ก็จะเป็นเรื่องระหว่างตนกับนายกฯ ที่จะต้องไปต่อสู้กันที่ก.พ.ค. ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ดุลยพินิจของก.พ.ค. ส่วนที่มีการกล่าวอ้างถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ก็กรุณาพูดถึงตนเยอะ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการพูดคุยกับนายกฯ ถึงงานในตำแหน่งใหม่
**เมิน"เหลิม"นัดเลี้ยงข้าว
เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม จะนัดรับประทานอาหาร นายถวิล กล่าวว่า "ผมไม่กล้าไปทานกับท่านหรอก ผมคงไม่ได้รับเกียรติถึงขนาดนั้น ตอนนี้ทานข้าวที่บ้านกับภรรยาสองคนก็สบายใจแล้ว"
เมื่อถามว่า จะฟ้องร้อง ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยหรือไม่นายถวิล กล่าวว่า "ไม่หรอก ผมไม่ไปฟ้องร้องอะไรทั้งนั้น ไม่มีอะไรเสื่อมเสียเพียงแต่ว่ามีข้อมูลที่ผิด ผมก็เกรงว่าต่อไปท่านอาจจะไปเป็นนายกฯแล้วอาจจะได้ข้อมูลที่ผิดๆ อาจจะทำให้เกิดความไขว้เขว" นายถวิล กล่าว
ด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ว่า นายถวิล ออกมาระบุว่า จะเดินหน้าร้องนายกรัฐมนตรี และในคำร้องที่ยื่นต่อคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม( ก.พ.ค.) ว่าจะต้องมีระบุชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม และขอให้ท่านหยุดวิพากษ์วิจารณ์ โดยกล่าวแต่เพียงว่า ขอบคุณที่แนะนำ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่พูดแล้วกัน ที่ถามมา ก็ไม่ตอบ
** ข้าราชการสมช. ไม่เอาเลขาฯคนนอก
ด้านข้าราชการจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ทำหนังสือถึงพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ พร้อมทั้งแจกเอกสารดังกล่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีความเห็นชอบของข้าราชการสมช. ต่อการเปลี่ยนตัวเลขาสมช. ว่า ตามมติ ครม. ให้ย้ายนายถวิล ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ โดยจากการให้สัมภาษณ์ของฝ่ายการเมืองอ้างว่า เป็นการย้ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมนั้น ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สมช. ขอเรียนถึงข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณลักษณะของความเป็นข้าราชการ สมช. และขออนุญาตสะท้อนข้อกังวลใจของข้าราชการและเจ้าหน้าที่สมช. ต่อการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของสมช.คือ
1.สมช.เป็นกลไกตัดสินใจทางนโยบาย เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ โดย สมช.ทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการศึกษา วิเคราะห์ ให้ข้อมูลเสนอแนะในการรักษาผลประโยชน์สมช.ในรูปแบบของนโยบาย และยุทธศาสตร์ รวมทั้งประสานกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อดำเนินการตามนโยบายอย่างประสานสอดคล้อง และเกิดผลดีต่อความมั่นคงของชาติ
2. ข้าราชการ สมช.ได้สืบทอดพระราชประสงค์ของรัชกาที่ 6 ผู้ก่อตั้งการป้องกันราชอาณาจักร ซึ่งได้พัฒนามาเป็น สมช. ในการดำเนินภารกิจด้านการป้องกันประเทศให้เป็นไปอย่างละเอียด รอบคอบ และมีประสิทธิภาพ และการที่กลไกสำคัญนี้สามารถนำพาประเทศชาติให้รอดพ้นจากภัยคุกคามความมั่นคงที่มีความรุนแรงได้จนมาถึงทุกปัจจุบัน ก็เนื่องจากข้าราชการของ สมช.ถูกหล่อหลอมอุดมการณ์ในการทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ กล่าวได้ว่า ข้าราชการสมช.เป็นกลุ่มข้าราชการที่ได้รับการฝึกฝนให้ทำงานด้านความคิดในเชิงยุทธศาสตร์ มีความเป็นมืออาชีพ ได้รับความเชื่อถือจากทุกภาคส่วน สามารถประสานระหว่างข้าราชการฝ่ายต่างๆ ให้งานความมั่นคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีการเรียนรู้ปรับกระบวนการการทำงาน วิธีคิดบริหารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา3. การย้ายเลขาฯสมช. ซึ่งเป็นข้าราชการที่ทำงานใน สมช.มาตั้งแต่ต้น ถือเป็นครั้งแรก ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของ สมช. แม้ที่ผ่านมาจะมีการย้ายอดีตเลขาฯสมช. และรองเลขาฯสมช. ไปประจำที่อื่น แต่ท่านเหล่านั้นเป็นบุคคลภายนอกที่เข้ามารับตำแหน่งด้วยเหตุผลทางการเมือง กรณีที่เกิดขึ้นจึงมีผลกระทบต่อขวัญ และกำลังใจของข้าราชการทุกคน
4. ในฐานะข้าราชการประจำ และทำงานให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานสมช.โดยตำแหน่ง พวกเราเคารพการตัดสินใจของนายกฯ ในการเปลี่ยนแปลงเลขาฯสมช. อย่างไรก็ตาม พวกเราคาดหวังเป็นอย่างสูงว่า นายกฯ จะรับฟังความเห็นโดยบริสุทธิ์ใจของข้าราชการอย่างพวกเราว่าไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของการโยกย้ายที่เกิดขึ้น
5. รัฐบาลได้กำหนดให้มีนโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ และนโยบายการแก้ปัญหาความมั่นคงที่เป็นวาระเร่งด่วน ไว้ในแผนบริหาราชการแผ่นดิน ซึ่งส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับหน้าที่ความรับผิดชอบของ สมช. เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าราชการสมช. จึงหวังว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างขวัญ กำลังใจ สนับสนุนการทำงานของข้าราชการ สมช. และที่สำคัญคือ หลักประกันว่าจะไม่มีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาทำงานในสมช. อีก
6. ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สมช.ขอยืนยันว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเราจะมุ่งมั่นรับใช้ชาติบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ผดุงความยุติธรรมของสังคมเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
ทั้งนี้ เอกสารลงนามโดยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สมช.
** "ปู" อ้างยังไม่สรุปเอาคนใน-คนนอก
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณี ขรก.สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำหนังสือแสดงความเห็นต่อการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเลขาฯสมช. ว่า ตนเคารพการตัดสินใจของทุกท่าน รวมถึงข้อห่วงใย แต่การโยกย้ายครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง เพราะในส่วนของความมั่นคงที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ดูแลอยู่ ยังมีเนื้องาน ซึ่ง นายถวิล เป็นคนที่มีความสามารถ ที่อยากให้ท่านเข้ามาแนะนำ ในส่วนของความมั่นคง ซึ่งนายถวิล จะเข้ามาดูแลในส่วนของผู้อำนวยการด้านบูรณาการ และติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
เมื่อถามว่า เนื้อหาที่ข้าราชการสะท้อนให้เห็น แสดงให้เห็นถึงความต้องการลูกหม้อในองค์กร ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาสมช. ไม่ต้องการคนนอก นายกฯ กล่าวว่า เราจะพิจารณาให้ดี เลือกบุคคลให้เหมาะสม ให้ตรง ซึ่งวันนี้เองเป็นการปรับเปลี่ยนแปลงงานตามปกติ
เมื่อถามต่อว่า จะเป็นปัญหาหรือไม่ หากนำคนนอกเข้ามาดำรงตำแหน่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปพิจารณาว่าจะเป็นใคร แต่ตนเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถ ซึ่งจะต้องนำมาพิจารณาอีกครั้ง.