xs
xsm
sm
md
lg

เปิดม่านปฏิบัติการเพชรเกษม 41 “หมอนิรันดร์” หนุนชาวบ้านกำหนดแผนพัฒนาเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 เริ่มขึ้นแล้วที่วนอุทยานเขาพาง จ.ชุมพร โดยเครือข่ายประชาชนภาคใต้ได้ร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก พร้อมอ่านคำประกาศฉบับที่ 1 ด้าน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ตอกย้ำความสำคัญของสิทธิชุมชน ซึ่งจะผลักดันให้แก้วิกฤตของสังคมที่ถูกกลุ่มผู้มีอำนาจใช้โครงการพัฒนาเป็นเครื่องมือผูกขาดทั้งอำนาจและทรัพยากรธรรมชาติ ก่อนฝากให้กิจกรรมในครั้งนี้ร่วมเปลี่ยนแปลงการพัฒนาที่มาจากความต้องการของชุมชน และให้รัฐเร่งกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง

วันนี้ (21 ส.ค.) เวลา 16.00 น.ณ วนอุทยานเขาพาง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เครือข่ายประชาชนภาคใต้ จัดกิจกรรม “ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 คนใต้กำหนดอนาคตตนเอง” โดยมีประชาชนจากทั่ว 14 จังหวัดภาคใต้ เครือข่ายสตรี 14 จังหวัด รวมถึงในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งเข้ามาประกอบอาชีพในภาคใต้เข้าร่วมอย่างคึกคัก โดยมีการจัดนิทรรศการ และเปิดเวทีวิชาการ การแสดงศิลปวัฒนธรรมจนกระทั่งเวลา 22.00 น.ของคืนนี้ พร้อมทั้งปักหลักค้างแรมเพื่อร่วมกิจกรรมต่อในวันพรุ่งนี้ โดยมีไฮไลท์ที่การแพลงกิ้งไม่เอาแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวสิทธิพลเมืองต่อการพัฒนาแผนภาคใต้ที่ยั่งยืน ว่า รัฐธรรมนูญได้กำหนดให้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน และนี่เป็นความหมายของ ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ที่บ่มเพาะการเผชิญหน้ากับปัญหาโครงการพัฒนาต่างๆ จึงรวมตัวกันปฏิเสธและบอกความต้องการแนวทางพัฒนาที่ตนเองต้องการ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของคนใต้ที่แสดงออกถึงความเป็นพลเมือง ที่มีจิตสำนึกในการเป็นอิสระ ปกครองตนเอง ตลอดจนกำหนดโชคชะตาและต่อต้านอำนาจรัฐที่ไม่ชอบธรรม รวมถึงบอกกล่าวกับรัฐบาลชุดต่อไปด้วยว่าคนใต้ต้องการการพัฒนาเช่นไร และรัฐต้องให้ความสำคัญกับเสียงเหล่านี้ ด้วยหลักความเป็นธรรมด้วยความเคารพในหลักสิทธิชุมชนที่เป็นอำนาจของประชาชน

สิ่งที่ทำให้ประชาชนอยู่อย่างไม่ปกติสุข ไม่ได้มีเฉพาะปัญหาข้าวยากหมากแพง ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรีเพิ่มเป็น 15,000 บาท แม้ทุกคนยังไม่ได้รับแต่ข้าวของขึ้นราคาแล้ว ปัญหาภัยธรรมชาติก็กลายเป็นเหยื่อโอชะของนายทุนและนักการเมืองที่จะเข้ามาคอรัปชั่นโครงการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ กลายเป็นวิกฤตความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ซึ่งคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่สามารถกำหนดชีวิตของตัวเองได้ เพราะถูกจำกัดด้วยคนออกนโยบายเพียงไม่กี่ร้อยคนในสภา ซึ่งเราเองได้มอบอำนาจเพื่อกลับสร้างปัญหาให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนและออกมาร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิถึงแผนพัฒนาทะเลชายฝั่งภาคใต้ ว่าจะมีแผนพัฒนาที่ทำลายฐานทรัพยากร โดยไม่คำนึงถึงความเหลื่อมล้ำของการมีสิทธิในการประกอบอาชีพ รัฐทำโครงการให้ทรัพยากรส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของนายทุน เฉพาะ จ.สตูล มีโครงการใหญ่ถึง 5 โครงการ, จ.นครศรีธรรมราช มีกว่า 20 โครงการ เมื่อเข้ามาแล้วประชาชนจะอยู่ที่ไหน และมีตัวอย่างการพัฒนาอย่างไร้ทิศทางของนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก เปลี่ยนวิถีชีวิตคนที่มีความสุขมาเป็นทาสของโรงงานอุตสาหกรรม

และจากการตรวจสอบพบว่า ถูกกำหนดโดยทุนข้ามชาติ ทุนรัฐวิสาหกิจว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาต่างประเทศมาวางแผนการพัฒนาในภาคใต้ทั่วประเทศ ซึ่งตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงมามีถ่านหิน บ่อน้ำมันในอ่าวไทย และได้มีการขีดเส้นแบ่งสัมปทานแบ่งเค้กประเทศไทยในโครงการจัดการพลังงานแร่ บ่อน้ำมันเรียบร้อยแล้ว โดยให้รัฐวางแผนพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ระบบลอจิสติกส์เพื่อรองรับอุตสาหกรรมไม่ใช่เพื่อให้ประชาชน แผนพัฒนาภาคใต้ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ขณะนี้ภาคใต้ยังอุดมสมบูรณ์ไม่เหมือนภาคอีสานที่ถูกทิ้งจนหมดแล้ว นายทุนจึงหันหน้ามาพุ่งเป้าที่ทรัพยากรของภาคใต้ แม้ว่าคนใต้จะไม่ปิดกั้นการพัฒนา แต่ต้องการให้มีการพัฒนาเกิดขึ้นจากการมีส่วนร่วมของตัวเองว่าจะกำหนดอนาคตอย่างไร ให้สามารถใช้ทรัพยากรอย่างกระจายในทุกกลุ่ม รัฐจึงต้องเข้ามาให้ข้อมูลข่าวสารว่าโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างไรให้รอบด้านทั้งข้อดีข้อเสีย เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ

นพ.นิรันดร์ ยังฝากถึงเครือข่ายประชาชนภาคใต้ เพื่อต่อยอดปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยให้ข้อคิดว่า 70 กว่าปีที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยเห็นชัดว่า ประชาชนได้มอบอำนาจให้กับคนกลุ่มหนึ่งกลับทำให้คนส่วนใหญ่ถูกช่วงชิงผลประโยชน์ และถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องยอมรับการกระจายอำนาจ และเพื่อเป็นทางรอดของสังคมไทยอยากฝากให้เครือข่ายฯ ร่วมผลักดันทางด้านนโยบายเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม ในประเด็นว่ารัฐบาลต้องเปิดให้ประชาชนเป็นส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายเองได้, แก้ไขกฎหมายลูกที่ล้าหลังให้คำนึงถึงสิทธิชุมชน เพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วประเทศ เช่น ข้อพิพาทเรื่องที่ดินกับกรมป่าไม้ เป็นต้น

ด้าน นายศศิน เฉลิมลาภ มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร กล่าวว่า หลังจากเกิดภัยพิบัตสึนามิที่ประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่น ทำให้ทะเลฝั่งอ่าวไทยกลายเป็นเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรม แหล่งพลังงาน ภาคใต้แทนที่คอคอดกระ โดยเปลี่ยนโฉมภาคใต้และเชื่อมอันดามันเพียงแค่ท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการโยนหินถามถามที่จะถมทะเลห่างจากฝั่งเพียง 10 กิโลเมตร เพื่อสร้างเมืองกลางอ่าวไทยในแถบ จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร และกรุงเทพ ซึ่งเป็นแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการยึดทะเลไทยและภาคใต้เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจ โดยมีตัวอย่างการพัฒนาของประเทศดูไบ

“ที่ผ่านมา รัฐบาลให้นโยบายกว้างๆ เพื่อกำหนดภาคใต้เป็นที่พัฒนาแต่ไม่ระบุพื้นที่ และให้ภาคเอกชนรุกการพัฒนาเป็นระยะๆ เช่นเดียวกับรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน แต่เชื่อว่าแหล่งพัฒนาด้านพลังงานนั้นจะอยู่ที่ จ.ชุมพร แน่นอน อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 เป็นรูปแบบการทำงานที่เชื่อมโยงชาวบ้าน เพื่อสื่อผ่านนายกรัฐมนตรีว่าคนภาคใต้ไม่ยอมรับการพัฒนาให้เป็นอุตสาหกรรม เพื่อรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม” นายศศิน กล่าว

เครือข่ายประชาชนภาคใต้อ่านคำประกาศฉบับที่ 1 ผ่านประชาชนคนไทย สื่อมวลชน และคนทั่วโลก ถึง “ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 เราไม่ต้องการแผนพัฒนาทำลายชีวิต คนท้องถิ่นต้องการกำหนดชีวิตตนเอง” โดยมี นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี เป็นตัวแทนอ่านคำประกาศใจความว่า

ก่อนหน้าการจัดตั้งรัฐบาลปัจจุบัน เครือข่ายชุมชนคนภาคใต้หลายจังหวัดได้ลุกขึ้นปกป้องท้องถิ่นตนเองจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมหนักในอนาคต และการถมทะเลภายใต้การวางแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ บริษัทของนักลงทุนข้ามชาติ และพรรคการเมืองต่างๆ

ทำให้แทบทุกจังหวัดของภาคใต้ประเทศไทยจะถูกเปลี่ยนโฉมหน้าเพื่อรองรับ “อุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ” หรือที่เราเรียกว่า “อุตสาหกรรมเลื่อนลอย” ที่คนกลุ่มน้อยและร่ำรวยอยู่แล้วเท่านั้นเป็นผู้ได้รับประโยชน์ ทั้งยังเปลี่ยนพื้นที่ไปเรื่อยๆ อย่างไร้ความรับผิดขอบ ข้อเสนอของเราทุกรัฐบาลที่ผ่านมาต่างละเลย ไม่แยแสต่อเสียงทักท้วง พยายามถ่วงเวลา ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร

บัดนี้ รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ยิ่งตอกย้ำชัดเจนว่าจะดำเนินการในสิ่งเหล่านี้ที่ภาคใต้ ผ่านนโยบายของพรรค การปราศรัย การให้สัมภาษณ์ในโอกาสต่างๆ ทั้งโดยตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล

ณ โอกาสนี้ พวกเราชาวภาคใต้และเพื่อนมิตร ได้เข้าร่วม “ปฏิบัติการเพชรเกษม 41” และพร้อมกันนี้เรามีคำประกาศถึงรัฐบาลใหม่และพี่น้องประชาชนไทยในโอกาสแรก ดังนี้ 1.เราไม่ต้องการนโยบายพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในทุกพื้นที่ของเรา ไม่เอานโยบายขนส่ง สะพานเศรษฐกิจรองรับอุตสาหกรรม นโยบายพลังงานน้ำมัน แผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ที่เต็มไปด้วยการทำลายชีวิตของคนท้องถิ่น หรือนโยบายอื่นใดที่ถูกกำหนดโดยคนอื่น

2.หากเพชรเกษม 41 เปรียบเสมือนเส้นทางหลักในการพัฒนาภาคใต้ เราย่อมมีสิทธิกำหนด หมดเวลาสำหรับเส้นทางการพัฒนาที่เขากำหนดให้ สิ่งที่เราต้องการคือนโยบายการพัฒนาที่ประชาชนกำหนดขึ้นเอง

อย่างไรก็ตาม ท่านทั้งหลายอาจมีคำถามว่า ถ้าไม่เอาอุตสาหกรรม ไม่เอาการพัมนาพลังงานและน้ำมัน หรือโครงการอื่นๆ ที่ส่วนกลางกำหนดให้ แล้วเราจะมีชีวิตอยู่กันอย่างไร จะมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างไร จะมีเทคโนโลยีอย่างไร ณ วันนี้เรามีเส้นทางที่เรากำหนดแล้ว และจะประเศนโยบายของเราในฉบับต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อผลักดันในสิ่งที่เราคิด แถลงมาข้างต้น เราพร้อมจะทำทุกอย่างเท่ากับสิทธิของประชาชนกระทำได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่ต้องการก่อปัญหา ไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ขอให้ท่านทั้งหลายได้ติดตามปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ในลำดับต่อไป



นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ
พี่น้องเครือข่ายคอยดูแลความปลอดภัยทั้งด้านการจราจรและระหว่างจัดกิจกรรม




เครือข่ายประชาชนภาคใต้ร่วมอ่านคำประกาศฉบับที่ 1  และให้ติดตามประกาศฉบับที่ 2 ซึ่งจะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น