ASTVผู้จัดการรายวัน - ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ทรงเผย ในหลวงฯทรงทำอะไรทรงคล่องแคล่วขึ้น ในหลวงฯ และพระราชินีฯ ทรงเน้นย้ำ เป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชนควรทำประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชน อย่าให้เสียชาติเกิด
วานนี้ (2 ก.ย. 54) เวลา 15.15 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัคราชกุมารี เสด็จไปทรงบันทึกแถบวีดิทัศน์พระราชทานในรายการพิเศษเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2554 ณ ห้องทรงงาน อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 3 โรงพยาบาลศิริราช พร้อมทรงพระกรุณาพระราชทานสัมภาษณ์ถึง พระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนายวุฒิธร มิลินทจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัคราชกุมารี ทรงมีรับสั่งถึงพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ในวันที่ 19 ก.ย.54 นี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประทับอยู่โรงพยาบาลศิริราชครบ 2 ปี พระองค์เข้ามาประทับที่โรงพยาบาลศิริราชด้วยพระอาการปอดอักเสบ และมีไข้สูง ซึ่งคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาจนหาย แต่มีปัญหาในเรื่องการเคลื่อนไหวพระวรกายไม่สะดวก พระสุรเสียงแหบและเบาลงมาก ต่อมาคณะแพทย์จึงตรวจพบว่ามีน้ำในสมองมากเกินไป ทำให้ไปกดระบบประสาทส่วนที่สั่งงานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว แพทย์จึงได้ถวายการผ่าตัดโดยการเจาะไขสันหลังใส่เป็นท่อนำน้ำที่เกินปริมาณมาทิ้งในช่องท้อง และน้ำก็จะถูกขับออกจากพระวรกายโดยวิธีปกติ ตั้งแต่ทำมาเท่าที่สังเกตุดูพระสุรเสียงดังขึ้น วิธีเสวยทรงหยิบจับพาชนะทรงทำอะไรทรงคล่องแคล่วขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องการทรงพระดำเนินต้องทรงทำกายภาพบำบัดเพราะไม่ได้ทรงพระดำเนินมานาน ก็ต้องทั้งทรงราวคู่ ทั้งทรงจักรยาน ในฐานะที่เป็นคนไข้มาเองซะนาน เลยรู้และเข้าใจพระทัยบางวันมันไม่มีอารมณ์จะทำไม่อยากทำมันเหนื่อยเห็นหน้าหมอก็เซ็งแล้ว แต่อันนี้ก็เป็นหน้าที่ของทั้งหมอและญาติที่ต้องให้กำลังใจคนไข้
นอกจากนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ยังพระราชทานสัมภาษณ์ต่ออีกว่า เหตุผลที่พระองค์ยังคงต้องทรงงานทั้งๆที่ประชวรอยู่นั้น เพราะได้รับคำสอนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ว่าควรทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ และประชาชน และทั้ง 2 พระองค์ทรงรับสั่งเสมอว่า เป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน
“ชีวิตคนทุกคนแสนสั้น คนเราไม่รู้วันตายวันที่จะป่วยจนทำงานไม่ได้ จากคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่รับสั่งว่าควรทำประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชน อย่าให้เสียชาติเกิด ตัวเองก็ถามหมอว่าถ้าไม่ลงจากวิลแชร์จะไปทำงานได้ไหมซึ่งหมอก็บอกว่าไม่ว่าตราบใดที่ไม่ลงน้ำหนักที่ขา เราก็หาวิธีใช้รถยกขึ้นเครื่องบินเยี่ยมประชาชน และก็เยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว.ซึ่งคำสอนที่ทำให้เราต้องทรงงานทั้งๆที่ยังป่วยก็เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ให้ทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน เพราะทั้งสองพระองค์ทรงรับสั่งอยู่เสมอว่าเป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน”.
วานนี้ (2 ก.ย. 54) เวลา 15.15 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัคราชกุมารี เสด็จไปทรงบันทึกแถบวีดิทัศน์พระราชทานในรายการพิเศษเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2554 ณ ห้องทรงงาน อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 3 โรงพยาบาลศิริราช พร้อมทรงพระกรุณาพระราชทานสัมภาษณ์ถึง พระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยนายวุฒิธร มิลินทจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัคราชกุมารี ทรงมีรับสั่งถึงพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ในวันที่ 19 ก.ย.54 นี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประทับอยู่โรงพยาบาลศิริราชครบ 2 ปี พระองค์เข้ามาประทับที่โรงพยาบาลศิริราชด้วยพระอาการปอดอักเสบ และมีไข้สูง ซึ่งคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาจนหาย แต่มีปัญหาในเรื่องการเคลื่อนไหวพระวรกายไม่สะดวก พระสุรเสียงแหบและเบาลงมาก ต่อมาคณะแพทย์จึงตรวจพบว่ามีน้ำในสมองมากเกินไป ทำให้ไปกดระบบประสาทส่วนที่สั่งงานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว แพทย์จึงได้ถวายการผ่าตัดโดยการเจาะไขสันหลังใส่เป็นท่อนำน้ำที่เกินปริมาณมาทิ้งในช่องท้อง และน้ำก็จะถูกขับออกจากพระวรกายโดยวิธีปกติ ตั้งแต่ทำมาเท่าที่สังเกตุดูพระสุรเสียงดังขึ้น วิธีเสวยทรงหยิบจับพาชนะทรงทำอะไรทรงคล่องแคล่วขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องการทรงพระดำเนินต้องทรงทำกายภาพบำบัดเพราะไม่ได้ทรงพระดำเนินมานาน ก็ต้องทั้งทรงราวคู่ ทั้งทรงจักรยาน ในฐานะที่เป็นคนไข้มาเองซะนาน เลยรู้และเข้าใจพระทัยบางวันมันไม่มีอารมณ์จะทำไม่อยากทำมันเหนื่อยเห็นหน้าหมอก็เซ็งแล้ว แต่อันนี้ก็เป็นหน้าที่ของทั้งหมอและญาติที่ต้องให้กำลังใจคนไข้
นอกจากนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ยังพระราชทานสัมภาษณ์ต่ออีกว่า เหตุผลที่พระองค์ยังคงต้องทรงงานทั้งๆที่ประชวรอยู่นั้น เพราะได้รับคำสอนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ว่าควรทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ และประชาชน และทั้ง 2 พระองค์ทรงรับสั่งเสมอว่า เป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน
“ชีวิตคนทุกคนแสนสั้น คนเราไม่รู้วันตายวันที่จะป่วยจนทำงานไม่ได้ จากคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่รับสั่งว่าควรทำประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชน อย่าให้เสียชาติเกิด ตัวเองก็ถามหมอว่าถ้าไม่ลงจากวิลแชร์จะไปทำงานได้ไหมซึ่งหมอก็บอกว่าไม่ว่าตราบใดที่ไม่ลงน้ำหนักที่ขา เราก็หาวิธีใช้รถยกขึ้นเครื่องบินเยี่ยมประชาชน และก็เยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว.ซึ่งคำสอนที่ทำให้เราต้องทรงงานทั้งๆที่ยังป่วยก็เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ให้ทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน เพราะทั้งสองพระองค์ทรงรับสั่งอยู่เสมอว่าเป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน”.