ASTVผู้จัดการรายวัน-"เฉลิม อยู่บำรุง" อ้างคืนความเป็นธรรม"เพรียวพันธ์ "ลั่นไม่เกิน 7 วัน ได้ผบ.ตร.คนใหม่ ขู่ตำรวจที่วางตัวไม่เป็นกลางช่วงเลือกตั้งโดนแน่ ส่วนผลสอบบ่อนรัชดาฯ สรุปเบื้องต้น 19 ตำรวจบกพร่อง เสนอกักยาม พร้อมสอบสวนต่อ หากพบรับส่วย โทษปลดออก-ไล่ออก "มาร์ค"เตือนย้ายผบ.ตร.ต้องเป็นธรรม
วานนี้ (30 ส.ค.) เวลา 12.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งถือเป็นการประชุมนัดแรกของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการจัดเตรียมสถานที่ และกองตำรวจเกียรติยศ กองร้อยตำรวจหญิง หรือกองร้อยน้ำหวาน ของกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อต้อนรับนายกรัฐมนตรี ในการเดินทางมาครั้งแรก โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล สตช.เดินทางมาก่อนตั้งแต่เวลา 11.00 น.โดยเข้าไปพูดคุยกับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ที่สำนักงานอาคาร 1 ชั้น 1
เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึง ได้ทักทาย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ ร.ต.อ.เฉลิม ที่มายืนรอต้อนรับพร้อมกับรอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.และตำแหน่งเทียบเท่าทุกท่าน ด้านหน้าอาคาร 1 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นได้ขึ้นแท่นพิธีรับความเคารพแถวกองเกียรติยศตำรวจ จากนั้นได้นำพานพุ่มสักการพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ด้านหน้า ตำรวจถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และร่วมรับประทานอาหารก่อนเข้าเป็นประธานการประชุมที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 ตร.
ผู้สื่อรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เชิญที่ปรึกษาสบ 10 และ ผช. ผบ.ตร. ทุกท่าน เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อมอบนโยบายโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นเวลา 13.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นประธานการประชุมแทน โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 3 ชม. จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ได้แถลงผลการประชุมด้วยตนเอง โดย พล.ต.อ.วิเชียร ไม่ได้ลงมาด้วย เนื่องจากต้องเตรียมตัวเพื่อไปร่วมงานฉลองสมรสหมู่สวัสดิการที่สโมสรตำรวจ
**ก.ตร.ขยายเวลาตั้งตำรวจระดับนายพล
ร.ต.อเฉลิม กล่าวถึงผลการประชุมว่า นายกฯ เป็นประธานการประชุมในช่วงแรก และมอบหมายตนเป็นประธานการประชุมต่อ โดยนายกฯ ได้เน้นให้สร้างความเป็นธรรมการบังคับใช้กฎหมาย และรัฐบาลจะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตำรวจทุกชั้นยศ แต่ตำรวจต้องสร้างความผาสุกให้พี่น้องประชาชน นอกจากนี้ นายกฯ ยังห่วงใยถึงเรื่องอบายมุข การพนันและอาชญากรรมในที่เปลี่ยว
ส่วนผลการประชุม มีเรื่องสำคัญ 3 เรื่อง เรื่องแรก ก.ตร. มีมติให้ขยายเวลาในการแต่งตั้งตำรวจระดับนายพลให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ย. เรื่องที่ 2 พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้เสนอให้ตำรวจชั้นประทวนที่จบ
ป.ตรี และเนติบัณฑิต 52-54 คน ขอให้ ก.ตร.อนุมัติให้เป็นอบรมเลื่อนชั้นยศเป็นสัญญาบัตร เรื่องที่ 3 ให้ ก.ตร. มีมติให้ ตร.ไปออกหลักเกณฑ์เพื่อปรับระดับตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุ 53 ปี ให้ไปอบรมเป็นสัญญาบัตรโดยไม่ต้องปรับอัตราเงินเดือน โดยอยู่โรงพักใดให้ขึ้นโรงพักนั้น ทั้งนี้ พออายุ 59 ปี เป็น ร.ต.อ. สามารถขอลาออกล่วงหน้าได้ยศ พ.ต.ต. ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้ โดยมีเงื่อนไขว่าตำรวจกลุ่มนี้ต้องไม่เคยต้องโทษคดีอาญา ไม่ต้องโทษวินัยร้ายแรง ซึ่ง ก.ตร. ส่งเรื่องให้สำนักงานกำลังพลเสนอมา โดยตนจะเรียนนายกฯให้สนับสนุนเรื่องนี้
**ขู่ย้ายตำรวจไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้ง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ที่ประชุมไม่มีการคุยเรื่องแนวทางการแต่งตั้งโยกย้าย โดยการแต่งตั้งเป็นอำนาจของ ตร. คงไม่ได้เข้าไปล้วงลูก จะไม่สร้างความหนักใจ แต่การโยกย้ายใครต้องอยู่บนพื้นที่ฐานความถูกต้องชอบธรรมเป็นปัจจัยสำคัญ ตนมาในฐานะรองนายกฯ ที่รับผิดชอบ ตร. จะไม่มาในฐานะนักการเมือง หากจะบอกว่าการแต่งตั้งจะไม่มีการแสดงความคิดเห็นจากฝ่ายการเมืองก็คงจะโกหก อาจเสนอบ้าง นายตำรวจบางจังหวัดที่ไปรณรงค์หาเสียง ตนมีคลิป ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมต่อการเลือกตั้งปล่อยให้อยู่ในพื้นที่ต่อไปก็สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ข้อมูลตรงนี้ต้องเล่าให้ ผบ.ตร. ฟัง บางคนอยู่ต่างจังหวัดไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ เอามาบุกพัทยา บางคนอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้รับคำสั่งแต่เอากำลังมาเพื่อเสนอหน้าให้นักการเมืองในกรุงเทพฯ ตรงนี้ก็ต้องเรียนเหมือนกัน อย่างนี้อย่าเรียกว่าการเมืองเข้ามายุ่ง แต่เรียกว่าทำให้ถูกต้องชอบธรรม ใครที่เกินเหตุก็ต้องถูกพิจารณาเหมือนกัน ต้องทำบนพื้นฐานพยานหลักฐาน ยืนยันว่าไม่มีการพิจารณาเพราะเกลียดไม่ชอบหน้า เพราะหากตนจะเอาพวกแล้วแต่งตั้งก็คงตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ 3 แห่ง เพราะหันไปทางไหนก็พวกตนทั้งนั้น
**จ่อปูมบำเหน็จตำรวจมะเขือเทศ
เมื่อถามว่า แสดงว่าท่านมีบัญชีนายตำรวจเหล่านี้แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตรงนี้ไม่มีบัญชี แต่ไปสัมผัสด้วยตนเอง ไม่ใช่มีในใจ อย่างผบก.จว.สุรินทร์ ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการ หรือ ผบก.นครราชสีมา ที่เสียชีวิตแล้ว และอีกหลายจังหวัด แต่ไม่อยากพูด เดี๋ยวจะหาว่าคำราม ตนอยู่อีสานมา 2 ปี 7 เดือนรู้พื้นที่ดี แต่ก็มีผู้การฯ ที่น่ารักมากๆ คือ ผบก. อำนาจเจริญ นอกนั้นเป๋ไปเป๋มา ถ้าตนมีอำนาจ คงทำแล้ว แต่ตนไม่มี หากตนเป็น ผบ.ตร. จะเป่านกหวีดปี๊ด ใครรู้ตัวว่าเกินเหตุให้สมัครใจมา นี่พูดแค่กระเซ้าเหย้าแหย่
เมื่อถามว่า จะถูกมองว่าเป็นการปูนบำเหน็จตำรวจมะเขือเทศ ที่สนับสนุนเสื้อแดงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่การปูนบำเหน็จ ใครทำตัวไม่ได้ ทำผิดกฎหมายให้อยู่ในพื้นที่สำคัญ ตำแหน่งสำคัญ ประชาชนก็เดือดร้อน นี่แค่ยกตัวอย่าง เพราะผู้สื่อข่าวถาม ซึ่งตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวโผแต่งตั้ง แต่ก็ต้องให้คำแนะนำบ้างเล็กๆ จุ๋มจิ๋ม ส่วนเรื่องบ่อนรัชดาจะมาใช้พิจารณาในการแต่งตั้งหรือไม่ ตนพูดเรื่องนี้มาหลายวันแล้วไม่อยากพูด
**สืบหาตัวคนแอบอ้างเจ้าของบ่อน
เมื่อถามอีกว่า จะดำเนินการปราบปรามเรื่องบ่อน ตู้ม้า ให้เป็นรูปธรรมอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นักข่าวไปดูสิ ตอนนี้ไม่มีแล้ว วันนี้ปิดหมดราบพนาสูญ ตราบใดที่ตนมีอำนาจเรื่องอย่างนี้เกิดไม่ได้ นายเหลียง ภาค 7 เอาตู้ม้า ไปเก็บแล้ว กงลี้ ปิดตู้ม้าใหญ่แล้ว อาหม่า ก็เลิกแล้ว
เมื่อถามว่า ท่านมั่นใจว่า จะแก้ปัญหานี้ให้หมดไปได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนมั่นใจในข้าราชการตำรวจที่จะสนองรับ ตนจะไปทำอะไรได้ แต่สารวัตรเอง ยืนยันว่าเรื่องบ่อน ระดับ ผกก.ผบก. ทำไม่ได้หรอก ที่มันยุ่งเพราะมีคนแอบอ้าง จากนี้จะไม่มีแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ ประธาน ก.ตร. จะเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อถามว่า จะสืบหาคนที่แอบอ้างและเอาผิดไหม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตอนนี้รู้ตัวแล้ว และกำลังหาหลักฐานเอาผิดอยู่ คนที่แอบอ้างก็รู้ตัวแล้ว คงต้องกินยาเทอลินอล วันละ 2 เม็ด
**แย้มคืนความเป็นธรรมให้"เพรียวพันธุ์"
เมื่อถามว่า จะปรับเปลี่ยน ผบ.ตร. เมื่อไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่บอกตอนนี้ ตนยืนยันว่าการปรับเปลี่ยน เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้คนถูกกับงาน ซึ่งหมายถึงถ้ามีการปรับเปลี่ยน อีฟ (if) สเปค ผบ.ตร. ที่ต้องการเป็นอย่างไรนั้น เมื่อถึงเวลาจะบอกให้ทราบ ฝนไม่ตก แดดไม่ออก อย่าพึ่งกางร่ม ยังไม่หลับอย่าคิดว่าจะฝันเรื่องอะไร ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็มีการเปลี่ยนแปลงแบบ put the right man on the right job อย่าไปมองว่าเป็นการเปลี่ยนเพื่อให้ญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาดำรงตำแหน่ง ถามว่าตอนปฎิวัติ ย้าย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ทำไม เพราะคุณเพรียวพันธ์ เป็นญาติท่านทักษิณ ต้องให้ความเป็นธรรม ทำไมต้องเอาเขาไปสำนักนายกฯ เพราะคุณปฎิวัติ เพราะเผด็จการ มันต้องมีความเป็นธรรม หากจะย้าย พล.ต.อ.วิเชียร นั้น หรือไม่ ยังไม่บอก ให้สื่อได้ลุ้น มันไม่มีกรอบเวลา ถึงเวลาแล้วก็สบายๆ
เมื่อถามว่า ถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ แล้วใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตนคิด แต่วิธีปฏิบัติก็ต้องมีขั้นตอน ตนจะทำอะไรตามใจไม่ได้ เพราะตนไม่ใช่ ก.ต.ช.
เมื่อถามว่า ตอนนี้องค์กรตำรวจระส่ำระส่ายเพราะไม่ทราบว่าใครจะเป็น ผบ.ตร. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใครบอกว่าระส่ำระส่าย องค์กรตำรวจตอนนี้แฮปปี้ดี มีที่ไหน ตนไปพูดที่ บช.น.ก็มีแล้วก็ปรบมือให้ ตำรวจกำลังแฮปปี้ ไม่มีรำส่ำระส่าย รองนายกฯแถวตรงแม่น
“เรื่องผบ.ตร.นั้นไม่เป็นไรหรอก เมื่อถึงเวลาผมทำของผมเอง มันต้องรอความเหมาะสม ที่ต้องมีทั้งจังหวะ เวลา เหตุผล เรื่องสำคัญที่สุดต้องตอบสังคมได้ ผมถามนิดนึง ตอนคุณอภิสิทธิ์ ย้ายคุณพัชรวาท อาศัยเหตุผลอะไร ตอนคุณสุรยุทธ์ ย้ายคุณโกวิท มีเหตุผลอะไร ไม่มีคำตอบให้สังคม ผบ.ตร.อยู่ภาคใต้ ยังไปตั้งคนรักษาราชการทำได้อย่างไร ถ้า ผบ.ตร. ยังปฎิบัติหน้าที่ในราชอาณาจักรไทย ถือว่าเขายังเป็นผู้นำสูงสุด ผมเป็นตำรวจ เป็นนักกฎหมาย ผมไม่ทำเป๋ออย่างนั้นหรอก “ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า ภายใน 7 วันจะเห็น ผบ.ตร.ใหม่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวสั้นๆ ว่าน่าจะใกล้เคียง เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้ยังขาดอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า บอกหมดคุณก็ไม่ตามสัมภาษณ์สิ ก่อนจะเดินเข้าสำนักงาน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยารองผบ.ตร.โดยมี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. เดินตามเข้าไปเพื่อพูดคุยกันด้านในโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก่อนที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินทางกลับ
**เชือดตำรวจ 19 นายบกพร่องบ่อน
ต่อมาเวลา 17.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีบ่อนการพนันในพื้นที่ สน.สุทธิสาร เสนอให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พิจารณาตามคำสั่งที่ต้องรายงานผลการสอบสวนภายใน 7 วัน
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ได้สรุปผลการสอบสวนว่ามีบ่อนการพนันจริงตามคลิปวิดีโอที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีราชชื่อเสนอต่อสภา ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร และจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่ามีตำรวจที่บกพร่องต่อหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันทั้งหมด 19 นาย แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับกองบัญชาการ คือตัว พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ฐานไม่ควบคุมกวดขัน ดูแลสถานีตำรวจอย่างจริงจังเคร่งครัดตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับกองบังคับการ คือ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. และผกก. สว.ในกองบังคับการ ระดับสถานีตำรวจ คือ พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร รองผกก.ป. รองผกก.สส. สว.สส. และสว.ป โดยได้เสนอโทษผิดวินัยไม่ร้ายแรง ภาคทัณฑ์ มีโทษกักยาม ให้ผบ.ตร.พิจารณา
**สอบพบรับส่วยปลดออก-ไล่ออก
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวอีกว่า การรายงานผลการสอบสวนในวันนี้เป็นการรายงานการสอบสวนเบื้องต้นภายใน 7 วันตามคำสั่งผบ.ตร.หลังจากนี้จะมีการสอบสวนขยายผลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมีการเรียกรับผลประโยชน์จากบ่อนการพนันหรือไม่ หากพบว่ามีตำรวจนายใดเรียกรับผลประโยชน์ รับส่วยจะมีเสนอ ผบ.ตร.พิจารณาความผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งมีโทษถึงปลดออก ไล่ออก โดยการสอบสวนขยายผลจะรายงาน ผบ.ตร.ให้ทราบทุก 7 วัน หลังจากนี้ จะมีการเรียกในส่วนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่เกี่ยวข้องกับการดูแลอบายมุขตามคำสั่งของ ตร.มาสอบปากคำว่ามีการบกพร่อง ปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดบ่อนการพนันหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเสนอให้ทั้ง 19 นายออกนอกพื้นที่ก่อนหรือไม่ระหว่างการสอบสวน พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ต้องรอการสอบสวนว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่
**"มาร์ค"เบรค"เหลิม"ย้าย ผบ.ตร.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุจะพิจารณาการทำหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งอาจรวมไปถึงในส่วนของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ด้วยว่า หากมีการดำเนินการก็ขอให้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ตามดุลยพินิจ อย่ามีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนคิดว่าถ้าจะมีการโยกย้ายอะไร ก็ต้องให้ความเป็นธรรม และตามข้อเท็จจริง ตำแหน่งผบ.ตร. ก็ไม่ควรจะเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่ไม่ควรจะไปพร้อมกับรัฐบาล เพราะกฎหมายตำรวจพยายามไม่ให้เป็นเช่นนั้น และทุกฝ่ายก็ควรจะเคารพเจตนารมณ์ของกฎหมายด้วย
วานนี้ (30 ส.ค.) เวลา 12.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งถือเป็นการประชุมนัดแรกของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการจัดเตรียมสถานที่ และกองตำรวจเกียรติยศ กองร้อยตำรวจหญิง หรือกองร้อยน้ำหวาน ของกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อต้อนรับนายกรัฐมนตรี ในการเดินทางมาครั้งแรก โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล สตช.เดินทางมาก่อนตั้งแต่เวลา 11.00 น.โดยเข้าไปพูดคุยกับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ที่สำนักงานอาคาร 1 ชั้น 1
เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึง ได้ทักทาย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และ ร.ต.อ.เฉลิม ที่มายืนรอต้อนรับพร้อมกับรอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.และตำแหน่งเทียบเท่าทุกท่าน ด้านหน้าอาคาร 1 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นได้ขึ้นแท่นพิธีรับความเคารพแถวกองเกียรติยศตำรวจ จากนั้นได้นำพานพุ่มสักการพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ด้านหน้า ตำรวจถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และร่วมรับประทานอาหารก่อนเข้าเป็นประธานการประชุมที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 ตร.
ผู้สื่อรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เชิญที่ปรึกษาสบ 10 และ ผช. ผบ.ตร. ทุกท่าน เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อมอบนโยบายโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นเวลา 13.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นประธานการประชุมแทน โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 3 ชม. จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ได้แถลงผลการประชุมด้วยตนเอง โดย พล.ต.อ.วิเชียร ไม่ได้ลงมาด้วย เนื่องจากต้องเตรียมตัวเพื่อไปร่วมงานฉลองสมรสหมู่สวัสดิการที่สโมสรตำรวจ
**ก.ตร.ขยายเวลาตั้งตำรวจระดับนายพล
ร.ต.อเฉลิม กล่าวถึงผลการประชุมว่า นายกฯ เป็นประธานการประชุมในช่วงแรก และมอบหมายตนเป็นประธานการประชุมต่อ โดยนายกฯ ได้เน้นให้สร้างความเป็นธรรมการบังคับใช้กฎหมาย และรัฐบาลจะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตำรวจทุกชั้นยศ แต่ตำรวจต้องสร้างความผาสุกให้พี่น้องประชาชน นอกจากนี้ นายกฯ ยังห่วงใยถึงเรื่องอบายมุข การพนันและอาชญากรรมในที่เปลี่ยว
ส่วนผลการประชุม มีเรื่องสำคัญ 3 เรื่อง เรื่องแรก ก.ตร. มีมติให้ขยายเวลาในการแต่งตั้งตำรวจระดับนายพลให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ย. เรื่องที่ 2 พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้เสนอให้ตำรวจชั้นประทวนที่จบ
ป.ตรี และเนติบัณฑิต 52-54 คน ขอให้ ก.ตร.อนุมัติให้เป็นอบรมเลื่อนชั้นยศเป็นสัญญาบัตร เรื่องที่ 3 ให้ ก.ตร. มีมติให้ ตร.ไปออกหลักเกณฑ์เพื่อปรับระดับตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุ 53 ปี ให้ไปอบรมเป็นสัญญาบัตรโดยไม่ต้องปรับอัตราเงินเดือน โดยอยู่โรงพักใดให้ขึ้นโรงพักนั้น ทั้งนี้ พออายุ 59 ปี เป็น ร.ต.อ. สามารถขอลาออกล่วงหน้าได้ยศ พ.ต.ต. ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้ โดยมีเงื่อนไขว่าตำรวจกลุ่มนี้ต้องไม่เคยต้องโทษคดีอาญา ไม่ต้องโทษวินัยร้ายแรง ซึ่ง ก.ตร. ส่งเรื่องให้สำนักงานกำลังพลเสนอมา โดยตนจะเรียนนายกฯให้สนับสนุนเรื่องนี้
**ขู่ย้ายตำรวจไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้ง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ที่ประชุมไม่มีการคุยเรื่องแนวทางการแต่งตั้งโยกย้าย โดยการแต่งตั้งเป็นอำนาจของ ตร. คงไม่ได้เข้าไปล้วงลูก จะไม่สร้างความหนักใจ แต่การโยกย้ายใครต้องอยู่บนพื้นที่ฐานความถูกต้องชอบธรรมเป็นปัจจัยสำคัญ ตนมาในฐานะรองนายกฯ ที่รับผิดชอบ ตร. จะไม่มาในฐานะนักการเมือง หากจะบอกว่าการแต่งตั้งจะไม่มีการแสดงความคิดเห็นจากฝ่ายการเมืองก็คงจะโกหก อาจเสนอบ้าง นายตำรวจบางจังหวัดที่ไปรณรงค์หาเสียง ตนมีคลิป ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมต่อการเลือกตั้งปล่อยให้อยู่ในพื้นที่ต่อไปก็สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ข้อมูลตรงนี้ต้องเล่าให้ ผบ.ตร. ฟัง บางคนอยู่ต่างจังหวัดไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ เอามาบุกพัทยา บางคนอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้รับคำสั่งแต่เอากำลังมาเพื่อเสนอหน้าให้นักการเมืองในกรุงเทพฯ ตรงนี้ก็ต้องเรียนเหมือนกัน อย่างนี้อย่าเรียกว่าการเมืองเข้ามายุ่ง แต่เรียกว่าทำให้ถูกต้องชอบธรรม ใครที่เกินเหตุก็ต้องถูกพิจารณาเหมือนกัน ต้องทำบนพื้นฐานพยานหลักฐาน ยืนยันว่าไม่มีการพิจารณาเพราะเกลียดไม่ชอบหน้า เพราะหากตนจะเอาพวกแล้วแต่งตั้งก็คงตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ 3 แห่ง เพราะหันไปทางไหนก็พวกตนทั้งนั้น
**จ่อปูมบำเหน็จตำรวจมะเขือเทศ
เมื่อถามว่า แสดงว่าท่านมีบัญชีนายตำรวจเหล่านี้แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตรงนี้ไม่มีบัญชี แต่ไปสัมผัสด้วยตนเอง ไม่ใช่มีในใจ อย่างผบก.จว.สุรินทร์ ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการ หรือ ผบก.นครราชสีมา ที่เสียชีวิตแล้ว และอีกหลายจังหวัด แต่ไม่อยากพูด เดี๋ยวจะหาว่าคำราม ตนอยู่อีสานมา 2 ปี 7 เดือนรู้พื้นที่ดี แต่ก็มีผู้การฯ ที่น่ารักมากๆ คือ ผบก. อำนาจเจริญ นอกนั้นเป๋ไปเป๋มา ถ้าตนมีอำนาจ คงทำแล้ว แต่ตนไม่มี หากตนเป็น ผบ.ตร. จะเป่านกหวีดปี๊ด ใครรู้ตัวว่าเกินเหตุให้สมัครใจมา นี่พูดแค่กระเซ้าเหย้าแหย่
เมื่อถามว่า จะถูกมองว่าเป็นการปูนบำเหน็จตำรวจมะเขือเทศ ที่สนับสนุนเสื้อแดงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่การปูนบำเหน็จ ใครทำตัวไม่ได้ ทำผิดกฎหมายให้อยู่ในพื้นที่สำคัญ ตำแหน่งสำคัญ ประชาชนก็เดือดร้อน นี่แค่ยกตัวอย่าง เพราะผู้สื่อข่าวถาม ซึ่งตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวโผแต่งตั้ง แต่ก็ต้องให้คำแนะนำบ้างเล็กๆ จุ๋มจิ๋ม ส่วนเรื่องบ่อนรัชดาจะมาใช้พิจารณาในการแต่งตั้งหรือไม่ ตนพูดเรื่องนี้มาหลายวันแล้วไม่อยากพูด
**สืบหาตัวคนแอบอ้างเจ้าของบ่อน
เมื่อถามอีกว่า จะดำเนินการปราบปรามเรื่องบ่อน ตู้ม้า ให้เป็นรูปธรรมอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นักข่าวไปดูสิ ตอนนี้ไม่มีแล้ว วันนี้ปิดหมดราบพนาสูญ ตราบใดที่ตนมีอำนาจเรื่องอย่างนี้เกิดไม่ได้ นายเหลียง ภาค 7 เอาตู้ม้า ไปเก็บแล้ว กงลี้ ปิดตู้ม้าใหญ่แล้ว อาหม่า ก็เลิกแล้ว
เมื่อถามว่า ท่านมั่นใจว่า จะแก้ปัญหานี้ให้หมดไปได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนมั่นใจในข้าราชการตำรวจที่จะสนองรับ ตนจะไปทำอะไรได้ แต่สารวัตรเอง ยืนยันว่าเรื่องบ่อน ระดับ ผกก.ผบก. ทำไม่ได้หรอก ที่มันยุ่งเพราะมีคนแอบอ้าง จากนี้จะไม่มีแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ ประธาน ก.ตร. จะเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อถามว่า จะสืบหาคนที่แอบอ้างและเอาผิดไหม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตอนนี้รู้ตัวแล้ว และกำลังหาหลักฐานเอาผิดอยู่ คนที่แอบอ้างก็รู้ตัวแล้ว คงต้องกินยาเทอลินอล วันละ 2 เม็ด
**แย้มคืนความเป็นธรรมให้"เพรียวพันธุ์"
เมื่อถามว่า จะปรับเปลี่ยน ผบ.ตร. เมื่อไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่บอกตอนนี้ ตนยืนยันว่าการปรับเปลี่ยน เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้คนถูกกับงาน ซึ่งหมายถึงถ้ามีการปรับเปลี่ยน อีฟ (if) สเปค ผบ.ตร. ที่ต้องการเป็นอย่างไรนั้น เมื่อถึงเวลาจะบอกให้ทราบ ฝนไม่ตก แดดไม่ออก อย่าพึ่งกางร่ม ยังไม่หลับอย่าคิดว่าจะฝันเรื่องอะไร ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็มีการเปลี่ยนแปลงแบบ put the right man on the right job อย่าไปมองว่าเป็นการเปลี่ยนเพื่อให้ญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาดำรงตำแหน่ง ถามว่าตอนปฎิวัติ ย้าย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ทำไม เพราะคุณเพรียวพันธ์ เป็นญาติท่านทักษิณ ต้องให้ความเป็นธรรม ทำไมต้องเอาเขาไปสำนักนายกฯ เพราะคุณปฎิวัติ เพราะเผด็จการ มันต้องมีความเป็นธรรม หากจะย้าย พล.ต.อ.วิเชียร นั้น หรือไม่ ยังไม่บอก ให้สื่อได้ลุ้น มันไม่มีกรอบเวลา ถึงเวลาแล้วก็สบายๆ
เมื่อถามว่า ถึงเวลาคืนความเป็นธรรมให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ แล้วใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตนคิด แต่วิธีปฏิบัติก็ต้องมีขั้นตอน ตนจะทำอะไรตามใจไม่ได้ เพราะตนไม่ใช่ ก.ต.ช.
เมื่อถามว่า ตอนนี้องค์กรตำรวจระส่ำระส่ายเพราะไม่ทราบว่าใครจะเป็น ผบ.ตร. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใครบอกว่าระส่ำระส่าย องค์กรตำรวจตอนนี้แฮปปี้ดี มีที่ไหน ตนไปพูดที่ บช.น.ก็มีแล้วก็ปรบมือให้ ตำรวจกำลังแฮปปี้ ไม่มีรำส่ำระส่าย รองนายกฯแถวตรงแม่น
“เรื่องผบ.ตร.นั้นไม่เป็นไรหรอก เมื่อถึงเวลาผมทำของผมเอง มันต้องรอความเหมาะสม ที่ต้องมีทั้งจังหวะ เวลา เหตุผล เรื่องสำคัญที่สุดต้องตอบสังคมได้ ผมถามนิดนึง ตอนคุณอภิสิทธิ์ ย้ายคุณพัชรวาท อาศัยเหตุผลอะไร ตอนคุณสุรยุทธ์ ย้ายคุณโกวิท มีเหตุผลอะไร ไม่มีคำตอบให้สังคม ผบ.ตร.อยู่ภาคใต้ ยังไปตั้งคนรักษาราชการทำได้อย่างไร ถ้า ผบ.ตร. ยังปฎิบัติหน้าที่ในราชอาณาจักรไทย ถือว่าเขายังเป็นผู้นำสูงสุด ผมเป็นตำรวจ เป็นนักกฎหมาย ผมไม่ทำเป๋ออย่างนั้นหรอก “ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า ภายใน 7 วันจะเห็น ผบ.ตร.ใหม่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวสั้นๆ ว่าน่าจะใกล้เคียง เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้ยังขาดอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า บอกหมดคุณก็ไม่ตามสัมภาษณ์สิ ก่อนจะเดินเข้าสำนักงาน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยารองผบ.ตร.โดยมี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. เดินตามเข้าไปเพื่อพูดคุยกันด้านในโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก่อนที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินทางกลับ
**เชือดตำรวจ 19 นายบกพร่องบ่อน
ต่อมาเวลา 17.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีบ่อนการพนันในพื้นที่ สน.สุทธิสาร เสนอให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พิจารณาตามคำสั่งที่ต้องรายงานผลการสอบสวนภายใน 7 วัน
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ได้สรุปผลการสอบสวนว่ามีบ่อนการพนันจริงตามคลิปวิดีโอที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีราชชื่อเสนอต่อสภา ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร และจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่ามีตำรวจที่บกพร่องต่อหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนันทั้งหมด 19 นาย แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับกองบัญชาการ คือตัว พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ฐานไม่ควบคุมกวดขัน ดูแลสถานีตำรวจอย่างจริงจังเคร่งครัดตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับกองบังคับการ คือ พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. และผกก. สว.ในกองบังคับการ ระดับสถานีตำรวจ คือ พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.สุทธิสาร รองผกก.ป. รองผกก.สส. สว.สส. และสว.ป โดยได้เสนอโทษผิดวินัยไม่ร้ายแรง ภาคทัณฑ์ มีโทษกักยาม ให้ผบ.ตร.พิจารณา
**สอบพบรับส่วยปลดออก-ไล่ออก
พล.ต.อ.สถาพร กล่าวอีกว่า การรายงานผลการสอบสวนในวันนี้เป็นการรายงานการสอบสวนเบื้องต้นภายใน 7 วันตามคำสั่งผบ.ตร.หลังจากนี้จะมีการสอบสวนขยายผลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมีการเรียกรับผลประโยชน์จากบ่อนการพนันหรือไม่ หากพบว่ามีตำรวจนายใดเรียกรับผลประโยชน์ รับส่วยจะมีเสนอ ผบ.ตร.พิจารณาความผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งมีโทษถึงปลดออก ไล่ออก โดยการสอบสวนขยายผลจะรายงาน ผบ.ตร.ให้ทราบทุก 7 วัน หลังจากนี้ จะมีการเรียกในส่วนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่เกี่ยวข้องกับการดูแลอบายมุขตามคำสั่งของ ตร.มาสอบปากคำว่ามีการบกพร่อง ปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดบ่อนการพนันหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเสนอให้ทั้ง 19 นายออกนอกพื้นที่ก่อนหรือไม่ระหว่างการสอบสวน พล.ต.อ.สถาพร กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ต้องรอการสอบสวนว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่
**"มาร์ค"เบรค"เหลิม"ย้าย ผบ.ตร.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุจะพิจารณาการทำหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งอาจรวมไปถึงในส่วนของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ด้วยว่า หากมีการดำเนินการก็ขอให้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ตามดุลยพินิจ อย่ามีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนคิดว่าถ้าจะมีการโยกย้ายอะไร ก็ต้องให้ความเป็นธรรม และตามข้อเท็จจริง ตำแหน่งผบ.ตร. ก็ไม่ควรจะเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่ไม่ควรจะไปพร้อมกับรัฐบาล เพราะกฎหมายตำรวจพยายามไม่ให้เป็นเช่นนั้น และทุกฝ่ายก็ควรจะเคารพเจตนารมณ์ของกฎหมายด้วย