วานนี้ ( 7 ก.ค. ) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต. ) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวภายหลังการประชุม กกต.ว่าจะเร่งพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ภายใน 7 วัน หรือภายใน 12 ก.ค.นี้ แก่ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง โดยจะยึดแนวทางเดียวกับการพิจารณาเมื่อครั้งประกาศผลเลือกตั้งเมื่อปี 2550
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ที่ได้รับเลือกตั้งและมีเรื่องร้องคัดค้านอยู่ประมาณ 50 เรื่องซึ่งที่ประชุมกกต.ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องคัดค้านดังกล่าว ต้องรอการรายงานมายังที่ประชุมกกต.ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ก่อน ซึ่งกกต.คงต้องรับรองผลการเลือกตั้งไปเรื่อยๆ โดยตั้งเป้าว่า จะรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนก.ค.นี้
ส่วนกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ก็จะนำเข้าที่ประชุมพิจารณาในวันที่ 12 ก.ค.นี้เช่นกัน
** ภท.คัดค้านรับรองส.ส.เพื่อไทย
นายเอกชัย หัสดี ผู้สมัครส.ส. เขต 1 จ.หนองคาย พรรคภูมิใจไทย ได้ทำหนังสือยื่นต่อ กกต. เพื่อคัดค้านการเลือกตั้ง และการรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. ของนายพงศ์พันธ์ สุนทรชัย ว่าที่ ส.ส. เขต 1 จ.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เนื่องจากตกเป็นบุคคลล้มละลาย ตามคำพิพากษาศาลล้มละลายกลาง หมาเเลขคดีแดง ที่ ล.5009/2554 ระหว่าง บบส.กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพงศ์พันธ์ ฐานจำเลย เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้นายพงศ์พันธ์ ขาดความเป็นสมาชิกภาพ พรรคเพื่อไทย ตามข้อ 10 ,11 ,13 แห่งข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ. 2550 และตามความในมาตรา 20 (7) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 รวมทั้งตามความในมาตรา 102 (2) มาตรา 106 (5) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550
**ชาวท่ามะการ้องกกต.มีซื้อเสียง
ในวันเดียวกันนี้ นายวันชนะ ศรีสุข ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยชาวบ้านประมาณ 50 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในเขต 3 จ.กาญจนบุรี หลังพบว่ามีผู้สมัครจากพรรคการเมืองรายหนึ่ง ทุจริตการเลือกตั้งด้วยการแจกเงินกับชาวบ้านรายละ 300 บาท เพื่อให้ไปเลือกตั้งและกากบาทให้กับหมายเลขผู้สมัครจากพรรคการเมืองนั้น โดยนำหลักฐานทั้งเอกสาร และพยานบุคคลมาแสดงต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีการทุจริตดังกล่าว
** เขต1 เมืองกาญจน์ขอนับคะแนนใหม่
ด้านนายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยร้องเรียนต่อ กกต.ขอให้มีการขอนับคะแนนใหม่ กล่าวว่า ตนได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงความผิดปกติของการนับคะแนน พร้อมกับได้ส่งเรื่องร้องเรียนให้กับ กกต.จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอให้มีการนับคะแนนใหม่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงส่งหลักฐานรวบรวมให้ทีมกฎหมายของพรรคดำเนินการร้องเรียนต่อกกต.กลางแล้ว
ทั้งนี้มีข้อมูลและหลักฐานหลายประการที่เชื่อได้ว่าผลการนับคะแนนมีความไม่โปร่งใส ได้แก่
1.ในคืนวันที่ 3 ก.ค.ที่เริ่มมีการนับคะแนนนั้น ในรายงานทางโทรทัศน์ มีการระบุว่า เมื่อนับคะแนนได้90 % ตนได้คะแนน 33,448 คะแนน แต่เมื่อนับเสร็จ ผลออกมาตนกลับได้คะแนนรวมเพียง 33,332 คะแนน ทั้งที่โดยตรรกะแล้วคะแนนโดยรวมเมื่อนับสิ้นสิ้นต้องมากกว่า33,448 คะแนน
2. ที่เขตเลือกตั้งใน ต.ช่องสะเดา อ.เมืองฯ มีการสลับคะแนนระหว่างผู้สมัครเบอร์ 9 กับผู้สมัครเบอร์ 10 อีกทั้งมีการนับคะแนนสลับกัน ระหว่างคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ กับส.ส.ระบบเขต
3. ระหว่างที่มีการนับคะแนนผลการเลือกตั้งล่วงหน้านั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแจ้งให้ตนทราบ ทำให้ไม่สามารถส่งทีมงานไปสังเกตการณ์ และร่วมเป็นพยานในการนับคะแนนได้ 4.ในเขต ต.ลาดหญ้า อ.เมืองฯ มีการทำบัตรเลือกตั้งหาย 10 ใบ และยังไม่มีการสอบสวน จากกกต.จังหวัด นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยที่เชื่อได้ว่าไม่โปร่งใสในการนับคะแนน ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ที่ได้รับเลือกตั้งและมีเรื่องร้องคัดค้านอยู่ประมาณ 50 เรื่องซึ่งที่ประชุมกกต.ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องคัดค้านดังกล่าว ต้องรอการรายงานมายังที่ประชุมกกต.ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ก่อน ซึ่งกกต.คงต้องรับรองผลการเลือกตั้งไปเรื่อยๆ โดยตั้งเป้าว่า จะรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนก.ค.นี้
ส่วนกรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ก็จะนำเข้าที่ประชุมพิจารณาในวันที่ 12 ก.ค.นี้เช่นกัน
** ภท.คัดค้านรับรองส.ส.เพื่อไทย
นายเอกชัย หัสดี ผู้สมัครส.ส. เขต 1 จ.หนองคาย พรรคภูมิใจไทย ได้ทำหนังสือยื่นต่อ กกต. เพื่อคัดค้านการเลือกตั้ง และการรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. ของนายพงศ์พันธ์ สุนทรชัย ว่าที่ ส.ส. เขต 1 จ.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เนื่องจากตกเป็นบุคคลล้มละลาย ตามคำพิพากษาศาลล้มละลายกลาง หมาเเลขคดีแดง ที่ ล.5009/2554 ระหว่าง บบส.กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพงศ์พันธ์ ฐานจำเลย เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้นายพงศ์พันธ์ ขาดความเป็นสมาชิกภาพ พรรคเพื่อไทย ตามข้อ 10 ,11 ,13 แห่งข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ. 2550 และตามความในมาตรา 20 (7) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 รวมทั้งตามความในมาตรา 102 (2) มาตรา 106 (5) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550
**ชาวท่ามะการ้องกกต.มีซื้อเสียง
ในวันเดียวกันนี้ นายวันชนะ ศรีสุข ตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยชาวบ้านประมาณ 50 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในเขต 3 จ.กาญจนบุรี หลังพบว่ามีผู้สมัครจากพรรคการเมืองรายหนึ่ง ทุจริตการเลือกตั้งด้วยการแจกเงินกับชาวบ้านรายละ 300 บาท เพื่อให้ไปเลือกตั้งและกากบาทให้กับหมายเลขผู้สมัครจากพรรคการเมืองนั้น โดยนำหลักฐานทั้งเอกสาร และพยานบุคคลมาแสดงต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีการทุจริตดังกล่าว
** เขต1 เมืองกาญจน์ขอนับคะแนนใหม่
ด้านนายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยร้องเรียนต่อ กกต.ขอให้มีการขอนับคะแนนใหม่ กล่าวว่า ตนได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงความผิดปกติของการนับคะแนน พร้อมกับได้ส่งเรื่องร้องเรียนให้กับ กกต.จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอให้มีการนับคะแนนใหม่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงส่งหลักฐานรวบรวมให้ทีมกฎหมายของพรรคดำเนินการร้องเรียนต่อกกต.กลางแล้ว
ทั้งนี้มีข้อมูลและหลักฐานหลายประการที่เชื่อได้ว่าผลการนับคะแนนมีความไม่โปร่งใส ได้แก่
1.ในคืนวันที่ 3 ก.ค.ที่เริ่มมีการนับคะแนนนั้น ในรายงานทางโทรทัศน์ มีการระบุว่า เมื่อนับคะแนนได้90 % ตนได้คะแนน 33,448 คะแนน แต่เมื่อนับเสร็จ ผลออกมาตนกลับได้คะแนนรวมเพียง 33,332 คะแนน ทั้งที่โดยตรรกะแล้วคะแนนโดยรวมเมื่อนับสิ้นสิ้นต้องมากกว่า33,448 คะแนน
2. ที่เขตเลือกตั้งใน ต.ช่องสะเดา อ.เมืองฯ มีการสลับคะแนนระหว่างผู้สมัครเบอร์ 9 กับผู้สมัครเบอร์ 10 อีกทั้งมีการนับคะแนนสลับกัน ระหว่างคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ กับส.ส.ระบบเขต
3. ระหว่างที่มีการนับคะแนนผลการเลือกตั้งล่วงหน้านั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแจ้งให้ตนทราบ ทำให้ไม่สามารถส่งทีมงานไปสังเกตการณ์ และร่วมเป็นพยานในการนับคะแนนได้ 4.ในเขต ต.ลาดหญ้า อ.เมืองฯ มีการทำบัตรเลือกตั้งหาย 10 ใบ และยังไม่มีการสอบสวน จากกกต.จังหวัด นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยที่เชื่อได้ว่าไม่โปร่งใสในการนับคะแนน ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่
