xs
xsm
sm
md
lg

คนใต้ปิดถนนเพชรเกษม 41 จี้“ปูแดง”พัฒนาด้ามขวานด้วยสีเขียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือข่ายประชาชนภาคใต้ร่วมกันประกาศแผนพัฒนาภาคใต้ด้วยสีเขียว และเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความเคารพในสิทธิชุมชน เร่งกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นเพื่อให้ประชาชนได้เป็นผู้กำหนดแผนพัฒนาและอนาคตตัวเองได้อย่างแท้จริง
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายประชาชนภาคใต้และพลังนักศึกษาร่วมปิดถนนเปิดสภาเพชรเกษม 41 ขาเข้ากรุงเทพฯ ทำกิจกรรมแพลงกิ้งปกป้องแผ่นดินบ้านเกิด เรียกร้องให้รัฐบาล "ปูแดง"พัฒนาภาคใต้ด้วยสีเขียว ให้ความเคารพในสิทธิชุมชน เร่งกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นเพื่อให้ประชาชนได้เป็นผู้กำหนดแผนพัฒนาและอนาคตตัวเองได้อย่างแท้จริง แทนการรวมศูนย์อำนาจและมีรัฐบาลรวมหัวนายทุนเหยียบหัวชาวบ้านยัดเยียดแผนพัฒนาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้คนเพียงกระจุกเดียว

วานนี้(22 ส.ค.)เวลา 09.00 น.ที่วนอุทยานแห่งชาติเขาพาง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เครือข่ายประชาชนภาคใต้ได้ร่วมปฏิบัติการเพชรเกษม 41 เป็นวันที่ 2 จากเมื่อคืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมามีเครือข่ายประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ และตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในภาคใต้ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้รวมตัวกันมาแล้วครั้งหนึ่งโดยมีการร่วมทำกิจกรรมเพียงครึ่งวันในช่วงเช้า โดยเริ่มจากการร่วมกันเขียนโปสการ์ดแสดงความรู้สึกต่อการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ที่แสดงออกต่อการกำหนดอนาคตตัวเองในแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ส่งถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

จากนั้น ได้เดินมาทำกิจกรรมบนถนนเพชรเกษม 41 ที่มีการปิดช่องจราจร 2 เลนส์ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ โดยมีนายทรงวุฒิ พัฒแก้ว และนายวิโชค รณรงค์ไพรี เป็นแกนนำร่วมทำกิจกรรมโดยเริ่มจากการแพลงกิ้ง หรือนอนทำท่าแกล้งตายบนถนนเพื่อให้รับรู้ถึงความรู้สึกอบอุ่นบนผืนแผ่นดินบ้านเกิด ที่มีความผูกพันมาหลายชั่วอายุคน ตลอดจนคิดทบทวนตัวเองต่อบทบาทในการร่วมปฏิบัติการปกป้องทรัพยากรในครั้งนี้ ซึ่งหากผู้ใดเข้ามาย่ำยีทำลายทรัพยากรธรรมชาติและวิถีชีวิตของบ้านเกิดแล้ว โดยเฉพาะวิกฤตของแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ที่กำลังจะเดินหน้าทุกจังหวัดนับตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ที่ดาหน้าผุดเกินความจำเป็นเพื่อป้อนให้แก่นิคมอุตสาหกรรม โรงถลุงเหล็ก และยังต้องสร้างเขื่อนอีกหลายพื้นที่ให้อก่โรงงาน เป็นต้น นับเป็นการเปิดศึกไล่ที่ทำกินที่อยู่อาศัยและแย่งทรัพยากรของชาวบ้านยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นกับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมาก่อน

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วประชาชนจะยอมเป็นผู้ถูกกระทำหรือไม่ ทำให้ประชาชนที่กำลังนอนแกล้งตายต่างลุกขึ้นตะโกนและประกาศว่า "เราจะไม่ยอม" พร้อมทั้งหันหน้าไปทางทิศเหนือเพื่อบอกกล่าวคนที่กำหนดแผนพัฒนาภาคใต้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ พร้อมทั้งทิ้งป้ายผ้าขนาดใหญ่ประกาศเจตนารมณ์ต้องการแผนพัฒนาที่กำหนดอนาคตตัวเองและจะไม่ยอมให้กลุ่มคนที่มีอำนาจ ซึ่งอยู่นอกพื้นที่เข้ามาทำโน่นทำนี่กับภาคใต้ โดยที่คนในพื้นที่ต้องรับความเดือดร้อนและไม่ได้ยินยอมกับแผนพัฒนาใดๆ ที่คิดขึ้นมา

ต่อมาได้มีการจำลองประชุมรัฐสภาบนถนนเพชรเกษม โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ซึ่งได้มาจากการคัดเลือกขึ้นเวทีเพื่อแถลงนโยบายต่อการพัฒนาภาคใต้ โดยมีใจความสำคัญว่า "จะไม่ให้พื้นที่ภาคใต้มีการพัฒนาที่เป็นอุตสาหกรรม แต่จะเน้นการพัฒนาด้านเกษตรและบริการ การท่องเที่ยวตามฐานทรัพยากรที่มีอยู่และต้องให้การศึกษาแก่เยาวชนให้เรียนรู้ความเป็นแผ่นดินไทย ประวัติศาสตร์ และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งหล่อเลี้ยงทุกชีวิตแทนการรับใช้นายทุนที่คดโกงคนส่วนใหญ่เพื่อผลประโยชน์ของคนกลุ่มเดียว สอดคล้องกับแนวคิดที่จะต้องกระจายที่ทำกินแทนการมีที่ดินเพื่อเก็งกำไรของกลุ่มทุน"

ด้านการปกครองนั้น เห็นควรให้รัฐบาลเร่งกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่น เพื่อให้แผนพัฒนาต่างๆ เกิดขึ้นจากระดับล่างเป็นผู้กำหนดทิศทางของพื้นที่ตัวเอง ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพราะคนส่วนกลางเข้ามาวางแผนทั้งสิ้น รวมถึงให้ยกเลิกตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ให้ท้องถิ่นได้เลือกตั้งกันเอง ขณะเดียวกันให้เร่งรัดคดีการกระทำผิดของกลุ่มทุนที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน ด้วยเป็นการกระทำที่เบียดเบียนทั้งทรัพยากรของคนในประเทศแล้ว ยังทำลายวิถีชีวิต ความสงบสุขของเพื่อนมนุษย์อย่างไร้ความเมตตา

ทั้งนี้ ได้มีการตอกย้ำเจตนารมณ์และจุดยืนว่า แผนพัฒนาที่เหมาะสมกับภาคใต้นั้นต้องตั้งตามศักยภาพของประชาชนในท้องถิ่น รักษาอาชีพประมงชายฝั่ง การสร้างพลังงานทดแทนจากวัสดุท้องถิ่น การเกษตรที่สอดคล้องกับภูมิประเทศ การท่องเที่ยวที่เคารพชุมชนและรักษาสิ่งแวดล้อม ระบบเศรษฐกิจที่ไม่เอาเปรียบคนในชุมชน และการศึกษาที่ทำให้คนมีความภาคภูมิใจตนเอง โดยรัฐบาลต้องมีนโยบายการพัฒนาที่เป็นสีเขียวในภาคใต้นั่นเอง

กำลังโหลดความคิดเห็น