xs
xsm
sm
md
lg

แม้วกลับดูไบ เลิกเยือนกัมพูชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำนักข่าวเกียวโด รายงานข่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เดินทางมาเยือนประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว โดยขึ้นเครื่องบินที่ สนามบินฮาเนดะ

พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวก่อนออกเดินทางว่า การเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ ได้มีโอกาสพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก ได้พบทั้งกลุ่ม ส.ส. และ ส.ว. ของประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่า ในอนาคตรัฐบาลไทยในการบริหารของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะดำเนินการกระชับสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและไทยให้มากยิ่งขึ้นแน่นอน และการเข้าประเทศญี่ปุ่นถือเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่น ที่เปิดโอกาสให้ได้เดินทางเข้าประเทศครั้งนี้ด้วย ขณะที่แผนการเดินทางต่อไปนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะเปลี่ยนเครื่องที่มาเก๊า ก่อนเดินทางกลับดูไบ โดยยังไม่มีแผนที่จะเข้าประเทศกัมพูชา ในระยะนี้แต่อย่างใด

**เด็จพี่อัดปชป.ดิสเครดิตปึ้ง

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาอ้างว่าการจะเดินทางเข้าประเทศอังกฤษของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้นจะได้รับการช่วยเหลือเพื่อเจรจาเรื่องการออกวีซ่าจาก นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตนคิดว่าการออกมาระบุเช่นนี้ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นการจ้องที่จะดิสเครดิตนายสุรงพษ์ โดยไม่คำนึงถึงความสำคัญระหว่างประเทศ ประเทศอังกฤษนั้นถือเป้นประเทศที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย การไปกล่าวหาเช่นนี้โดยไม่มีข้อเท็จจริงนั้นถือเป็นการทำงานที่ไม่สร้างสรรค์

** เตือน“ทักษิณ”ระวังกลับประเทศไม่ได้

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุผ่านสื่อต่างประเทศว่า พร้อมที่จะกลับประเทศไทย มาเป็นผู้นำต่อ หากคนไทยยังให้โอกาสนั้น กรณีนี้อยากทำความเข้าใจว่า สาเหตุที่คนเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาก็เพราะนโยบายแก้บนที่ได้ไปประกาศว่าจะให้ จะทำ จนสร้างความคาดหวังกับพี่น้องประชาชนทั้งค่าแรง 300 บาท เงินเดือน 1.5 หมื่นบาทและอีกสารพัดเรื่อง เรียกได้ว่าเลือกเข้ามาเพราะนโยบานคำหวาน แต่ไม่ได้เลือกเพราะจะเอาพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านสองกรณีนี้เชื่อมโยงกัน จะมีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญและ โยนหินถามทางว่าสังฝคมจะเอาด้วยหรือไม่อย่างไร ซึ่งหากพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาจริง ส่วนตัวเชื่อว่าจะกิดการเผชิญหน้าของคนไทยด้วยกันเองทันที จนส่งผลให้รัฐบาลนี้มีอายุสั้นลงกว่าที่คาดคิดไว้ เพราะเวลานี้คนไทยต่างจับตามองว่ารัฐบาลนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไปในทุกเรื่อง ทั้งการเตรียมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทำเพื่อคนเดียวแต่มีการอ้างว่าทำเพื่อส่วนรวม การตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นข้าราชการการเมืองที่ถือเป็นการท้าทายชนิดไม่สนใจความรู้สึกของสังคม รวมถึงกรณีการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา วาที่สุดแล้ว รัฐบาลนี้จะทำเพื่อคนเดียวหรือไม่

**ถกฎีกาคดี “หญิงอ้อ”วันนี้

มีรายงานว่า นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะหารือกับอัยการสูงสุดวันนี้ (29 ส.ค) ภายหลังจากที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง คุญหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร น.ส.กาญจนาภา หงษ์เหิน ส่วน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ให้รอลงอาญา 1 ปี แต่ปรับเพิ่ม 2 แสนบาท ในคดีหลีกเลี่ยงภาษีหุ้นชินคอร์ป ว่าจะมีการยื่นฎีกาหรือไม่ เพราะถือว่าคดียังไม่สิ้นสุด ทั้งนี้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่ได้ทราบรายละเอียดว่า นำกรณีดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมด้วยหรือไม่ เนื่องจากตนไม่ได้เข้าประชุม เพราะติดภารกิจอยู่ที่ต่างจังหวัด

***โฆษกศาลปัดการเมืองแทรก “คดีหุ้นชิน”

วานนี้ (28 ส.ค.) นายสิทธิศักดิ์ วนชะกิจ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานศาลอุทธรณ์ มีความเห็นแย้งประเด็นคำพิพากษาที่ให้รอลงอาญา 1 ปี นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ อดีตประธานกรรมการบริหารบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่องค์คณะพิพากษาศาลอุทธรณ์รอลงอาญา 1 ปี และปรับ 1 แสนบาท ในคดีเลี่ยงภาษีหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 546 ล้านบาทเศษเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า คำพิพากษาของศาลนั้นเป็นดุลยพินิจขององค์คณะผู้พิพากษา และมีอิสระในการพิจารณาคดี ซึ่งการทำงานของศาลจะมีกระบวนการกลั่นกรองเป็นไปตามลำดับขั้นเช่นเดียวกับกรณีที่ศาลอุทธรณ์มีความเห็นแย้ง

นายสิทธิศักดิ์ กล่าวว่าทั้งนี้หากฝ่ายโจทก์ยื่นฎีกาต่อ ศาลฎีกาก็จะมีการนำประเด็นความเห็นแย้งดังกล่าวไปพิจารณาประกอบในสำนวนด้วยความรอบคอบ ซึ่งประธานศาลอุทธรณ์เป็นมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านภาษีอากร

“ ขอยืนยันว่าการพิจารณาตัดสินคดีดังกล่าวองค์คณะผู้พิพากษาใช้ดุลยพินิจไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ไม่ได้เป็นการเอาใจฝ่ายการเมือง และไม่มีการแทรกแซงของการเมืองแต่อย่างใด” นายสิทธิศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย.
กำลังโหลดความคิดเห็น