นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการขออนุญาตสภาผู้แทนราษฏร เพื่อพิจารณาสละสิทธิ์ความคุ้มกันของ ส.ส. 9 คน ตามมาตรา 131 ของรัฐธรรมนูญ ตามที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยบุคคลที่ถูกกล่าวหาในกรณีนี้มีจำนวน 9 คน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งส.ส. ประกอบด้วย นพ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวิเชียร ขาวขำ นายการุณ โหสกุล นายประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็อนุญาตว่า หากรัฐบาลมีความคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 อยู่แล้ว ก็ขอให้พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 131 ที่ว่าด้วยการให้เอกสิทธิ์ส.ส.ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ให้สามารถใช้สิทธิ์ดำเนินการได้เอง โดยไม่ต้องขออนุญาตรัฐสภาอีก เพื่อให้เกิดความชัดเจน และไม่เป็นที่สงสัยของประชาชน
**"อภิวันท์"อ้างเรื่องศักดิ์ศรีรัฐสภา
ด้าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนฯ มีมติไม่เห็นด้วยกรณี 9 ส.ส.เพื่อไทย แกนนำกลุ่มเสื้อแดงขอไม่ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองไปดำเนินคดีว่า ส.ส.ทั้ง 9 คน มีความประสงค์จะไปให้การที่ศาล ซึ่งตนได้บอกนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ใน 9 คนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบุคคลแต่เป็นเรื่องขององค์กร ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญป้องกันไม่ให้อำนาจอื่นๆ ทั้งตุลาการ เข้ามาก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่อนุญาตให้ไปดำเนินคดีได้
ส่วนกรณีที่น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ที่สภาเคยอนุญาตให้ไปดำเนินคดีได้นั้น เนื่องจากเห็นว่าไม่น่าจะมาฟ้องร้องเป็นคดีได้ จึงได้อนุญาตไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมมีส.ส.บางส่วนอภิปรายว่า เป็นการเล่นละครตบตาประชาชน พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่าไม่ได้เล่นละครตบตา เรื่องนี้นายจตุพรก็ไม่สบายใจ ได้พูดกับตนในที่ประชุมส.ส.เหมือนกัน แต่ตนก็ย้ำว่า เป็นเรื่องของหลักการ และศักดิ์ศรีของรัฐสภาจะต้องเท่าเทียมกัน
** "ดีเอสไอ"รอช่วงปิดสมัยประชุม
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับกลุ่มนปช. ในคดีความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ด้วยการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติไม่เห็นด้วยที่จะให้ ส.ส.ทั้ง 9 คน สละสิทธิ์ความคุ้มครอง เพื่อเข้าสู่การต่อสู้คดีการปราศรัยหมิ่นสถาบันฯ บนเวทีชุมนุมรำลึกครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุม 10 เมษายน 2553 ว่า ขณะนี้ดีเอสไอ ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากทางสภาอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากทางสภาไม่มีมติเห็นชอบให้ดำเนินคดีกับแกนนำนปช. 9 คน ที่เป็น ส.ส.ในระหว่างเปิดประชุม ก็ไม่เป็นไร ซึ่งตามขั้นตอนแล้วคงต้องรอต่อไปอีก 3 เดือน เพื่อให้มีการปิดสมัยประชุมจึงจะมีการดำเนินการ แต่ในระหว่างนี้คณะทำงานของดีเอสไอ ก็จะมีการประชุมกำหนดวันเวลาที่จะให้ทางแกนนำ นปช. เดินทางรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง โดยเบื้องต้นจะให้มีการรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกันทั้งหมด ทั้งที่เป็น ส.ส. 9 คน และไม่เป็น ส.ส.อีก 10 คน ซึ่งระยะเวลาแค่ 3 เดือนคงไม่นานเกินไป
**"อภิวันท์"อ้างเรื่องศักดิ์ศรีรัฐสภา
ด้าน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนฯ มีมติไม่เห็นด้วยกรณี 9 ส.ส.เพื่อไทย แกนนำกลุ่มเสื้อแดงขอไม่ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองไปดำเนินคดีว่า ส.ส.ทั้ง 9 คน มีความประสงค์จะไปให้การที่ศาล ซึ่งตนได้บอกนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 ใน 9 คนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบุคคลแต่เป็นเรื่องขององค์กร ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญป้องกันไม่ให้อำนาจอื่นๆ ทั้งตุลาการ เข้ามาก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่อนุญาตให้ไปดำเนินคดีได้
ส่วนกรณีที่น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ที่สภาเคยอนุญาตให้ไปดำเนินคดีได้นั้น เนื่องจากเห็นว่าไม่น่าจะมาฟ้องร้องเป็นคดีได้ จึงได้อนุญาตไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมมีส.ส.บางส่วนอภิปรายว่า เป็นการเล่นละครตบตาประชาชน พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่าไม่ได้เล่นละครตบตา เรื่องนี้นายจตุพรก็ไม่สบายใจ ได้พูดกับตนในที่ประชุมส.ส.เหมือนกัน แต่ตนก็ย้ำว่า เป็นเรื่องของหลักการ และศักดิ์ศรีของรัฐสภาจะต้องเท่าเทียมกัน
** "ดีเอสไอ"รอช่วงปิดสมัยประชุม
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับกลุ่มนปช. ในคดีความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ด้วยการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติไม่เห็นด้วยที่จะให้ ส.ส.ทั้ง 9 คน สละสิทธิ์ความคุ้มครอง เพื่อเข้าสู่การต่อสู้คดีการปราศรัยหมิ่นสถาบันฯ บนเวทีชุมนุมรำลึกครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุม 10 เมษายน 2553 ว่า ขณะนี้ดีเอสไอ ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากทางสภาอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากทางสภาไม่มีมติเห็นชอบให้ดำเนินคดีกับแกนนำนปช. 9 คน ที่เป็น ส.ส.ในระหว่างเปิดประชุม ก็ไม่เป็นไร ซึ่งตามขั้นตอนแล้วคงต้องรอต่อไปอีก 3 เดือน เพื่อให้มีการปิดสมัยประชุมจึงจะมีการดำเนินการ แต่ในระหว่างนี้คณะทำงานของดีเอสไอ ก็จะมีการประชุมกำหนดวันเวลาที่จะให้ทางแกนนำ นปช. เดินทางรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง โดยเบื้องต้นจะให้มีการรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกันทั้งหมด ทั้งที่เป็น ส.ส. 9 คน และไม่เป็น ส.ส.อีก 10 คน ซึ่งระยะเวลาแค่ 3 เดือนคงไม่นานเกินไป