xs
xsm
sm
md
lg

“ซินไฉฮั้ว”สลัดภาพรุ่นเก่า รุกไฮเอนด์-ขึ้นห้าง-ทุ่ม150ล.ขยาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ซินไฉฮั้ว” สลัดภาพคร่ำครึ ชะลอขยายเคาน์เตอร์หน้าร้าน โหมบริการใหม่มากขึ้น ชูแบรนด์ใหม่  “The Closet บายซินไฉฮั้ว” จับกลุ่มไฮเอนด์ เล็งทุ่ม 150 ล้านบาทขยายโรงงานรับกลุ่มใหม่โรงพยาบาล พร้อมรีโนเวทเคาน์เตอร์เดิม

นายปิยะพล กัญจนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ ซินไฉฮั้ว กรุ๊ป ผู้ให้บริการซักอบรีด เปิดเผยว่า ซินไฉฮั้วกรุ๊ปได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจและภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่เพื่อให้มีความทันสมัยตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย รวมทั้งการขยายฐานสู่กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมที่ลูกค้าหลักเป็นกลุ่มผู้ใหญ่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไปแล้วมากกว่า 60-70% จากลูกค้าทั้งหมด

ทั้งนี้ได้ชะลอการขยายสาขาหรือเคาน์เตอร์หน้าร้านใหม่ เพื่อปรับปรุงสาขาเดิมที่มีอยู่กว่า 40 แห่ง (เป็นของซินไฉฮั้ว 70%  ของคู่ค้า 30%) ให้มีภาพลักษณ์ทันสมัยตกแต่งใหม่สไตล์โมเดิร์นจากเดิมเป็นแค่เคาน์เตอร์รับผ้าธรรมดา  ซึ่งทั้ง 40 แห่ง ปัจจุบันมีอยู่ในห้างสรรพสินค้า 20 แห่ง ที่เหลือจะเป็นสแตนด์อโลน ซึ่งเรามีแผนที่จะปิดแบบสแตนด์อโลนและนำมาเปิดในห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตแทน คาดว่าจะทยอยปรับปรุงแล้วเสร็จประมาณ 3 ปีจากนี้ และตั้งงบประมาณปรับปรุงรวม 50 ล้านบาท โดยได้เปิดสาขาใหม่ต้นแบบที่เดอะไนน์ถนนพระรามเก้าไปแล้ว ซึ่งโฉมใหม่นี้จะมีการบริการใหม่เสริมเข้ามาจากเดิมด้วย

ล่าสุดยังได้เปิดตัวร้านแบรนด์ใหม่ “The Closet บายซินไฉฮั้ว” เปิดสาขาแรกแล้วที่ศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า พื้นที่ 60 ตารางเมตร ลงทุน 5 ล้านบาท จับกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมี่ยม และมีบริการใหม่ๆนอกเหนือจากแบรนด์เดิม ทั้งการรักษาและการทำความสะอาด การซ่อมแซม  การซักอบรีดเสื้อผ้า เครื่องหนัง อุปกรณ์ต่างๆ เข็มขัด  เป็นต้น และมีห้องให้ลูกค้าแต่งตัวด้วย ราคาค่าบริการเฉลี่ย  300 บาทต่อชิ้นสำหรับเสื้อผ้าธรรมดา และกระเป๋าประมาณ 1,300 บาทต่อใบ เป็นต้น ตั้งเป้าหมายรายได้เฉพาะสาขานี้ในช่วง 4 เดือนนี้ประมาณ 5 ล้านบาท หรือมีลูกค้าประมาณ 1,000 ราย โดยเป็นฐานลูกค้าเดิม 50% และเป็นลูกค้าใหม่ 50%

“การเปิดร้านแบรนด์ THE CLOSET บาย ซินไฉฮั้ว  นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของซินไฉฮั้ว  เพื่อเน้นการบริการมากขึ้น เพราะสินค้าของเรา คือบริการเฉพาะกลุ่ม ที่ผ่านมาลูกค้าเดิมบางส่วนเป็นกลุ่มตลาดบนอยู่แล้วและเรายังมีกลุ่มลูกค้าใหม่คือ เจนเนอเรชั่นวายและไอ ที่มีกำลังซื้อสูงและมีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว ดังนั้นตลาดกลุ่มนี้ยังมีทีว่างให้เราได้พัฒนาการให้บริการอีกมาก เราจะรีไมน์แบรนด์พร้อมกับการพัฒนาการบริการให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าของเรามากขึ้น”  นายปิยะพล กล่าว

รวมทั้งยังวางแผนการลงทุนด้วยงบประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับขยายตลาดในส่วนของการรับซักรีดกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งบริษัทฯจะขยายในกลุ่มนี้ จากเดิมที่มีกลุ่มลูกค้าหลัก 2 กลุ่ม คือ  1.กลุ่มทั่วไป ที่เป็นรายบุคคล   2.กลุ่มองค์กรหรืออุตสาหกรรม เช่น บริษัท โรงแรม องค์กรต่างๆ สายการบิน เป็นต้น โดยจะขยายในส่วนของลูกค้าที่เป็นโรงพยาบาลเนื่องจากว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีการเติบโตดี จากปัจจุบันบริษัทฯมี 2 โรงงานคือ 1.ย่านคลองตัน สำหรับซักอบรีดลูกค้าทั่วไป ความสามารถรับบริการ 3,000 ชิ้นต่อวัน  2.ถนนร่มเกล้า สำหรับการฟอกย้อมผ้า

สำหรับรายได้รวมของทั้งกรุ๊ปปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 1,000 ล้านบาทเติบโต 5% และถือเป็นผู้นำในตลาดซักอบรีดนี้ จากปัจจุบันที่มีรายใหญ่ในตลาดไม่กี่ราย เช่น  วอชมี  มิสซิสลอนดรี้ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น