ศูนย์ข่าวภาคเหนือ -เมืองชาละวันอ่วมหนักทั่วทั้งจังหวัด โรงเรียน 47 แห่งหยุดเรียนไม่มีกำหนด ผู้ว่าฯพิษณุโลกเต้นหลังถูกฉีกหน้า"บางระดำโมเดล" ส่วนนราฯโดนพายุถล่ม 13 อำเภอบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิจิตรวานนี้ (1 ก.ย.) ยังคงวิกฤตหนัก ดร.สุรเสน ทั่งทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 ที่ดูแลโรงเรียนใน 6 อำเภอของ จ.พิจิตร คือ โรงเรียนใน อ.เมือง อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.วชิรบารมี ทั้งสิ้น 178 โรงเรียน เปิดเผยว่า หลังเกิดน้ำท่วมหนักตามหมู่บ้านทำให้ทั้งโรงเรียนและบ้านเรือนรวมถึงถนนหนทางต้องถูกตัดขาดโรงเรียนก็ถูกน้ำท่วมมากถึง 27 แห่ง
นายพงษ์ชัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 ซึ่งดูแลโรงเรียนระดับประถมใน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ตะพานหิน อ.บางมูลนาก อ.ทับคล้อ อ.โพทะเล อ.บึงนาราง อ.ดงเจริญ ทั้งสิ้น 157 โรงเรียน และโรงเรียนของเอกชนอีก 12 โรงเรียน ระบุว่า ในเขต 2 มีโรงเรียนถูกน้ำท่วม 28 แห่ง และขอหยุดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด 27 โรงเรียน รวมแล้วจนถึงขณะนี้มีโรงเรียนระดับปะถมศึกษาของจังหวัดพิจิตร ต้องปิดเหตุเพราะน้ำท่วมมากถึง 47 โรงเรียนแล้ว
นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นากยกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวพิจิตรใน 12 อำเภอได้ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนราษฎร รวมถึงถนนหนทางและพื้นที่การเกษตรเสียหายอย่างหนัก ถนนถูกตัดขาดหลายสาย ชาวบ้านขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม เนื่องจากรถขนส่งสินค้าไม่สามารถเข้าไปตามหมู่บ้านได้ ทำให้หลายพื้นที่ขาดแคลนทั้งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง แต่โชคยังดีที่กระแสไฟฟ้ายังสามารถจ่ายไฟได้ตามปกติ
นายสัลเลข คำใจ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วม จ.พิจิตร ยังมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำจากแม่น้ำน่าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่มีระดับน้ำสูงกว่าที่ จ.พิจิตรถึง 15 เซนติเมตร ตอนนี้ จ.พิจิตรถูกน้ำท่วมหมดทั้ง 12 อำเภอเป็นระยะเวลากว่า 2-3 สัปดาห์แล้ว และคาดว่าอีกประมาณ 1 เดือนระดับน้ำถึงจะลดลง
สำหรับพื้นที่การเกษตรขณะนี้ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 70% เสียหายกว่า 140,000 ไร่ พื้นที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมกว่า 30-40% ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 100,000 คนแล้ว
**ผู้ว่าฯพิษณูโลกเต้นโดนฉีกหน้าบางระกำโมเดล
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พิษณุโลกหลายพื้นที่ยังคงถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.บางระกำ ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม มาแจ้งขอความช่วยเหลือจากศูนย์คอลเซ็นเตอร์ บางระกำโมเดลกว่า 50 ราย
ขณะที่นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาอุทกภัย“บางระกำโมเดล”
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่หลังจากก่อนหน้านี้นายณัฐวุฒิ อุปปะ ผู้ประสานงานศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ องค์กรชุมชน ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังเกิดน้ำท่วมบางระกำ กลุ่มองค์กรชุมชนได้รวมตัวกันจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและออกสำรวจผู้ประสบภัยน้ำท่วมพบมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ตกสำรวจไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐประมาณ 300 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมควรดูแลเป็นพิเศษคือผู้สูงอายุ คนพิการ เมื่อสำรวจพบระบบการจัดการผู้พิการกลับไม่ครอบคลุม ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนในการช่วยเหลือผู้พิการ ผู้สูงอายุ “บางระกำโมเดล"ควรให้ความสำคัญผู้พิการอันดับต้นๆ เช่น ม.15 ต.บางระกำ อ.บางระกำ มี 200 หลังคาเรือน มีผู้ตกสำรวจประมาณ 98 หลังคาเรือน และผู้พิการประมาณ 20 คน ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
**พายุถล่ม13อำเภอนราฯบ้านเรือนเสียหายยับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดสภาวะฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมกรรโชกแรงปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ส่งผลให้บ้านเรือนของราษฎรในพื้นที่ 4 ตำบล 27 หมู่บ้านของ อ.แว้ง ได้รับความเสียหายกว่า 70 หลังคาเรือน และยังทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 ตำบล 27 หมู่บ้านของ อ.แว้ง ต้องผจญกับการไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งคืนด้วย .
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิจิตรวานนี้ (1 ก.ย.) ยังคงวิกฤตหนัก ดร.สุรเสน ทั่งทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 ที่ดูแลโรงเรียนใน 6 อำเภอของ จ.พิจิตร คือ โรงเรียนใน อ.เมือง อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.วชิรบารมี ทั้งสิ้น 178 โรงเรียน เปิดเผยว่า หลังเกิดน้ำท่วมหนักตามหมู่บ้านทำให้ทั้งโรงเรียนและบ้านเรือนรวมถึงถนนหนทางต้องถูกตัดขาดโรงเรียนก็ถูกน้ำท่วมมากถึง 27 แห่ง
นายพงษ์ชัย ไทยวรรณศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 ซึ่งดูแลโรงเรียนระดับประถมใน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ตะพานหิน อ.บางมูลนาก อ.ทับคล้อ อ.โพทะเล อ.บึงนาราง อ.ดงเจริญ ทั้งสิ้น 157 โรงเรียน และโรงเรียนของเอกชนอีก 12 โรงเรียน ระบุว่า ในเขต 2 มีโรงเรียนถูกน้ำท่วม 28 แห่ง และขอหยุดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด 27 โรงเรียน รวมแล้วจนถึงขณะนี้มีโรงเรียนระดับปะถมศึกษาของจังหวัดพิจิตร ต้องปิดเหตุเพราะน้ำท่วมมากถึง 47 โรงเรียนแล้ว
นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นากยกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวพิจิตรใน 12 อำเภอได้ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนราษฎร รวมถึงถนนหนทางและพื้นที่การเกษตรเสียหายอย่างหนัก ถนนถูกตัดขาดหลายสาย ชาวบ้านขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม เนื่องจากรถขนส่งสินค้าไม่สามารถเข้าไปตามหมู่บ้านได้ ทำให้หลายพื้นที่ขาดแคลนทั้งแก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง แต่โชคยังดีที่กระแสไฟฟ้ายังสามารถจ่ายไฟได้ตามปกติ
นายสัลเลข คำใจ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วม จ.พิจิตร ยังมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำจากแม่น้ำน่าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่มีระดับน้ำสูงกว่าที่ จ.พิจิตรถึง 15 เซนติเมตร ตอนนี้ จ.พิจิตรถูกน้ำท่วมหมดทั้ง 12 อำเภอเป็นระยะเวลากว่า 2-3 สัปดาห์แล้ว และคาดว่าอีกประมาณ 1 เดือนระดับน้ำถึงจะลดลง
สำหรับพื้นที่การเกษตรขณะนี้ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 70% เสียหายกว่า 140,000 ไร่ พื้นที่อยู่อาศัยถูกน้ำท่วมกว่า 30-40% ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 100,000 คนแล้ว
**ผู้ว่าฯพิษณูโลกเต้นโดนฉีกหน้าบางระกำโมเดล
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พิษณุโลกหลายพื้นที่ยังคงถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.บางระกำ ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม มาแจ้งขอความช่วยเหลือจากศูนย์คอลเซ็นเตอร์ บางระกำโมเดลกว่า 50 ราย
ขณะที่นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาอุทกภัย“บางระกำโมเดล”
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่หลังจากก่อนหน้านี้นายณัฐวุฒิ อุปปะ ผู้ประสานงานศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ องค์กรชุมชน ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังเกิดน้ำท่วมบางระกำ กลุ่มองค์กรชุมชนได้รวมตัวกันจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและออกสำรวจผู้ประสบภัยน้ำท่วมพบมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ตกสำรวจไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐประมาณ 300 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมควรดูแลเป็นพิเศษคือผู้สูงอายุ คนพิการ เมื่อสำรวจพบระบบการจัดการผู้พิการกลับไม่ครอบคลุม ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนในการช่วยเหลือผู้พิการ ผู้สูงอายุ “บางระกำโมเดล"ควรให้ความสำคัญผู้พิการอันดับต้นๆ เช่น ม.15 ต.บางระกำ อ.บางระกำ มี 200 หลังคาเรือน มีผู้ตกสำรวจประมาณ 98 หลังคาเรือน และผู้พิการประมาณ 20 คน ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
**พายุถล่ม13อำเภอนราฯบ้านเรือนเสียหายยับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดสภาวะฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมกรรโชกแรงปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ส่งผลให้บ้านเรือนของราษฎรในพื้นที่ 4 ตำบล 27 หมู่บ้านของ อ.แว้ง ได้รับความเสียหายกว่า 70 หลังคาเรือน และยังทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 4 ตำบล 27 หมู่บ้านของ อ.แว้ง ต้องผจญกับการไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งคืนด้วย .