นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( ศอส. ) ว่า ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ ศอส.ได้มีคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ส.เข้ามาทั้งสิ้น 563 คำร้อง ไม่รับเป็นเรื่องร้องคัดค้าน 188 คำร้อง ทำให้เหลือเป็นสำนวนคำร้องจำนวน 375 สำนวน ซึ่งในสำนวนที่เหลือนี้ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนไปแล้ว 113 สำนวน ซึ่งเป็นการดำเนินการภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน ที่กกต.ต้องประกาศผลการเลือกตั้งให้ได้ส.ส.ไม่น้อยกว่า 95 % เพื่อเปิดประชุมสภา ซึ่งปรากฏว่า กกต.ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ 2 เขตเลือกตั้ง และมีการนับคะแนนใหม่ 1 เขต
ดังนั้นขณะนี้ยังคงมีสำนวนที่ต้องพิจารณาเหลืออีก 262 สำนวน ที่กกต.จะต้องดำเนินการพิจารณา ซึ่งทางด้านฝ่ายสืบสวนสอบสวน ก็จะเริ่มทยอยนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมกกต.ในเร็วๆนี้ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของกกต.จังหวัด และคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ อาทิ กรณีที่ จ. บุรีรัมย์ และที่ จ. สุรินทร์ ที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอยู่
นายสมชัย กล่าวว่า การประเมินการทำงานในส่วนของศูนย์ศอส.นั้น ตนเห็นว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยการทำงานของกกต. พิจาณาได้รวดเร็วขึ้น แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง ก็จะต้องมีการปรับปรุงเพื่อการพัฒนา และกกต.คงมีศูนย์ ศอส. เป็นเครื่องมือในการช่วยงานกกต.ต่อไปในอนาคต จะได้ไม่ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ
ดังนั้น ต้องมีการพัฒนาบุคลาการให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะนำผลการสัมนาครั้งนี้เสนอต่อที่ประชุมกกต.ต่อไปว่า ควรมีศูนย์ศอส.ช่วยงานกกต.ต่อไปอีกหรือไม่ แต่ส่วนตัวเห็นว่าควรจะมีต่อไป
นายสมชัย ยังได้เปิดเผยถึงผลงานของศอส. ที่สามารถทำให้การซื้อเสียงของพรรคการเมือง และนักการเมืองทำได้อยากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการ ป้องปรามในการซื้อสิทธิขายเสียง ได้ในระดับหนึ่ง และตนก็ได้รับรายงานรายงานจากศสอ. ว่า หลังจากการเลือกตั้ง มีหัวคะแนนหลายคนถูกยิง เนื่องจากมีการทวงเงินของพรรคการเมืองที่ให้เงินหัวคะแนนไปแล้วทำงานไม่เข้าเป้า จนทำให้มีหัวคะแนนบางคนต้องหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศลาว เพราะกลัวตาย อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เป็นเพียงการรู้กันเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้รับรายงานมาอีกว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงิน โดยการนำเงินไปเก็บไว้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งใหญ่โต จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจค้น ได้แต่เฝ้าระวัง ทำให้หัวคะแนนไม่กล้าขยับ ทำให้หัวคะแนนทำงานไม่เข้าเป้า จึงเกิดมีการไล่ล่าหัวคะแนนเกิดขึ้น
" ผมมีใจให้ 100 เปอร์เซ็นต์ กับการตั้งศูนย์ศอส. แต่กกต.มีคนอื่นๆ ก็มีวิจารณญาณของแต่ละคน และแนวคิดก็อาจจะต่างกัน ส่วนตัวผมเห็นว่า การประกาศผลการเลือกตั้ง ตามกฎหมายจะต้องเร็ว และใช้หลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ก็สามารถพิจารณาให้ใบเหลือง ใบแดงได้แล้ว แต่กกต.บางคนยังต้องให้ไปสอบพยานเพิ่มเติม เพราะกลัวว่าจะไปกลั่นแกล้ง แต่พอลงไปสอบเพิ่มเติมแล้ว พยานก็ไม่ยอมมาเป็นพยาน เพราะกลัว จึงทำให้ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดเขา ไม่ใช่ว่าศูนย์ ศอส.จะไม่มีประสิทธิภาพ" นายสมชัย กล่าว
ดังนั้นขณะนี้ยังคงมีสำนวนที่ต้องพิจารณาเหลืออีก 262 สำนวน ที่กกต.จะต้องดำเนินการพิจารณา ซึ่งทางด้านฝ่ายสืบสวนสอบสวน ก็จะเริ่มทยอยนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมกกต.ในเร็วๆนี้ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของกกต.จังหวัด และคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ อาทิ กรณีที่ จ. บุรีรัมย์ และที่ จ. สุรินทร์ ที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอยู่
นายสมชัย กล่าวว่า การประเมินการทำงานในส่วนของศูนย์ศอส.นั้น ตนเห็นว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยการทำงานของกกต. พิจาณาได้รวดเร็วขึ้น แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง ก็จะต้องมีการปรับปรุงเพื่อการพัฒนา และกกต.คงมีศูนย์ ศอส. เป็นเครื่องมือในการช่วยงานกกต.ต่อไปในอนาคต จะได้ไม่ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจ
ดังนั้น ต้องมีการพัฒนาบุคลาการให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะนำผลการสัมนาครั้งนี้เสนอต่อที่ประชุมกกต.ต่อไปว่า ควรมีศูนย์ศอส.ช่วยงานกกต.ต่อไปอีกหรือไม่ แต่ส่วนตัวเห็นว่าควรจะมีต่อไป
นายสมชัย ยังได้เปิดเผยถึงผลงานของศอส. ที่สามารถทำให้การซื้อเสียงของพรรคการเมือง และนักการเมืองทำได้อยากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการ ป้องปรามในการซื้อสิทธิขายเสียง ได้ในระดับหนึ่ง และตนก็ได้รับรายงานรายงานจากศสอ. ว่า หลังจากการเลือกตั้ง มีหัวคะแนนหลายคนถูกยิง เนื่องจากมีการทวงเงินของพรรคการเมืองที่ให้เงินหัวคะแนนไปแล้วทำงานไม่เข้าเป้า จนทำให้มีหัวคะแนนบางคนต้องหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศลาว เพราะกลัวตาย อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เป็นเพียงการรู้กันเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้รับรายงานมาอีกว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงิน โดยการนำเงินไปเก็บไว้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งใหญ่โต จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจค้น ได้แต่เฝ้าระวัง ทำให้หัวคะแนนไม่กล้าขยับ ทำให้หัวคะแนนทำงานไม่เข้าเป้า จึงเกิดมีการไล่ล่าหัวคะแนนเกิดขึ้น
" ผมมีใจให้ 100 เปอร์เซ็นต์ กับการตั้งศูนย์ศอส. แต่กกต.มีคนอื่นๆ ก็มีวิจารณญาณของแต่ละคน และแนวคิดก็อาจจะต่างกัน ส่วนตัวผมเห็นว่า การประกาศผลการเลือกตั้ง ตามกฎหมายจะต้องเร็ว และใช้หลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ก็สามารถพิจารณาให้ใบเหลือง ใบแดงได้แล้ว แต่กกต.บางคนยังต้องให้ไปสอบพยานเพิ่มเติม เพราะกลัวว่าจะไปกลั่นแกล้ง แต่พอลงไปสอบเพิ่มเติมแล้ว พยานก็ไม่ยอมมาเป็นพยาน เพราะกลัว จึงทำให้ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดเขา ไม่ใช่ว่าศูนย์ ศอส.จะไม่มีประสิทธิภาพ" นายสมชัย กล่าว