เอ็กซ์เอ็กซ์ไอฯปรับลดราคาจำหน่ายเสื้อผ้าลงเฉลี่ย 10% หวังกระตุ้นลูกค้าจับจ่าย บิ๊กบอสจากอเมริกายันตลาดเอเซียมีศักยภาพสูงมาก พร้อมผุดสาขาที่สองในไทย
นายแลร์รี่ เมเยอร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Forever 21, Inc. ประเทศอเมริกา เปิดเผยว่า เสื้อผ้าแบรนด์เอ็กซ์เอ็กซ์ไอ ฟอร์เอเวอร์ ได้ปรับกลยุทธ์โดยปรับราคาสินค้าลงเฉลี่ย 10% โดยเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถทำราคาถูกลงได้เนื่องจากว่า มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ประกอบกับมีเครือข่ายมากทำให้ต้นทุนในด้านการจัดซื้อต่ำลงด้วยเช่นกัน ซึ่งการลดราคาเป็นนโยบายทั่วโลก เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้มากขึ้น ซึ่งในส่วนของประเทศไทยสินค้าจะมีราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 150 บาท ล่าสุดเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ด้วยงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท พร้อมเพิ่มแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ๆอีกเช่น Love21 เป็นเสื้อผ้าผู้หญิง และแบรนด์ 21Men เป็นเสื้อผ้าผู้ชาย ทำให้ยอดซื้อต่อบิลในไทยเพิ่มเป็น 2,000-3,000 บาท เพิ่มขึ้น 20%
นายแลร์รี่ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนขยายสาขาร้านเสื้อผ้าเอ็กซ์เอ็กซ์ไอ ฟอร์เอเวอร์ (XXI FOREVER) ต่อเนื่องทั่วโลกจากปัจจุบันที่มีกระจายอยู่กว่า 500 สาขา ใน 13 ประเทศ รวมถึงพื้นที่ในประเทศที่แฟรนไชส์คือกลุ่มบริษัทชาราฟรีเทลด้วย ที่รับสิทธิ์เปิดสาขาในประเทศ ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย
แม้ขณะนี้ อเมริกาและยุโรปหลายประเทศจะเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง กิจการยังคงขยายต่อเนื่องเช่นกัน ไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือหันมาเน้นตลาดเอเซียมากขึ้นแต่อย่างใด เพราะมองว่า วิกฤตเศรษฐกิจเป็นเรื่องของวัฎจักรที่เกิดขึ้นตลอดหมุนเวียนไป แต่ยอมรับว่า ตลาดเอเซีย เป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพมากและมีการเติบโตดี
ปัจจุบันในเอเซียมีประมาณ 20 สาขา ล่าสุดเตรียมเปิดที่ฟิลิปปินส์ และจะเปิดร้านแบบแฟลกชิปสโตร์ขนาดใหญ่อีกที่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ฮ่องกง เป็นต้น ภายในปีนี้
ทั้งนี้อัตราเฉลี่ยของการเปิดสาขาใหม่ของ ร้านเอ็กซ์เอ็กซ์ไอ ฟอร์เอเวอร์ ทั่วโลกมีประมาณ 75 สาขาต่อปี รวมทั้งการเปิดสาขาใหม่ การรีโนเวต และการปรับย้ายทำเล แต่ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการได้พื้นที่มาด้วยว่ามีความเหมาะสมกับการเปิดร้านหรือไม่ แบรนด์เอ็กซ์เอ็กซ์ไอ ฟอร์เอเวอร์ ในอเมริกาเป็นแบรดน์ที่ได้รับความนิยมและมียอดขายสูงสุด และติด 1 ใน 8 แบรนด์ระดับโลกด้านแฟชันเสื้อผ้าด้วย โดยยอดขายรวมปีที่แล้วมีประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 25% สำหรับประเทศไทย วางแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายในปีหน้า อยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของพื้นที่เช่น พาราไดซ์พาร์ค เป็นต้น
นายแลร์รี่ เมเยอร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Forever 21, Inc. ประเทศอเมริกา เปิดเผยว่า เสื้อผ้าแบรนด์เอ็กซ์เอ็กซ์ไอ ฟอร์เอเวอร์ ได้ปรับกลยุทธ์โดยปรับราคาสินค้าลงเฉลี่ย 10% โดยเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถทำราคาถูกลงได้เนื่องจากว่า มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ประกอบกับมีเครือข่ายมากทำให้ต้นทุนในด้านการจัดซื้อต่ำลงด้วยเช่นกัน ซึ่งการลดราคาเป็นนโยบายทั่วโลก เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้มากขึ้น ซึ่งในส่วนของประเทศไทยสินค้าจะมีราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 150 บาท ล่าสุดเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ด้วยงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท พร้อมเพิ่มแบรนด์เสื้อผ้าใหม่ๆอีกเช่น Love21 เป็นเสื้อผ้าผู้หญิง และแบรนด์ 21Men เป็นเสื้อผ้าผู้ชาย ทำให้ยอดซื้อต่อบิลในไทยเพิ่มเป็น 2,000-3,000 บาท เพิ่มขึ้น 20%
นายแลร์รี่ กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนขยายสาขาร้านเสื้อผ้าเอ็กซ์เอ็กซ์ไอ ฟอร์เอเวอร์ (XXI FOREVER) ต่อเนื่องทั่วโลกจากปัจจุบันที่มีกระจายอยู่กว่า 500 สาขา ใน 13 ประเทศ รวมถึงพื้นที่ในประเทศที่แฟรนไชส์คือกลุ่มบริษัทชาราฟรีเทลด้วย ที่รับสิทธิ์เปิดสาขาในประเทศ ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย
แม้ขณะนี้ อเมริกาและยุโรปหลายประเทศจะเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง กิจการยังคงขยายต่อเนื่องเช่นกัน ไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือหันมาเน้นตลาดเอเซียมากขึ้นแต่อย่างใด เพราะมองว่า วิกฤตเศรษฐกิจเป็นเรื่องของวัฎจักรที่เกิดขึ้นตลอดหมุนเวียนไป แต่ยอมรับว่า ตลาดเอเซีย เป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพมากและมีการเติบโตดี
ปัจจุบันในเอเซียมีประมาณ 20 สาขา ล่าสุดเตรียมเปิดที่ฟิลิปปินส์ และจะเปิดร้านแบบแฟลกชิปสโตร์ขนาดใหญ่อีกที่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ฮ่องกง เป็นต้น ภายในปีนี้
ทั้งนี้อัตราเฉลี่ยของการเปิดสาขาใหม่ของ ร้านเอ็กซ์เอ็กซ์ไอ ฟอร์เอเวอร์ ทั่วโลกมีประมาณ 75 สาขาต่อปี รวมทั้งการเปิดสาขาใหม่ การรีโนเวต และการปรับย้ายทำเล แต่ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการได้พื้นที่มาด้วยว่ามีความเหมาะสมกับการเปิดร้านหรือไม่ แบรนด์เอ็กซ์เอ็กซ์ไอ ฟอร์เอเวอร์ ในอเมริกาเป็นแบรดน์ที่ได้รับความนิยมและมียอดขายสูงสุด และติด 1 ใน 8 แบรนด์ระดับโลกด้านแฟชันเสื้อผ้าด้วย โดยยอดขายรวมปีที่แล้วมีประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 25% สำหรับประเทศไทย วางแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายในปีหน้า อยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของพื้นที่เช่น พาราไดซ์พาร์ค เป็นต้น
