วานนี้ (1 ก.ย.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังมอบนโยบายแก่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และร่วมรับฟังการชี้แจงแนวทางการดำเนินงานว่า ปัจจุบันสำนำงาน กปร.ได้ประสานการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจำนวน 4,100 โครงการ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชดำริ เรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำ การประกอบอาชีพการเกษตร เช่น เรื่องพันธุ์ข้าว พันธุ์สัตว์ การพัฒนาที่ดินที่เป็นแหล่งเสื่อมโทรม โดย กปร.จะเข้าไปดูแลเพื่อพัฒนาฟื้นฟู และการสร้างอ่างเก็บน้ำ ซึ่งรัฐบาลได้ทำในทุกพื้นที่ ทั้งนี้พบว่ามีอุปสรรคเรื่องการขอใช้พื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าสงวน และเขตป่าอุทยาน เพราะการขออนุญาตต้องมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน กว่าจะสำเร็จต้องใช้เวลากว่า 2 ปี ดังนั้นต้องรวบรัดให้เร็วขึ้น ซึ่งกระบวนการทางกฎหมายของไทยก็ค่อนข้างที่จะล่าช้า
ทั้งนี้ กปร. จะมีการจัดงานแสดงนิทรรศการ 84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 8-13 พ.ย. 54 นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่างานของ กปร. จะมีการนำไปพัฒนาในพื้นที่ภาคใต้อย่างไร พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่าโครงการในภาคใต้มีประมาณ 300 โครงการ ก็จะมีการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก เพื่อทำการศึกษาและนำไปขยายผล ในขณะนี้ทาง กปร.มีงบประมาณอยู่ประมาณ 2,300 ล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่ายังน้อยไปสำหรับโครงการพระราชดำริ โดยจะมีการหารือกันอีกครั้งว่าโครงการไหนที่รัฐบาลจะมีการทำเพิ่มเติม
--------------
ทั้งนี้ กปร. จะมีการจัดงานแสดงนิทรรศการ 84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 8-13 พ.ย. 54 นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่างานของ กปร. จะมีการนำไปพัฒนาในพื้นที่ภาคใต้อย่างไร พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่าโครงการในภาคใต้มีประมาณ 300 โครงการ ก็จะมีการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก เพื่อทำการศึกษาและนำไปขยายผล ในขณะนี้ทาง กปร.มีงบประมาณอยู่ประมาณ 2,300 ล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่ายังน้อยไปสำหรับโครงการพระราชดำริ โดยจะมีการหารือกันอีกครั้งว่าโครงการไหนที่รัฐบาลจะมีการทำเพิ่มเติม
--------------