ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยได้แรงเก็งกำไรหนุนรีบาวด์กลับมาปิด 6 จุด จากการคาดหวังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯล่าสุดจะออกมาดี โบรกฯเตือนติดตามเหตุการณ์ต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (6ก.ย.) ดัชนีผันผวนตลอดวันก่อนปรับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,055.60 จุด บวก 6.37 จุด หรือ0.61% มูลค่าการซื้อขาย 22,426.54 ล้านบาท ดัชนีมีแรงรีบาวด์กลับ จากสาเหตุนักลงทุนเก็งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาดี หลังจากที่ผ่านมาไม่ดีนัก ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,055.60 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,040.58 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 210 หลักทรัพย์ ลดลง 213 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 186 หลักทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,572,36 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท ลดลง 5.00 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,537,44 ล้านบาท ปิดที่ 4.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,483,35 ล้านบาท ปิดที่ 620.00 บาท ลดลง 4.00 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,372,05 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท และSCC มูลค่าการซื้อขาย 1,097,11 ล้านบาท ปิดที่ 323.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงผันผวนตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยช่วงเช้าปรับตัวลดลงไปใกล้แนวรับสำคัญที่ 1,040 จุด จากนั้นมีแรงเก็งกำไรกลับเข้ามาในตลาดหุ้นเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย ตลาดคาดว่าคืนนี้สหรัฐฯจะประกาศตัวเลขดัชนีภาคการบริการออกมาไม่แย่จนเกินไป ทำให้นักลงทุนหันกลับมาซื้อ
อย่างไรก็ตาม วันนี้(7ก.ย.) ยังคงต้องรอดูสถานการณ์ตัวเลขจริงที่ออกมา แต่มองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกขณะนี้อยู่ในภาวะ 3 วันดี 4 วันไข้ จึงต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์ต่างประเทศยังน่าเป็นห่วง ให้กรอบการลงทุน แนวรับ 1,040 แนวต้านที่ 1,060 จุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (6ก.ย.) ดัชนีผันผวนตลอดวันก่อนปรับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,055.60 จุด บวก 6.37 จุด หรือ0.61% มูลค่าการซื้อขาย 22,426.54 ล้านบาท ดัชนีมีแรงรีบาวด์กลับ จากสาเหตุนักลงทุนเก็งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาดี หลังจากที่ผ่านมาไม่ดีนัก ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,055.60 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,040.58 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 210 หลักทรัพย์ ลดลง 213 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 186 หลักทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,572,36 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท ลดลง 5.00 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,537,44 ล้านบาท ปิดที่ 4.16 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,483,35 ล้านบาท ปิดที่ 620.00 บาท ลดลง 4.00 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,372,05 ล้านบาท ปิดที่ 119.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท และSCC มูลค่าการซื้อขาย 1,097,11 ล้านบาท ปิดที่ 323.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงผันผวนตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยช่วงเช้าปรับตัวลดลงไปใกล้แนวรับสำคัญที่ 1,040 จุด จากนั้นมีแรงเก็งกำไรกลับเข้ามาในตลาดหุ้นเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย ตลาดคาดว่าคืนนี้สหรัฐฯจะประกาศตัวเลขดัชนีภาคการบริการออกมาไม่แย่จนเกินไป ทำให้นักลงทุนหันกลับมาซื้อ
อย่างไรก็ตาม วันนี้(7ก.ย.) ยังคงต้องรอดูสถานการณ์ตัวเลขจริงที่ออกมา แต่มองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกขณะนี้อยู่ในภาวะ 3 วันดี 4 วันไข้ จึงต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์ต่างประเทศยังน่าเป็นห่วง ให้กรอบการลงทุน แนวรับ 1,040 แนวต้านที่ 1,060 จุด
