วันชาติจีนปีนี้ จีนเที่ยวไทยไม่หนำใจ เหตุเพราะคนไทยไปเที่ยวจีนน้อยกว่า ที.ซี.ที.เอ มั่นใจรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนไปลิ่ว คาดสิ้นปี แตะ 1.6 ล้านคน อ้อน "ชุมพล" เร่งยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่าเพื่อจูงใจ ด้าน ททท.อีสาน ชูโคราชเป็นกอล์ฟเดสติเนชั่นดึงจีน
นายเกษียร วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน หรือ ที.ซี.ที.เอ กล่าวว่า ช่วงวันชาติจีน 1 ตุลาคม ปีนี้ จำนวนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือ ชาร์เตอร์ไฟล์ท ที่จะนำนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเข้ามาประเทศไทย มีจำนวนไม่มากอย่างที่คิด เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะเดินทางในช่วงดังกล่าวมีจำนวน น้อยกว่าชาวจีนที่จะเดินทางเข้ามา ซึ่งการจัดชาร์เตอร์ไฟล์ จะต้องมีผู้โดยสาร ทั้งขาไปและขากลับ จึงจะคุ้มทุน
“ปีนี้คาดว่าจะมีชาร์เตอร์ไฟล์จากประเทศจีน เข้ามาในช่วงวันชาติ ราว 60 ลำ เพิ่มจากปีก่อน ที่มีราว 50 ลำ แต่ก็น้อยกว่าที่คาดว่าจะมามาก”
เหตุที่คนไทยเดินทางไปประเทศจีนน้อยลง เพราะช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา คนไทยเดินทางไปเที่ยวจีนมาก เพื่อไปดูกิจกรรมที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมระดับโลก หลายงาน เช่น การจัดแข่งกีฬาโอลิมปิก กรุงปักกิ่ง , การจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่เซี่ยงไฮ้ และ การจัดแข่งกีฬา เอเชียนเกมส์ ที่เมืองกวางโจว
นายเกษียร กล่าวว่า 8 เดือนแรกปีนี้ มีชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยแล้ว เกือบ 1.2 ล้านคน คาดถึงสิ้นปีจะมีชาวจีนเดินทางเข้ามาได้ถึง 1.6 ล้านคน ซึ่งจีนถือเป็นตลาดที่เติบโตเร็ว และเป็นชาติที่เข้ามาจับจ่ายสินค้าเกิดเงินสะพัดจำนวนมาก โดยพบว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทย รวมค่าที่พัก อาหารและชอปปิ้ง เฉลี่ยที่ 8,000 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม ที่ ททท.ประเมินว่า มีตัวเลขการใช้จ่ายที่ ประมาณ 4,000 บาทต่อคนต่อวัน ส่วนเดสติเนชั่นยอดฮิตยังเป็น กรุงเทพฯ และพัทยา เดสติเนชั่นใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจ ได้แก่ ภูเก็ต สมุย และกระบี่ ซึ่งสมาคมขอให้รัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยว ฯช่วยผลักดันการยกเลิกวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อสร้างแรงจูงใจ เพราะถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพมีการจับจ่ายสูง
***เล็งดึงชาวจีนเล่นกอล์ฟเที่ยวอีสาน***
นายอภิชาติ อินทร์พงษ์พันธุ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. กล่าวว่า ททท. มีแผนโปรโมตให้จังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมา เป็นกอล์ฟเดสติเนชั่นโปรโมตดึงตลาดนักท่องเที่ยวจีน โดยช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ททท.สำนักงานอีสานจะใช้จังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมา รองรับกลุ่มกอล์ฟจากจีนเป็นครั้งแรก
โดยเฉพาะจากเมืองยูนาน คุนหมิง ซึ่งแต่ละเมืองมีผู้นิยมเล่นกอล์ฟกว่า 5 หมื่นคน และ 3 หมื่นคนตามลำดับ เข้ามาเล่นกอล์ฟใน 2 จังหวัดดังกล่าว ซึ่งมีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานระดับสากลรองรับไว้กว่า 10 แห่ง กลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบน ใช้จ่ายสูงหรือเฉลี่ยกว่า 5 พันบาทต่อคนต่อวัน และคาดว่าจะพำนักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3-5 วัน”
สำหรับปี 2554 คาดภาคอีสานมีรายได้จากท่องเที่ยว 4.3 หมื่นล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ 20 ล้านคน เพิ่มจากปี 2553 ที่มีรายได้อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท จำนวน 18 ล้านคน ส่วนแผนปี 2555 ในส่วนของ ททท.ภูมิภาคอีสานมีแผนเพิ่มความถี่ ในการจัดกิจกรรมกระตุ้นเที่ยวอีสาน อย่างน้อยไตรมาสละ 1 แคมเปญ โดยคงแนวคิด "แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม"หาพันธมิตรในต่างประเทศ โดย 1
สำนักงานต้องหาพันธมิตรอย่างน้อย 1 แห่งเพื่อทำการตลาดร่วมกัน อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าว คาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นมายังอีสานมากขึ้น
นายเกษียร วัฒนเชาวน์พิสุทธิ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน หรือ ที.ซี.ที.เอ กล่าวว่า ช่วงวันชาติจีน 1 ตุลาคม ปีนี้ จำนวนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือ ชาร์เตอร์ไฟล์ท ที่จะนำนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเข้ามาประเทศไทย มีจำนวนไม่มากอย่างที่คิด เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยที่จะเดินทางในช่วงดังกล่าวมีจำนวน น้อยกว่าชาวจีนที่จะเดินทางเข้ามา ซึ่งการจัดชาร์เตอร์ไฟล์ จะต้องมีผู้โดยสาร ทั้งขาไปและขากลับ จึงจะคุ้มทุน
“ปีนี้คาดว่าจะมีชาร์เตอร์ไฟล์จากประเทศจีน เข้ามาในช่วงวันชาติ ราว 60 ลำ เพิ่มจากปีก่อน ที่มีราว 50 ลำ แต่ก็น้อยกว่าที่คาดว่าจะมามาก”
เหตุที่คนไทยเดินทางไปประเทศจีนน้อยลง เพราะช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา คนไทยเดินทางไปเที่ยวจีนมาก เพื่อไปดูกิจกรรมที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมระดับโลก หลายงาน เช่น การจัดแข่งกีฬาโอลิมปิก กรุงปักกิ่ง , การจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่เซี่ยงไฮ้ และ การจัดแข่งกีฬา เอเชียนเกมส์ ที่เมืองกวางโจว
นายเกษียร กล่าวว่า 8 เดือนแรกปีนี้ มีชาวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยแล้ว เกือบ 1.2 ล้านคน คาดถึงสิ้นปีจะมีชาวจีนเดินทางเข้ามาได้ถึง 1.6 ล้านคน ซึ่งจีนถือเป็นตลาดที่เติบโตเร็ว และเป็นชาติที่เข้ามาจับจ่ายสินค้าเกิดเงินสะพัดจำนวนมาก โดยพบว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทย รวมค่าที่พัก อาหารและชอปปิ้ง เฉลี่ยที่ 8,000 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม ที่ ททท.ประเมินว่า มีตัวเลขการใช้จ่ายที่ ประมาณ 4,000 บาทต่อคนต่อวัน ส่วนเดสติเนชั่นยอดฮิตยังเป็น กรุงเทพฯ และพัทยา เดสติเนชั่นใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจ ได้แก่ ภูเก็ต สมุย และกระบี่ ซึ่งสมาคมขอให้รัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยว ฯช่วยผลักดันการยกเลิกวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อสร้างแรงจูงใจ เพราะถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพมีการจับจ่ายสูง
***เล็งดึงชาวจีนเล่นกอล์ฟเที่ยวอีสาน***
นายอภิชาติ อินทร์พงษ์พันธุ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. กล่าวว่า ททท. มีแผนโปรโมตให้จังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมา เป็นกอล์ฟเดสติเนชั่นโปรโมตดึงตลาดนักท่องเที่ยวจีน โดยช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ททท.สำนักงานอีสานจะใช้จังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมา รองรับกลุ่มกอล์ฟจากจีนเป็นครั้งแรก
โดยเฉพาะจากเมืองยูนาน คุนหมิง ซึ่งแต่ละเมืองมีผู้นิยมเล่นกอล์ฟกว่า 5 หมื่นคน และ 3 หมื่นคนตามลำดับ เข้ามาเล่นกอล์ฟใน 2 จังหวัดดังกล่าว ซึ่งมีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานระดับสากลรองรับไว้กว่า 10 แห่ง กลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบน ใช้จ่ายสูงหรือเฉลี่ยกว่า 5 พันบาทต่อคนต่อวัน และคาดว่าจะพำนักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3-5 วัน”
สำหรับปี 2554 คาดภาคอีสานมีรายได้จากท่องเที่ยว 4.3 หมื่นล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ 20 ล้านคน เพิ่มจากปี 2553 ที่มีรายได้อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท จำนวน 18 ล้านคน ส่วนแผนปี 2555 ในส่วนของ ททท.ภูมิภาคอีสานมีแผนเพิ่มความถี่ ในการจัดกิจกรรมกระตุ้นเที่ยวอีสาน อย่างน้อยไตรมาสละ 1 แคมเปญ โดยคงแนวคิด "แหล่งเรียนรู้ อู่อารยธรรม"หาพันธมิตรในต่างประเทศ โดย 1
สำนักงานต้องหาพันธมิตรอย่างน้อย 1 แห่งเพื่อทำการตลาดร่วมกัน อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าว คาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นมายังอีสานมากขึ้น