รัฐบาล “ปู โคลนนิ่ง” เดินหน้าเต็มสูบด้วยนโยบายประชานิยม เบี่ยงความสนใจของชาวบ้านจากพฤติกรรมยี้ กลบจุดอ่อน โชว์ศักยภาพให้เห็นว่า “ทำงานเป็น” ด้วยยุทธศาสตร์การตลาดผสมกับสังคมนำหน้าการเมือง โกยคะแนนต่อเนื่อง
ทำให้ชาวบ้านลืมลีลาฝ่ายค้านในสภาฯ หลังจากตีกินได้ในรูปแบบเดิมๆ! จากนี้ไปฝ่ายค้านทำได้เพียงอ้าปากหวอ เมื่อเห็นการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ผงาดลั้ลลา รวบยอด กอดเก้าอี้ ไม่สนใจคำท้วงติง เสียงนก เสียงกา!
จะมีแต่เสียง “ปู โคลนนิ่ง” เจื้อยแจ้ว “ยินดีรับฟังข้อเสนอ ความคิดเห็น ข้อแนะนำ เสียงเรียกร้องของพี่น้องประชาชน” ออกแนวภาษาดอกไม้
เชื่อเถอะ รัฐบาลจะฟังแล้วเฉย ป้อนคำหวานต่อไป! เสียงสั่งของเหลี่ยมร้ายคือคำประกาศิต ซึ่งกำหนดเส้นทางนโยบาย แนวทางปฏิบัติแทบทุกย่างก้าว
การใช้อำนาจเต็ม ทำให้รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมร้ายได้เดินตามแผนรัดกุม อุดช่องโหว่ ไม่ให้พลาดเหมือนครั้งก่อน ขยายฐานอำนาจ โยกย้ายข้าราชการแบบไม่มีใครกล้าหือ! คำโอดครวญ “ข้าราชการเสียกำลังใจ” จะไม่มีให้ได้ยินอีก
ตัวเหลี่ยมร้ายไม่อยู่สู้คดี ยอมหนีคุกต่อ จ้อต่างประเทศ ใช้คำพูดถ่มถุยใส่แผ่นดินเกิดเหมือนเดิม หวังใช้อำนาจรัฐจากน้องสาวช่วยเปิดทางท่องโลก แสดงให้เห็นว่าตัวเองกุมอำนาจ แม้ปากจะบอกว่าไม่ยุ่งเกี่ยว! มีแต่คนบ้องตื้นที่เชื่อ
รัฐบาลมีน้องปู โคลนนิ่ง เคลื่อนไหวอยู่เป็นฉากหน้า เบื้องหลังมีทั้งพี่น้อง อดีตสะใภ้ เขย สานมือ ประสานงา งัดข้อ แก่งแย่งกันใช้อำนาจนอกระบบ
โยกย้ายข้าราชการ แต่งตั้งพวกสอบตกเลือกตั้ง และตัวแสบเสื้อแดงให้นั่งตำแหน่งการเมือง กินเงินเดือนจากภาษีเหยื่อของความลำบากจากวิกฤตเผาบ้านเผาเมือง เป็นการปูนบำเหน็จผลงานก่อการร้ายเอาไว้เป็นฐานมวลชน
อย่าว่าแต่ข้าราชการ ตำแหน่ง ผบ.ตร. และผบ.เหล่าทัพ ดีเอสไอ หัวหน้าหน่วยงานสำคัญ เป็นพลังการมือง ก็ถูกคาดว่าจะไม่รอดสันดอนด้วย ยังมีแผนตัดกำลังฝ่ายตรงข้าม เปิดทางตีเมืองขึ้น เพื่อความมั่นคงของอำนาจ!
ทำให้เห็นซึ่งๆ หน้าแบบนี้แหละ ใครไม่ชอบใจก็ช่าง จะทำอะไรได้! มีเสียงโหวกเหวกเป็นระยะๆ จากป่าสะตอเท่านั้น แต่ให้คุณให้โทษใครไม่ได้ เสียงของฝ่ายค้านยุคนี้ไร้ราคา ข้าราชการสมเพช ชาวบ้านสมน้ำหน้า อยากซ้ำเติมอีกด้วย
“จะคร่ำครวญหาสวรรค์วิมานอะไร เมื่อเป็นรัฐบาลไม่ฟังใคร ปอดแหก แถมยังเร่งสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองและพวกพ้อง งาบ 50 เปอร์เซ็นต์”
รัฐบาล “ปู โคลนนิ่ง” เริ่มด้วยการเอาใจชนชั้นกลาง กลุ่มเศรษฐี ด้วยการตัดราคาน้ำมันเบนซินโช๊ะๆๆๆๆ 7-8 บาทต่อลิตร! จากนั้นจะปรับราคาภาษีให้เข้าที่ เอาเงินคืน เป็นยุทธศาสตร์กินหลายต่อ ทั้งเงินและกล่องดวงใจชาวบ้าน
รู้ทั้งรู้ว่าการลดราคาน้ำมันเหมือนการแจกอมยิ้ม คนชอบใจ แต่หารู้ไม่ว่าอีกไม่นานจะทำให้ฟันผุ! การทำให้โครงสร้างราคา การใช้ การผลิตบิดเบี้ยว จะส่งผลร้ายต่อเนื่องทั้งในภาคเกษตร ต้นทุนการผลิตสินค้า ค่าครองชีพเป็นลูกโซ่
ลดราคาน้ำมัน 6 เดือน จากนั้นขยับสู่ระดับเดิม นั่นจะทำให้ราคาสินค้ากระโดดขึ้นอีกรอบ เพราะการลดราคาเบนซินครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ราคาสินค้าลดลง
ถึงตอนนั้นชาวบ้านจะโอดครวญก็ไม่ฟังเสียง หลังจากได้สบายกับน้ำมันราคาถูกระยะหนึ่ง เหมือนคนนั่งกินอาหารอร่อยๆ ยังไม่อิ่ม ก็เพิ่มราคาแล้ว!
นี่เป็นยุทธการยึดเมือง ล่อลวง กวาดต้อนชาวบ้านให้เข้าคอกเป็นเหยื่อนโยบายขายฝัน เอาเงินอนาคตมาใช้ เป็นทาสดักดานจนขาดอิสระในการดำรงชีพ เสี่ยงต่อหายนะจากหนี้สินรอบใหม่ในภาคเกษตรผ่านโครงการพักหนี้ บัตรเครดิต
ส่งเสริมให้ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี พิษร้ายทำลายวงจรธรรมชาติ มีสารอันตรายตกค้างในอาหาร ดิน น้ำ ระบบนิเวศวิทยา ส่งผลเสียหายระยะยาว ผู้บริโภคตายผ่อนส่ง แทนการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าปลอดพิษ
นโยบายโดนใจ ซื้อใจ แม้จะเป็นเพียงชั่วคราว แบบนี้ได้ผลยั่งยืนแน่! พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกได้ประโยชน์จากโครงการประชานิยมยุคแรก ยังจำได้ ติดใจมาก ถึงได้แห่กันไปกาเบอร์ให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเหลี่ยมร้ายจนชนะขาด
ช่วงนี้น้องปู โคลนนิ่งเดินสายโกยคะแนนจากชาวบ้านเหยื่อน้ำท่วม ภัยธรรมชาติ สละความสุขจากห้องแอร์ ห้องสปา ร้านเสริมสวย ไปลุยชนบท ทนดมกลิ่นโคลนดิน เปิดจมูกสูดกลิ่นเหงื่อไคลชาวรากหญ้าคนมีความทุกข์สุมเต็มหัวอก
นี่เป็นการลงทุนด้วยกำลังกาย งานต่างๆ มีคณะจัดทำไว้ล่วงหน้า เพียงแค่ไปปรากฏตัว พบปะรากหญ้าเก็บไว้เป็นฐานเสียง แค่นี้ก็ทิ้งป่าสะตอไม่เห็นฝุ่น
นี่คือการกระชับอำนาจ ใช้ความเป็นผู้หญิงเป็นจุดแข็ง แทบไม่มีความเคลื่อนไหวจากพรรคร่วมรับประทาน ซึ่งต้องระวัง จะเปิบหนักซึ่งหน้าตามใจสะดวกเหมือนยุค “มาร์ค โพเดียม” ไม่ได้! ต้องแบ่งเข้ากงสีกลางอย่างที่ต้องทำ
ชาวบ้าน คนห่วงบ้านเมืองต้องทำอย่างไร? ช่วงนี้ได้แต่ทำใจ นั่งดูการเหลิงอำนาจทำตาปริบๆ เวทนาชะตากรรมแผ่นดินซึ่งติดกับในบ่วงเวรซ้ำซาก หวังเพียงให้เครือข่ายเหลี่ยมร้ายเหิมเกริม ผยองอำนาจ จนพลาดสะดุดขาตัวเอง
จะเกิดขึ้นหรือไม่ เริ่มมีแวว! ถ้าจริง จะเห็นกิ้งกือตกท่ออีกครั้งนะดิ! อิอิอิ!!!
ทำให้ชาวบ้านลืมลีลาฝ่ายค้านในสภาฯ หลังจากตีกินได้ในรูปแบบเดิมๆ! จากนี้ไปฝ่ายค้านทำได้เพียงอ้าปากหวอ เมื่อเห็นการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ผงาดลั้ลลา รวบยอด กอดเก้าอี้ ไม่สนใจคำท้วงติง เสียงนก เสียงกา!
จะมีแต่เสียง “ปู โคลนนิ่ง” เจื้อยแจ้ว “ยินดีรับฟังข้อเสนอ ความคิดเห็น ข้อแนะนำ เสียงเรียกร้องของพี่น้องประชาชน” ออกแนวภาษาดอกไม้
เชื่อเถอะ รัฐบาลจะฟังแล้วเฉย ป้อนคำหวานต่อไป! เสียงสั่งของเหลี่ยมร้ายคือคำประกาศิต ซึ่งกำหนดเส้นทางนโยบาย แนวทางปฏิบัติแทบทุกย่างก้าว
การใช้อำนาจเต็ม ทำให้รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยมร้ายได้เดินตามแผนรัดกุม อุดช่องโหว่ ไม่ให้พลาดเหมือนครั้งก่อน ขยายฐานอำนาจ โยกย้ายข้าราชการแบบไม่มีใครกล้าหือ! คำโอดครวญ “ข้าราชการเสียกำลังใจ” จะไม่มีให้ได้ยินอีก
ตัวเหลี่ยมร้ายไม่อยู่สู้คดี ยอมหนีคุกต่อ จ้อต่างประเทศ ใช้คำพูดถ่มถุยใส่แผ่นดินเกิดเหมือนเดิม หวังใช้อำนาจรัฐจากน้องสาวช่วยเปิดทางท่องโลก แสดงให้เห็นว่าตัวเองกุมอำนาจ แม้ปากจะบอกว่าไม่ยุ่งเกี่ยว! มีแต่คนบ้องตื้นที่เชื่อ
รัฐบาลมีน้องปู โคลนนิ่ง เคลื่อนไหวอยู่เป็นฉากหน้า เบื้องหลังมีทั้งพี่น้อง อดีตสะใภ้ เขย สานมือ ประสานงา งัดข้อ แก่งแย่งกันใช้อำนาจนอกระบบ
โยกย้ายข้าราชการ แต่งตั้งพวกสอบตกเลือกตั้ง และตัวแสบเสื้อแดงให้นั่งตำแหน่งการเมือง กินเงินเดือนจากภาษีเหยื่อของความลำบากจากวิกฤตเผาบ้านเผาเมือง เป็นการปูนบำเหน็จผลงานก่อการร้ายเอาไว้เป็นฐานมวลชน
อย่าว่าแต่ข้าราชการ ตำแหน่ง ผบ.ตร. และผบ.เหล่าทัพ ดีเอสไอ หัวหน้าหน่วยงานสำคัญ เป็นพลังการมือง ก็ถูกคาดว่าจะไม่รอดสันดอนด้วย ยังมีแผนตัดกำลังฝ่ายตรงข้าม เปิดทางตีเมืองขึ้น เพื่อความมั่นคงของอำนาจ!
ทำให้เห็นซึ่งๆ หน้าแบบนี้แหละ ใครไม่ชอบใจก็ช่าง จะทำอะไรได้! มีเสียงโหวกเหวกเป็นระยะๆ จากป่าสะตอเท่านั้น แต่ให้คุณให้โทษใครไม่ได้ เสียงของฝ่ายค้านยุคนี้ไร้ราคา ข้าราชการสมเพช ชาวบ้านสมน้ำหน้า อยากซ้ำเติมอีกด้วย
“จะคร่ำครวญหาสวรรค์วิมานอะไร เมื่อเป็นรัฐบาลไม่ฟังใคร ปอดแหก แถมยังเร่งสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองและพวกพ้อง งาบ 50 เปอร์เซ็นต์”
รัฐบาล “ปู โคลนนิ่ง” เริ่มด้วยการเอาใจชนชั้นกลาง กลุ่มเศรษฐี ด้วยการตัดราคาน้ำมันเบนซินโช๊ะๆๆๆๆ 7-8 บาทต่อลิตร! จากนั้นจะปรับราคาภาษีให้เข้าที่ เอาเงินคืน เป็นยุทธศาสตร์กินหลายต่อ ทั้งเงินและกล่องดวงใจชาวบ้าน
รู้ทั้งรู้ว่าการลดราคาน้ำมันเหมือนการแจกอมยิ้ม คนชอบใจ แต่หารู้ไม่ว่าอีกไม่นานจะทำให้ฟันผุ! การทำให้โครงสร้างราคา การใช้ การผลิตบิดเบี้ยว จะส่งผลร้ายต่อเนื่องทั้งในภาคเกษตร ต้นทุนการผลิตสินค้า ค่าครองชีพเป็นลูกโซ่
ลดราคาน้ำมัน 6 เดือน จากนั้นขยับสู่ระดับเดิม นั่นจะทำให้ราคาสินค้ากระโดดขึ้นอีกรอบ เพราะการลดราคาเบนซินครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ราคาสินค้าลดลง
ถึงตอนนั้นชาวบ้านจะโอดครวญก็ไม่ฟังเสียง หลังจากได้สบายกับน้ำมันราคาถูกระยะหนึ่ง เหมือนคนนั่งกินอาหารอร่อยๆ ยังไม่อิ่ม ก็เพิ่มราคาแล้ว!
นี่เป็นยุทธการยึดเมือง ล่อลวง กวาดต้อนชาวบ้านให้เข้าคอกเป็นเหยื่อนโยบายขายฝัน เอาเงินอนาคตมาใช้ เป็นทาสดักดานจนขาดอิสระในการดำรงชีพ เสี่ยงต่อหายนะจากหนี้สินรอบใหม่ในภาคเกษตรผ่านโครงการพักหนี้ บัตรเครดิต
ส่งเสริมให้ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี พิษร้ายทำลายวงจรธรรมชาติ มีสารอันตรายตกค้างในอาหาร ดิน น้ำ ระบบนิเวศวิทยา ส่งผลเสียหายระยะยาว ผู้บริโภคตายผ่อนส่ง แทนการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าปลอดพิษ
นโยบายโดนใจ ซื้อใจ แม้จะเป็นเพียงชั่วคราว แบบนี้ได้ผลยั่งยืนแน่! พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกได้ประโยชน์จากโครงการประชานิยมยุคแรก ยังจำได้ ติดใจมาก ถึงได้แห่กันไปกาเบอร์ให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเหลี่ยมร้ายจนชนะขาด
ช่วงนี้น้องปู โคลนนิ่งเดินสายโกยคะแนนจากชาวบ้านเหยื่อน้ำท่วม ภัยธรรมชาติ สละความสุขจากห้องแอร์ ห้องสปา ร้านเสริมสวย ไปลุยชนบท ทนดมกลิ่นโคลนดิน เปิดจมูกสูดกลิ่นเหงื่อไคลชาวรากหญ้าคนมีความทุกข์สุมเต็มหัวอก
นี่เป็นการลงทุนด้วยกำลังกาย งานต่างๆ มีคณะจัดทำไว้ล่วงหน้า เพียงแค่ไปปรากฏตัว พบปะรากหญ้าเก็บไว้เป็นฐานเสียง แค่นี้ก็ทิ้งป่าสะตอไม่เห็นฝุ่น
นี่คือการกระชับอำนาจ ใช้ความเป็นผู้หญิงเป็นจุดแข็ง แทบไม่มีความเคลื่อนไหวจากพรรคร่วมรับประทาน ซึ่งต้องระวัง จะเปิบหนักซึ่งหน้าตามใจสะดวกเหมือนยุค “มาร์ค โพเดียม” ไม่ได้! ต้องแบ่งเข้ากงสีกลางอย่างที่ต้องทำ
ชาวบ้าน คนห่วงบ้านเมืองต้องทำอย่างไร? ช่วงนี้ได้แต่ทำใจ นั่งดูการเหลิงอำนาจทำตาปริบๆ เวทนาชะตากรรมแผ่นดินซึ่งติดกับในบ่วงเวรซ้ำซาก หวังเพียงให้เครือข่ายเหลี่ยมร้ายเหิมเกริม ผยองอำนาจ จนพลาดสะดุดขาตัวเอง
จะเกิดขึ้นหรือไม่ เริ่มมีแวว! ถ้าจริง จะเห็นกิ้งกือตกท่ออีกครั้งนะดิ! อิอิอิ!!!